WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 24, 2008

อชิรวิทย์ แฉ ม๊อบไข่ป๋า วาดผีรัฐตำรวจ

วงสัมมนาวิชาการ ฟันธง ทุนนิยมสามานย์ และ รัฐตำรวจ เป็นการวาดผีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อชิรวิทย์ แฉ ยุค คมช.ย้ายตำรวจ 7 พันตำแหน่ง ผิดกฎหมาย และมีจุดประสงค์เพื่อป่วนการเลือกตั้ง ส่วน นักธรกิจ ชี้ ทุนสามานย์ คือ ทุนผูกขาดของพวกอำมาตยาธิปไตย เช่นนายธนาคาร จรัล ยัน ทุนนิยมเป็นแค่วาทะกรรมบ้องตื้นของพันธมิตร

การเสวนา “ทุนนิยมสามานย์ กับ รัฐตำรวจ” วาดผี หรือ เป็นจริง? ที่มี นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 40 พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผบ.ตร. และ นายณัฐวุฒิ วัชรกุลดิลก เครือข่ายสุวรรณภูมิภิวัฒน์ ที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า การเมืองการปกครองมาจากระบอบประธิปไตย ซึ่งระบอบครองเมืองมาจากเสียงส่วนใหญ่ แต่ผมคิดว่า ประเทศไทยในปัจจุบัน ไม่ใช่ระบอบการปกครองประชาธิปไตย เป็นพวกวิปริตผิดอาเพศของระบอบการปกครอง ที่ใช้คำว่า กลียุค แต่บ้านเมืองของเราจะกลียุค ก็เพราะกาลีบ้านกาลีเมือง ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้บริหารประเทศ ปกครองประเทศ และเป็นเจ้าของประเทศ คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันหมด มีแค่คนปกครองแค่หยิบมือเดียวและใช้สื่อในการชักนำเท่านั้นที่กล่าวอ้างว่าปกครองประเทศ

สื่อก็ตั้งคำถามทียั่วยุ ไม่ตั้งคำถามที่ ทำให้เกิดการปรองดองสมานฉันท์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสว่า “จะตายมิได้ ถ้ายังไม่เห็นคนไทยรักกัน” ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะต้องมีแพ้ชนะ ซึ่งคนที่ได้รับเสียงข้างมาก ก็จะเป็นคนที่กุมอำนาจรัฐ กุมอำนาจข้าราชการที่ให้คุณให้โทษได้หมด คนกุมอำนาจรัฐทั้งหมดคือทหาร

“ใครขึ้นมากุมอำนาจก็จะใช้กลไกราชการทั้งหมด เช่น กรณี ในช่วงการรณรงค์รับร่างรัฐธรรมนูญ มีการย้ายข้าราชการเป็นจำนวนมาก ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีการย้ายข้าราชการและนำทหารเข้าไปคุม เพื่อไม่ให้นักการเมืองที่เป็นศัตรูเข้ามาเป็นรัฐบาล เช่นในสมัยพล.อ.สุรยุทธ จุลนานนท์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้เปลี่ยน ผบ.ตร. จาก พล.ต.อ.โกวิทย์ วัฒนะ โดยอ้างว่าไม่สามารถจัดการเรื่องระเบิดกลางเมืองกรุงเทพได้ และก่อนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวศ จะมาเป็นแทนนั้น ก่อนจะมาเป็นได้มีการยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายข้อกล่าวหา แต่พอได้รับตำแหน่งแล้ว ก็ได้มีการถอนฟ้อง และได้มีการโยกย้ายตำรวจกว่า 7 พันตำแหน่ง เช่นมีการเปลี่ยนผู้การบุรีรัมย์ และ ผู้การที่เชียงราย และ พล.ต.ต.ชัยยะ ขึ้นเป็น รองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล ซึ่งปัญหานี้จะยุติไม่ได้หากไม่ใช้หลักธรรมะ ไม่ใช้ให้ศัตรูทางความคิดมาเป็นคนตรวจสอบ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นคนผิด ให้กระบวนการยุติธรรมมาดูแล ไม่ใช่ให้พวกที่ผิดกระบวนการมาดูแล ”

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ในช่วงก่อนการปฏิวัติ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีคดีหลายคดี แต่ พอคมช.มีอำนาจได้มีการถอนฟ้องคดีนายสนธิ หลายคดี ในขณะนี้มีการพูดถึง รัฐตำรวจ ซึ่งความจริงไม่มี มีแต่ รัฐตุลาการ ที่แผ่อำนาจไพศาลไปหมด ไม่ว่าจะเป็นลากตั้งหรือสรรหา ก็มีอำนาจมาจากตุลาการ การวิเคราะห์ตามบทกฎหมาย เดิมที่ให้อำนาจตำรวจเมื่อสงสัยว่าใครผิดก็มีอำนาจควบคุม 7 วันก่อนส่งศาล แต่ต่อมาอำนาจการจับกุมถ่วงดุล เป็นอำนาจของฝ่ายปกครอง ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ 40 เหมือนกับลอกฝรั่ง ระบอบการบริหารท้องถิ่นมาใส่ในรัฐธรรมนูญ ตำรวจต้องไปขออำนาจศาลให้ไปขอหมายค้นหรือหมายจับให้เป็นดุลยพินิจของประธานศาลฏีกา หรือข้อบังคับ 29 ในกรณีจำเป็นศาลจะออกหมาย ในระบบอีเลคโทรนิคก็ได้ ขึ้นกับดุลยพินิจของประธานศาลฏีกาเช่นกัน คำพูดที่ปลุกระดมว่าเป็นรัฐตำรวจนั้น เป็นคำพูดของพวกกาลีบ้าน กาลีเมืองโดยแท้

อดีตรอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในระบบทุนนิยม มันเป็นสามานย์กันทั้งระบบ เพราะในระบบการแข่งขัน ไม่มีหรอกที่ทุนนิยมจะไม่สามานย์ เพราะการลงทุน ก็ต้องการผลกำไรทั้งสิ้น

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีผู้ต้องหาเป็นตำรวจ 2 นาย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการ แต่ขณะนี้กำลังทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการใหม่ ซึ่งแตกต่างจากการชุมนุมของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. ที่มีผู้ต้องหาเป็นประชาชน ทั้งที่เป็นเหตุการณ์การชุมนุมเดียวกัน

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมอารมณ์ ชายก็ไม่จริง หญิงก็ไม่ใช่ พอไม่ได้รับสัมปทานทีวี.ช่องหนึ่งก็โกรธแล้ว จึงมีการ วาทะกรรม เพื่อนำไปสู่การขยายผลทางการเมือง ไม่มีหลักทางวิชาการ เป็นสังคมที่ฉาบฉวย ไม่มีทฤษฎีไหนที่บอกว่า เมื่อคุณล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เผด็จการปกครองประเทศ ให้คนส่วนน้อยให้มีอำนาจ ปัญหาสำคัญคือเป็นการขัดแย้งในเชิงผลประโยชน์

“ทุนนิยมต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ทุนนิยมที่ดี กับทุนนิยมสามานย์ ทุนนิยมที่ดีคือทุนที่กระจายลงสู่ประชาชน สร้างงาน สร้างโอกาส ให้โอกาสประชาชนเข้าถึงปัจจัยการผลิตและแหล่งทุน เช่นนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทักษิณ ส่วนทุนสามานย์ คือทุนศักดินา ที่อาศัยโครงสร้างที่อยู่ภายใต้การอุปภัมถ์ของรัฐ มีวิธการผูกขาดโภคทรัพย์ ผูกขาดทุน แจกจ่ายผลประโยนช์ในกลุ่มของตัวเอง ลูกหลานและพวกพ้อง เช่นกลุ่มทุนธนาคาร สิ่งที่เกิดวิการณ์การเมือง ปีที่แล้ว คือการไม่ยอมให้ ทุนดี เข้าไปทำลายระบบผูกขาด และผมคิดว่า เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร น่าจะมีทุนนิยมสามานย์เหล่านี้อยู่เบื้องหลัง และต้องอย่าลืมว่าสื่อสารมวลชน ในปัจจุบันก็เป็นทุนผูกขาดชนิดหนึ่ง ดังนั้นการต่อต้านทุนนิยมเป็นสิ่งล้าหลังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของโลก แต่อยู่ที่การปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตเข้ากับทุนนิยมให้ได้มากกว่า”นายณัฐวุฒิ กล่าว

ด้านนายจรัล กล่าวว่า การกล่าวอ้างเรื่อง ทุนนิยมสามานย์ และ รัฐตำรวจ เป็นการใช้ วาทกรรม ของฝ่ายพันธมิตร เพื่อเป็นการตั้งเป้าหมายในการเคลื่อนไหว เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้เกิดวาทกรรม ระบอบทักษิณ ที่ทำให้นำไปสู่การเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 มาในวันนี้ได้ใช้คำว่า คำเตือนกลียุค หรือกลียุคมาแล้ว แต่ขอบอกว่าไม่ได้ผล จนนำมาสู่การใช้คำว่าทุนนิยมสามานย์กับรัฐตำรวจ แต่ทุนนิยมสามานย์ในทางประวัติศาสตร์ เป็นระบอบทุนนิยมที่ค่อย ๆ ก่อตัวในศตวรรตที่ 17 ในยุโรป เป็นรูปร่างชัดเจนในศตวรรตที่ 19 มีคน 2-3 กลุ่มเท่านั้นที่ไม่ชอบระบอบทุนนิยมเพราะไปทำลายเสรษฐกิจของเขา ได้แก่ 1.กลุ่มอนุรักษ์นิยม หรือศักดินานิยม กล่าวหาว่า ระบอบทุนนิยมไม่ดี เป็นความคิดของพวกพันธมิตร ซึ่งล้าหลังไปกว่า 300 ปี ที่ได้กล่าวอ้างถึงระบอบนี้

2.เป็นฝ่ายซ้ายหรือสังคมนิยม เป็นพวกวิพากษ์วิจารณ์ทุนนิยม และมีการตั้งพรรคการเมืองสังคมนิยมเป็นประเทศแรกที่รัสเซีย และเป็นกลุ่มแรกที่ใช้ทฤษฎีวัตถุนิยมวิพากษ์ ซึ่งมีทั้งด้านดำและขาว มีดีชั่วปะปนกันไป เขาพยายามชี้ให้เห็นว่า ทุนนิยมมีด้านดีเยอะ เพราะมีงานให้คนทำ ส่วปนระเทศไทย มีการพัฒนาระบอบทุนนิยมหลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.16 เริ่มมีนักธุรกิจเข้ามามีบทบาทางการเมืองเช่นนายบรรหาร ศิลปะอาชา ที่ได้รับแต่งตั้งเป้นสมาชิกสมัชชาในสมัยนั้น แต่ตอนนี้นายบรรหาร ดวงตาเห็นธรรมแล้ว เช่นเดียวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาส์น ที่ทำตัวเป็นเครื่องประกอบของคุณสนธิ แต่ตอนนี้ดวงตาเห็นธรรมแล้วเช่นกัน

ในทางทฤษฎีนั้นไมใมช้คำว่าสามานย์ แต่เราจะใช้คำว่าผูกขาด มือใครยาวสาวได้สาวเอา การต่อต้านทุนนิยมในการเมืองยุคปัจจุบันอย่างไรก็ไม่มีทางชนะ

ส่วนเรื่องของรัฐตำรวจ ไม่มีประเทศใดที่มีรัฐตำรวจยกเว้นรัฐทหาร ซึ่งปัจจุบันเรามีรัฐทหารทางการเมืองมาแล้วเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว แต่ตอนนี้ ประเทศไทย เป็นรัฐตุลาการ ที่เป็นซากของ คมช. เป็นพวกกุมอำนาจในประเทศไทย และพวกทหาร เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

“ทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ เป็นวาทะกรรม เหมือนที่พันธมิตร เคยสร้าง วาทะกรรมเรื่องระบอบทักษิณ ขึ้นมา ซึ่งวาทกรรมนี้ เกิดขึ้น หลังจากที่ผลิตคำว่า กลียุค ขึ้นมาแล้วจุดกระแสไม่ขึ้น คราวนี้จึงเปลี่ยนมาใช้สองคำนี้แทน โดยพื้นฐานพวกนี้มีการชูคำขวัญว่า ทุนนิยมสามานย์ เลวกว่า ศักดินาล้าหลัง ซึ่งขัดกับพัฒนาการของโลก ดังนั้นขบวนการสนธิ จึงไม่มีจริง เพราะไม่สอดคล้องกับยุคสมัย และถึงจะมีการต่อต้านทุนนิยมจริง ไม่อาจจะชนะได้”นายจรัล กล่าว