WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 16, 2009

ลอยตัวไม่ได้

ที่มา ไทยรัฐ

น่าสนใจและต้องทำความจริงให้กระจ่าง เมื่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หรือจะเปรียบว่า ป.ป.ช.ภาครัฐ...ว่างั้นเถอะ จะต่างกับ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ว่าด้วยเรื่องของนักการเมือง ข้าราชการ

ได้สอบพบพิรุธการปฏิบัติหน้าที่ของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งขาดทุนจากการลงทุนในปี 2551 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล กบข.ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะพบว่ามีผลประกอบการขาดทุนถึง 54,991 ล้านบาท

ครับ...ตัวเลขขาดทุนไม่ใช่น้อย

กบข.นั้นเป็นกองทุนสะสมของข้าราชการทั่วประเทศกว่า

ล้านคน ที่จะได้ผลตอบแทนจากการบริหารจัดการของ กบข. ที่มีนายวิสิฐ ตันติสุนทร เป็นเลขาธิการ เมื่อพบประกอบการออกมาในรูปแบบขาดทุนจำนวนมากย่อมส่งผลกระทบต่อข้าราชการอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ป.ป.ท.ขอความร่วมมือไปยัง กบข. เพื่อขอเข้าตรวจสอบการดำเนินงาน หากไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ จะทำหนังสือถึงนาย

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรียุติธรรม ให้ประสานไปยังนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง ในฐานะประธานบอร์ด กบข.

ประเด็นที่ตรวจสอบพบว่า เหตุที่ กบข.ประสบภาวะขาดทุนจำนวนมากนั้น นอกจากภาวะตลาดหุ้นที่ตกต่ำแล้ว ยังพบว่ามีการลงทุนซื้อหุ้นหลายกลุ่ม แต่มีการลงทุน 2 กลุ่มที่ส่อพิรุธชวนให้สงสัย เพราะซื้อหุ้นที่ขาดทุนและยังลงทุนซื้อเพิ่มอีก

นอกจากนั้น ยังพบว่าการลงทุนซื้อหุ้นธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งปี 2550 จำนวน 16 ล้านหุ้น มูลค่า 2,100 ล้านบาท ปี 2551 ยังซื้อเพิ่มอีก 9 แสนหุ้น แต่มูลค่าหุ้นกลับติดลบ 800 ล้านบาท เมื่อดูจากยอดรวมพบว่า กบข.ถือครองหุ้นปี 2550 จำนวน 54,000 ล้านบาท ปี 2551 มูลค่าหุ้นลดลง 27,447 ล้านบาท

นี่คือข้อมูลที่ชวนสงสัย

ว่ากันว่าข้าราชการที่ยังไม่เกษียณปีนี้ยังมีความหวังในเงินสะสมจะเพิ่มขึ้น หากการลงทุนเป็นบวก แต่ข้าราชการที่เกษียณปี 2550 จะได้รับผลกระทบโดยตรง

นอกจากนั้น ยังพบว่าการลงทุนปี 2550 จำนวน 4 กลุ่ม จาก 6 กลุ่ม กลุ่มตราสารหนี้ในประเทศ ต่างประเทศ ตราสารลงทุนในประเทศและต่างประเทศมีผลประกอบการขาดทุน 54,991 ล้านบาท เมื่อเทียบมูลค่าแล้วพบว่าตราสารทุนในประเทศขาดทุน 28,150 ล้านบาท ตราสารทุนต่างประเทศลดลง 8,276 ล้านบาท

มีข้อสงสัยว่า เหตุใด กบข.ยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นในระดับที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก บางกลุ่มยังซื้อเพิ่มในปี 2550 ทั้งๆที่พบว่าปี 2549 และปี 2550 มีปัญหาการเมืองในประเทศซึ่งแน่นอนว่าจะต้องประสบภาวะขาดทุนอย่างไม่ต้องสงสัย

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เพราะ กบข.เอาเงินอนาคตของข้าราชการที่สะสมไว้ไปดำเนินการเพื่อหากำไร ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนในตลาดหุ้นแน่นอนว่ามีกำไรดี หากตลาดหุ้นบูมและเลือกซื้อหุ้นในตัวที่คิดว่าจะมีผลกำไรดี

ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่าการลงทุนลักษณะนี้ต้องมีความเสี่ยงสูง เพราะแม้นักเล่นหุ้นมืออาชีพที่ว่าเก่งนักเก่งหนาก็มีโอกาสที่จะขาดทุน ซึ่งมีให้เห็นอยู่แล้ว ดังนั้น การตัดสินใจของ กบข. จึงมีความสำคัญและจะต้องมีความรับผิดชอบสูง

เพราะไม่ใช่เงินของตัวเอง แต่เป็นเงินของข้าราชการเพื่ออนาคตหลังเกษียณที่ กบข.จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่ใช่จะมาอ้างว่าเป็นเรื่องปกติที่มีกำไรและขาดทุน

ข้อสำคัญก็คือ การดำเนินงานของ กบข.หรือการตัดสินใจต่างๆ ดำเนินการอย่างอิสระ เป็นข้อมูลลับภายใน ที่คนนอกหรือเจ้าของเงินไม่มีทางรับรู้ รู้เพียงว่าผลกำไร-ขาดทุนเท่านั้น ตรงนี้จึงเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบ

จะมา ลอยตัวอ้างโน่นอ้างนี่ไม่ได้แน่.

สายล่อฟ้า