WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 24, 2008

แก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ ที่ให้พวกอำมาตย์ยุบพรรคได้เสีย ปัญหาทั้งหลายมันก็จบ หายปวดหัว

ผมมองดูว่าเกมการยุบพรรคการเมือง ที่กำลังดำเนินการโดยกลุ่มอำมาตยาธิปไตยอยู่ขณะนี้ ไม่ก่อเกิดประโยชน์อันใดแก่ประเทศชาติในส่วนรวมทั้งสิ้น เป็นเพียงแต่เกมเพื่อทำลายล้างกันทางการเมืองไม่จบสิ้น และก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองไทยในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้

หากยุบพรรคจริง โดยการยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาฯ ก่อน เพื่อปูทางไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชนในภายหลัง ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายและวิกฤตการณ์ทางการเมือง หมุนวนกลับมาฉายภาพเดิมในปี 2550 อีกครั้งหนึ่ง

แน่นอนเมื่อมีการยุบพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมืองจะสิ้นสภาพการเป็น สส.ไปด้วย รวมทั้งห้ามเล่นการเมืองเป็นเวลา 5 ปี หากยุบพรรค มฌ. และพรรคชาติไทย สส. ในสังกัด 2 พรรคนี้จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ให้ได้ภายใน 60 วัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากนัก และผมเชื่อแน่ว่า หากอยู่ในเขตเลือกตั้ง ภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือแม้แต่ภาคกลาง สส. เหล่านี้จะต้องย้ายไปอยู่พรรคพลังประชาชน อย่างแน่นอน และหากมีการเลือกตั้งซ่อมแทนกรรมการบริหารพรรคที่สิ้นสภาพไป ผมเชื่อแน่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีทางได้คะแนนเพิ่มจากพื้นที่เหล่านี้ และสถานการณ์ก็เหมือนพรรคไทยรักไทยคือ กลุ่มการเมืองของคุณบรรหาร ก็ต้องหาตัวแทนลงเลือกตั้ง และคงชนะเลือกตั้งไม่ยากนัก

หากมีการยุบพรรคพลังประชาชนในขั้นต่อไป เพราะได้ปูทางไว้แล้วจาการยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาฯ เหตุการณ์แบบเดียวกับพรรคไทยรักไทย ก็จะเกิดซ้ำ คือมีการย้าย สส.ไปพรรคใหม่ที่จัดเตรียมไว้แล้ว แบบย้ายทั้งหมด ก็จะเกิดพรรคพลังประชาชน เวอร์ชั้น 2 ตามมา

กลุ่มการเมืองที่เป็นรัฐบาลตอนนี้ คือ กลุ่มการเมือง “ขั้วตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์” ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับ ปชป. และพวกอำมาตย์ แต่มันหมายถึง “ประชาชนผู้เลือกตั้ง” ทั้งหลายพวกเขาคือ “พวกที่อยู่ขั้วตรงข้ามพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มอำมาตย์ด้วย” ใครไม่เชื่อ ก็ดูประชาชนในเว็บบอร์ดจำนวนมากที่ไม่เอา ปชป. และพวกอำมาตย์ พวก สส. และนักการเมืองเป็นตัวแทนของคนเหล่านี้ หากย้ายข้าง ก็หมายถึงว่า ไม่ได้เป็นตัวแทนของฝ่ายนี้อีกต่อไป ก็หมายถึงแพ้เลือกตั้งแน่นอน

อย่าคิดว่า ในปี พ.ศ. นี้ ประชาชนออกไปเลือกเพราะบารมี สส. แต่เขาเลือกตามอุดมการณ์และความเชื่อของพวกเขา

เมื่อผลสรุปของการยุบพรรคการเมือง นั้นเรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดพรรคพลังประชาชน เวอร์ชั่น 2 ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง แล้วประเทศชาติจะได้อะไรจากการขัดแย้งกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ประชาชนทั่วไป เหลืออดกับการเล่นเกมไม่เลิกของพวกกลุ่มอำมาตย์นี้เต็มทนแล้ว เพราะกระทบต่อการทำมาหากิน และความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง

"การรวมกลุ่มทางการเมือง" นั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในสังคม การใช้อำนาจใดก็ตาม แม้ว่าจะอ้างกฎหมาย แต่กฎหมายนั้นร่างโดยกลุ่มการเมืองที่ต้องการกำจัดคู่แข่ง ย่อมเป็นอำนาจทีไม่ชอบธรรม การห้าม หรือกีดกันเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอยู่แล้ว

การยุบพรรคการเมืองจึงเป็นเพียงแค่การทำลาย ขั้วการเมืองตรงกันข้าม เพื่อที่ขั้วการเมืองของตนเองจะได้ครองอำนาจทางการเมืองโดยการกำจัดคู่แข่งออกไป ด้วยเทคนิคทางกฎหมายนั้น มันเป็นเพียง "เครื่องมือทางการเมือง" แต่ไม่ได้ประโยชน์อันใดกับสังคมทั้งสิ้น จะมาอ้างว่าต้องทำตามกฎหมาย โดยไม่มีทางเลี่ยงนั้น ไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับการยุบพรรคการเมืองแต่อย่างใด

หากนักการเมืองทุจริต คอรัปชั่น เมื่อมีหลักฐานว่าเขาผิดจริง ไม่ใช่แค่การกล่าวหาแบบโคมลอยเท่านั้น ก็ควรเอาเข้าคุก หากมีหลักฐานว่าเขาโกงเลือกตั้ง ก็แจกใบแดงไป แต่ไม่ควรส่งผลกระทบต่อคนอื่น ที่เขาไม่ได้ทำผิดด้วย ไม่อย่างนั้น การลงโทษคนบริสุทธิ์ ลงโทษคนที่ไม่ได้กระทำผิด ย่อมขัดต่อหลักนิติธรรม ที่เป็นสากล สิ่งที่ขาดหลักนิติธรรม ย่อมไม่มีความชอบธรรมที่จะดำเนินการอยู่แล้ว และรังแต่จะก่อให้เกิดการแก้แค้น และความวุ่นวายทางการเมืองไม่รู้จักจบสิ้น

เมื่อมีการพยายามเล่นเกมยุบพรรคโดยอาศัยกฎหมายที่เขียนโดยเผด็จการยุค คมช. รัฐบาลก็ควรแก้เกมนี้ทันที โดยออกกฎหมายยกเลิกกฎหมายนี้ หรือแก้ไขก็หมายนี้เสียทันที และที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนคือต้อง “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” ทันที โดยไม่ต้องไปฟังเสียงการโวยวายของกลุ่มการเมืองตรงข้ามแต่อย่างใด เพราะพวกนี้ ก็เคยทำสิ่งที่ผิดหลักนิติธรรมมาก่อน การแก้เสียให้ถูกต้อง ย่อมเป็นความชอบธรรม และไม่ได้ขัดกับหลักนิติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น

คณะรัฐประหาร หรือ คมช. ฉีกรัฐธรรมนูญ กระทำการล้มล้างประชาธิปไตย ขัดกับหลักกฎหมายหลายประการ พวกนี้ ยังเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมตนเองย้อนหลังได้เลย

ดังนั้น รัฐบาลนี้ควรแก้เกม โดยออกฎหมายไม่ให้มีการยุบพรรคการเมืองได้

เพราะการยุบพรรคการเมือง ที่เป็นเกมทางการเมืองขณะนี้ มีแต่บั่นทอนประเทศชาติ ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นแต่อย่างใด มีแต่การเผชิญหน้ากันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

นอกจากนี้ เราจะเห็นว่า การตัดสินเรื่องยุบพรรคการเมือง ที่ผ่านมาในปี 2550 ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างชอบธรรม และเป็นธรรม พรรคหนึ่งจ้างคนลงสมัคร บอกผิดต้องยุบ พรรคหนึ่งจ้างคนไม่ให้ลงสมัครบอกไม่ผิด ไม่ต้องยุบพรรค การกระทำที่ไร้มาตรฐานเช่นนี้ ควรแก้เกมออกกฎหมายนิรโทษกรรมเสีย เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้าม คือ กลุ่มอำมาตย์ อาศัยกฎหมายเหล่านี้ เป็นเครื่องมืออีกต่อไป

พรรคพลังประชาชน ต้องดำเนินการเชิงรุก รื้อถอนกฎหมายและเครื่องมือเหล่านี้เสีย เพื่อไม่ให้เป็นประโยชน์ ต่อพวกอำมาตย์อีกต่อไป และจะเป็นการสยบกลุ่มตุลาการวิวัฒน์ ทั้งหลายไม่ให้มีเครื่องมือ มาทำลาย ประชาธิปไตย ทำลายเสียงของประชาชนส่วนใหญ่อีกต่อไป

หากไม่เอาเครื่องมือของพวกนี้ออกไปทันที ความวุ่นวายก็มีไม่รู้จบ

หากใครเคยดูหนังเรื่องพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช (เวอร์ชั่นดั้งเดิม) ตอนที่ยกทัพมาตีเปอร์เซีย มีคนเอาปมเชือกที่พันกันยุ่งที่สุดมาให้เสี่ยงทายว่า หากท่านสามารถแก้ปมเชือกนี้ได้ ก็จะได้ครองเอเซีย ที่ผ่านมาไม่มีกษัตริย์องค์ไหนสามารถแก้ปมเชือกนี้ได้ จึงไม่มีใครพิชิตเอเซียได้

พระเจ้าอเลกซานเดอร์มองแป๊บเดียวก็ชักดาบฟันไปที่ปมเชือก ปมเชือกที่พันกันยุ่งที่สุด ก็ขาดกระจาย และคลายออก จึงแก้ปมเชือกได้

มันก็เหมือนกับปัญหาทางกฎหมายที่พวกอำมาตย์พันกันไว้ยุ่ง ตั้งแต่เขียนรัฐธรรมนูญเผด็จการ ตั้งองค์กรอิสระของตัวเองเอาไว้ เขียนกฎหมายหยุมหยิมเอาไว้ และวางสายของตนเอาไว้ทั้งที่ กกต. ปปช. และในกลุ่มพวกตุลาการวิวัฒน์ทั้งหลาย

หากพวกเราตามแก้ปัญหาเหล่านี้มันก็ไม่จบเสียที พันกันยุ่งเหมือนปมเชือกเสี่ยงทายของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง เหมือนลิงแก้แห เช่นเกมยุบพรรค หากหาพรรคสำรองไว้ หรือยุบสภาหนี มันก็ยิ่งยุ่งว่นวายไม่รู้จักจบ

ก็ใช้วิธีตัดปัญหา แก้กฎหมายที่ให้อำนาจองค์กรของพวกอำมาตย์นี้เสีย ตัดปมปัญหาเสีย

ดาบมีในมือ ไม่ชักขึ้นมาตัดปมเชือก จะมัวไปนั่งแก้ปมทำไมมี

อย่าไปคิดตามกรอบของพวกอำมาตย์นี้

แต่ต้องคิดนอกกรอบคือ แก้กฎหมาย ปปช. แก้กฎมายเลือกตั้ง และแก้กฎหมาย รธน. รวมทั้งกฎหมายเจ็ดชั่วโคตรทั้งหลาย

ฟันปมทั้งหลายที่พวกอำมาตย์ผูกเอาไว้ให้มันขาดไป ปัญหาก็หมดสิ้น

ที่เหลือก็ต้องไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง ให้ประชาชนเลือก ในเกมนี้พวกอำมาตย์สู้ไม่ได้อยู่แล้ว

เป็นการตัดอำนาจพวกอำมาตย์ออกไปอย่างถาวรในวงการเมือง พวกนี้มีอำนาจได้จากกฎหมายที่หยุมหยิมเท่านั้น เอากฎหมายออกไป พวกนี้ก็ไร้อำนาจทันที เพราะอำนาจที่แท้จริงนั้นมาจากประชาชน พวกนี้ไม่ได้มีฐานเชื่อมกับประชาชน เมื่อหมดกฎหมายที่ให้อำนาจ พวกนี้ก็หมดอิทธิพลไปโดยสิ้นเชิง

สภาอยู่ในมือประชาชน แล้วตอนนี้ จะมัวไปเต้นตามเกมพวกอำมาตย์ทำไม

--------------------

บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

จาก hi-thaksin