WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 16, 2009

อภิสิทธิ์สั่ง ลากคอเสื้อแดง ปาระเบิด ชี้เริ่มหวั่นไหว

ที่มา ไทยรัฐ

วันที่ 15 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนปช.และคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดมีการปาระเบิดปิงปอง รองเท้าและขวดน้ำ ในขบวนรถของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงนั้น เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวของคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลอาจจะมีความพยายามให้เป็นปัญหาในเชิงข่าว หรือให้รุนแรงมากขึ้น มองว่าเป็นเพราะคิดว่าเป็นปฏิกิริยา จากการที่รัฐบาลกำลังเดินเข้าหาประชาชนในเรื่องนโยบาย อาจจะเกี่ยวพันในเรื่องการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ และเป็นการเคลื่อนไหวตอบโต้ทางการเมือง หากทำในขอบเขตไม่เป็นไร แต่รัฐบาลยืนยันความพร้อมจะเดินหน้าทำงาน เข้าหาประชาชนต่อไป เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ และประชาชนพร้อมที่จะร่วมมือกับการทำงานที่จะฟื้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะการกระทำที่เกิน ขอบเขตกฎหมายต้องดำเนินการ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็ยืนยันเดินหน้าต่อ และมั่นใจ ว่าเราสามารถเดินหน้าและรักษากฎหมายต่อได้

ยันไม่เปลี่ยนแผนให้รัฐมนตรีลงพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะรัฐบาลไม่ใช้ไม้แข็งเข้า จัดการกับกลุ่มเสื้อแดง ที่ออกมาก่อกวนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า อย่าไปเรียกว่าไม้แข็งไม้อ่อน หากใครใช้สิทธิเสรีภาพ ในขอบเขตเรายอมให้ทำ จะมาตะโกนด่าพูดจาปราศรัยได้เราอดทนอดกลั้นได้ แต่การใช้ระเบิดปิงปองหรือขว้างปาสิ่งของ เพื่อทำลายทำร้ายนั้นไม่ได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายสุเทพ จะไม่มีผลต่อแผนการลงพื้นที่ของตนเพราะที่ผ่านมาก็เรียบร้อย และมั่นใจเหลือ อีก 13 จังหวัด จะไปให้ครบ ไม่ท้อถอยเพราะคิดถึงคน ส่วนใหญ่ จะไม่กังวลกับคนจำนวนน้อย ที่ไม่เคารพและทำผิดกฎหมาย เราต้องปฏิบัติหน้าที่ให้คนส่วนใหญ่ เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกมากกว่าการ ปาระเบิดปิงปอง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เราต้องไม่ให้มีส่วน จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยหรือไม่นั้น ต้องดูเป็นบทเรียนไป ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามทำดีที่สุด ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เป็นฝ่ายที่เฝ้าระวังป้องกัน กับฝ่ายที่กระทำมันไม่ง่าย และต้องทำให้การดำเนินคดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องมีประสิทธิภาพ ครั้งที่แล้วไม่มี แบบนี้ มีขวดน้ำลอยมาบ้างก็ยังพอเข้าใจกันได้ ไม่ได้ไปทำให้ใครบาดเจ็บเสียหาย แต่ครั้งนี้ไม่ได้ มันเป็นระเบิด และพูดตรงๆนายสุเทพเป็นเป้าหมายหลักของคนเสื้อแดงอยู่แล้ว

ลั่นเป็นผู้ใหญ่พอไม่ตอบโต้ ทักษิณ

เมื่อถามอีกว่าแต่มีการอ้างว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำแล้วไม่มีการดำเนินการอย่างใด นายอภิสิทธิ์ตอบว่า บอกมาเลยว่ามีคดีไหนที่เราละเว้นละเลย ทุกอย่างอยู่ระหว่างดำเนินการหมดและเร่งรัดตลอด ระยะหลังตนได้ให้รายงานความคืบหน้าตลอดเวลา ทางสภาผู้แทนราษฎรตั้งกระทู้ถามมาก็ชี้แจงตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะลงไปพบปะประชาชนในพื้นที่จะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ดี เป็นนักการเมืองควรจะเข้าหาประชาชน และประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ เพราะเราต้องเชื่อในประชาชนเชื่อในประชาธิปไตย เมื่อถามว่าการลงพื้น ที่ของพรรคเพื่อไทยจะทำให้เกิดความแตกแยกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่ารัฐบาลลงพื้นที่ไม่ได้ไปพูดเรื่องการเมืองแต่อีกฝ่ายจะไปพูดให้แตกแยกคงตบมือข้างเดียวไม่ดัง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลถี่ขึ้น นายอภิสิทธิ์ตอบว่าไม่มีปัญหา ก็เป็นความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าที่จะไปตอบโต้ เมื่อถามอีกว่านายกฯไม่คิดที่จะหาทางสกัดกั้นการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปทำอะไรอย่างนั้น เราก็จะพยายามอธิบายและให้ความจริงกับประชาชน

มท. 1 สั่ง ผวจ.ปทุมฯรายงานม็อบ

วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ผวจ.ปทุมธานี ทำรายงานสรุปกรณีเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงปาระเบิดปิงปองใส่ขบวนรถยนต์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง มาให้ตนภายในวันเดียวกันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะต้องมีการลงโทษ หรือตักเตือน ผวจ. อย่างไรบ้าง แต่ในเบื้องต้นก็ยังไม่มีการคาดโทษ ผวจ. ปทุมธานีแต่อย่างใด เท่าที่ได้รับรายงานทางวาจาของ ผวจ. ปทุมธานี ก็พบว่าทั้งทาง ผวจ. เจ้าหน้าที่ทางจังหวัด และตำรวจก็ทำดีที่สุดแล้ว เพราะได้สั่งให้ใช้วิธีการที่ละมุนละม่อม ห้ามใช้กำลังหรือความรุนแรงกับผู้ชุมนุม จึงทำให้ยากต่อการป้องกัน ซึ่งนายสุเทพเองที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่ได้ติดใจการปฏิบัติหน้าที่ของ ผวจ. ท่านไม่ได้ตำหนิหรือสั่งให้ ลงโทษแต่อย่างใด

ลั่นลากคอคนผิดสกัดแฟชั่นปาระเบิด

นายชวรัตน์กล่าวว่า ทั้งนี้ตนได้สั่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ทั้งที่ปาระเบิดปิงปอง ขวดน้ำ และรองเท้า มาดำเนินคดีให้ได้เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นผู้กระทำผิด ใช้อาวุธและความรุนแรงเกินขอบเขตของกฎหมาย จะไม่หลาบจำเกรงกลัวกฎหมาย กลายเป็นแฟชั่นระบาดลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในระยะต่อๆไป คงจะมีความรุนแรงขึ้นและถี่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องยิ่งเป็นการปลุกเร้า ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงฮึกเหิมมากขึ้นจะได้สั่งกำชับให้ทาง ผวจ.เร่งวางแผนรับมือ และเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยขอให้ พยายามตักเตือนว่า อย่ามาชุมนุมกันจนเกินเลยขอบเขต ของกฎหมาย โดยเฉพาะการทำรุนแรงแบบที่ จ.ปทุมธานี เพราะจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอยู่

เรียกปลัดถกรับมือสงครามโฟนอิน

รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 16 มี.ค. ผมจะเรียกปลัดกระทรวงมหาดไทยมาประชุม เพื่อหามาตรการอะไรบางอย่างที่จะทำให้เป็นการปรามมากกว่านี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้วิธีโฟนอินลงไปถึงระดับหมู่บ้าน หรือลงลึกไปกระทั่งตามงานวัดต่างๆ รวมทั้งที่ประกาศต่อไปจะพูดผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์นั้น ยอมรับว่าเรื่องโฟนอินคงทำอะไรไม่ได้มาก ทางฝ่ายปกครองเราคุมโฟนอินไม่ได้ นอกเสียจากนายกฯต้องมีมาตรการอื่นที่จะบล็อกโฟนอินได้หรือไม่ ซึ่งก็แล้วแต่นายกฯจะตัดสินใจ

เมื่อถามว่ามองว่าการโหมเร่งโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณเกี่ยวข้องกับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใจนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า ก็คงเป็นวิถีทางทางการเมืองอย่างหนึ่ง เรายังไม่ทราบว่าเขามีคนจำนวนเท่าไหร่แน่นอน แต่กระแสจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามา ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงและเครือข่ายฮึกเหิมขึ้นมา

กษิตซัดเสื้อแดงข่มขู่ไร้เหตุผล

นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล ไม่ได้ทำเพื่อความเจริญของบ้านเมือง พร้อมกับย้ำการชุมนุมใดๆ ผู้ชุมนุมต้องมีข้อเสนอเป็นทางเลือกให้กับรัฐบาลว่า สิ่งที่รัฐบาลทำนั้นถูกหรือไม่ อีกทั้งสามารถวิพากษ์ วิจารณ์ได้ทั้งในสภาฯและนอกสภาฯ แต่การข่มขู่และมุ่งทำร้ายเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล ไม่ได้ทำเพื่อความเจริญของบ้านเมือง ทั้งนี้เห็นว่าคงไม่มีอะไร แต่วันนี้รัฐบาลทำงานเต็มที่ อย่างไร ก็ตาม การชุมนุมใดๆของผู้ชุมนุมต้องมีข้อเสนอเป็นทางเลือกให้รัฐบาลว่า สิ่งที่รัฐบาลทำนั้นถูกหรือไม่ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและนอกสภาฯเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ถ้าการชุมนุมเป็นการข่มขู่หรือมุ่งทำร้ายอย่างเดียว คงไม่ถูกต้อง

ปรับกลยุทธ์ลงพื้นที่ชนคนเสื้อแดง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ใน 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาพบว่า พฤติกรรมการต่อต้านรัฐมนตรีลงพื้นที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น การปาขวด สิ่งของ หรือระเบิดปิงปองใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ เหมาะสมและเกินกว่าเหตุในการแสดงออกทางการเมือง กลับเป็นการประสงค์ร้ายในการทำร้ายร่างกาย หรือให้เกิดความเสียหายมากกว่า จึงขอให้คนที่ปลุกระดมคนเสื้อแดงขึ้นมารับผิดชอบในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย อย่าโยนว่าควบคุมมวลชนไม่ได้ หรือเป็นมือที่สาม ขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องเข้มงวดในการบังคับใช้กฎ-หมาย โดยเฉพาะฝ่ายข่าวต้องหาผู้กระทำการ หรือผู้ อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่า แม้พฤติ-กรรมของคนเสื้อแดงจะก้าวร้าวรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเดินหน้าลงพื้นที่ของรัฐมนตรี เพื่อพบปะชาวบ้านและรับฟังปัญหาได้ โดยจะมีการปรับกลยุทธ์ในการลงพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

เชื่อพยายามฟื้นระบอบ ทักษิณ

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำเตือนจากหลายฝ่ายว่า ยังมีแผนที่จะโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้ โดยพยายามจะรื้อฟื้นระบอบทักษิณเข้ามาบริหารประเทศต่อ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยากให้ความสนใจ แต่เมื่อมองถึงภาพองค์รวมของ การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ใช้วิธีดิบ ถ่อย เถื่อน ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ก็ต้องกลับมาทบทวนขอให้จับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าจะทวีความรุนแรง วางแผนฟื้นระบอบทักษิณ กลับมาอีกครั้ง

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอิน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อคืนวันที่ 14 มี.ค.ว่า จะเห็นพฤติกรรมความฮึกเหิม กระหายอำนาจ เหมือนคนจะลงแดงอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศกลับคืนสู่อำนาจทุกวิถีทาง และจะโฟนอินทุกวันที่มีการจัดเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดง ล่าสุด ก็มีการโฟนอินที่งานวัดบำเพ็ญเหนือ ย่านมีนบุรี สุดท้ายแล้วก็คงไม่แคล้วตามที่ตนเคยพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงจะโฟนอินไปตามงานวัดทุกวัด แสดงให้เห็นว่าเป็นการดิ้นสุดชีวิตเพื่อเข้าสู่อำนาจให้ได้ คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงกลัวว่านายกฯจะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ และกลัวว่าประชาชนจะลืม พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า

ตั้งข้อหาพยายามล้มล้างรัฐบาล

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอตั้งข้อหา พ.ต.ท.ทักษิณว่าพยายามล้มล้างรัฐบาล โดยมีความพยายามทำทุกวิถีทางทั้งบนดินและใต้ดิน ผ่านเครื่องมือของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องดิ้นรน เพราะแนวร่วมของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มเสื้อแดงกำลังน้อยลงเรื่อยๆ จึงมีความพยายามลดความน่าเชื่อถือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ โดยพยายามใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ว่า เป็นเด็กสองคนที่แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ แต่ในเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนกำลังเป็นที่ยอมรับของนานาชาติและประชาชนส่วนใหญ่ ในแง่ของการบริหารประเทศ และการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของไทย คิดว่าวันนี้

พ.ต.ท.ทักษิณคงทำใจไม่ได้และอิจฉา

ขอเตือน พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะคนไทยด้วยกันว่า ควรหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ แล้วให้ความร่วมมือและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม มิฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจะตกอยู่ในชะตากรรม เงินก็หมด เพื่อนก็เมิน เดินซัดเซพเนจรเสมือนกับคนวิตกจริตในอนาคต พ.ต.ท.ทักษิณจึงควรหยุดพฤติกรรมทั้งหมดเพื่อทบทวนตัวเองนายสาธิตกล่าว

ผบ.ตร.สั่งล่าตัวมือระเบิดปิงปอง

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมมีการปาสิ่งของและระเบิดปิงปองใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่วิทยาลัยการปกครอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า ได้มีคำสั่งกำชับให้ ผบช.ภ.1 และ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี สืบสวนจับกุมผู้ที่ก่อเหตุ ทั้งกลุ่มที่ขว้างปาสิ่งของและระเบิดปิงปองเข้ามาในขบวนของนายสุเทพ ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และไม่สมควรอย่างยิ่งในการชุมนุมที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการนำอาวุธและระเบิดเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง เรื่องนี้ได้กำชับให้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ต้องการก่อกวนการลงพื้นที่ของนายกฯและคณะรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายกำชับผบช.และ ผบก.ในพื้นที่ประสานข้อมูลตำรวจสันติบาล เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม และวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยให้ ผบก.แต่ละจังหวัดเข้าไปทำหน้าที่ ผบ.เหตุการณ์ด้วยตัวเอง หากมีการฝ่าฝืนกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกคนต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ผบก.จ.และ ผกก.จะต้องมาควบคุมสั่งการด้วยตัวเอง

สันติบาลลงพื้นที่เคลียร์ม็อบป่วน ปชป.

พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวว่า เรื่องการชุมนุมได้มีคำสั่งให้ชุดตำรวจสันติบาลทุกพื้นที่หาข่าวการเคลื่อนไหวของม็อบทุกกลุ่มที่เข้ามาก่อกวนนายกฯ และ ครม.ที่เดินทางลงตรวจเยี่ยมข้าราชการและประชาชนในทุกพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลให้ตำรวจท้องที่จัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย และพยายามเจรจาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่มให้จัดการชุมนุมโดยสงบไม่ทำการใดๆที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะหากมีการกระทำความผิดต้องดำเนินคดี และไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมรุ่นต่อไป แต่จากการลงหาข่าวในพื้นที่พบว่ามีหลายพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวขัดขวางรัฐบาล ซึ่งได้พยายามเจรจาทำความเข้าใจในเรื่องบทบาทการชุมนุมที่สงบปราศจากความรุนแรง

สาวใหญ่เสื้อฟ้าไม่ใช่มือปาระเบิด

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้เชิญตัวนางพรรณธิตา ชนสันติ อายุ 49 ปี นักพัฒนาการกรมการปกครอง มาสอบสวนเพิ่มเติมหลังจากได้เข้าแจ้งความว่า ถูกกลุ่มเสื้อแดงรุมทำร้ายร่างกาย ที่บริเวณปากทางเข้าออกกรมการปกครอง อ.ธัญบุรี ช่วงที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เดินทางมาแถลงข่าวและเยี่ยมเยียนประชาชน เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นางพรรณธิตากล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาถ่ายรูปคณะของรองนายกฯ ระหว่างนั้นมีกลุ่มม็อบเสื้อแดงหลายร้อยคนได้เข้ามาโห่ร้องขับใล่ ขณะรองนายกฯนั่งรถยนต์เดินทางกลับ ได้ถูกกลุ่มม็อบเสื้อแดงขว้างปาไข่ ขวดน้ำและรองเท้าใส่รถ ตนอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงพยายามเข้าไปถ่ายภาพเหตุการณ์ ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ด้วยความตกใจจึงก้มหลบ ขณะเดียวกัน กลุ่มม็อบชายหญิงได้กรูเข้ามาทำร้ายตน โดยจับล็อกคอ ตบหน้า ชกต่อย กระชากกล้องถ่ายรูปดิจิตอลกับบัตรข้าราชการที่ติดหน้าอก พร้อมกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวเข้ามาป่วน สอดแนมความเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง และได้ยึดเอากล้องถ่ายรูปไป

ให้ ตร.จับกุมม็อบเถื่อนที่รุมทำร้าย

นางพรรณธิตากล่าวว่า สำหรับภาพข่าวที่ออกไปตามสื่อต่างๆ ระบุว่าเป็นคนขว้างมือระเบิดปิงปองใส่ขบวนรถของรองนายกฯ ทำให้ตนเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง ขอยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับระเบิดแต่อย่างใด และต้องการให้มีการแก้ข่าวให้ถูกต้อง ขณะเดียวกัน ก็ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มม็อบที่รุมทำร้ายตนและชิงเอากล้องถ่ายรูปไป เพื่อนำทรัพย์สินที่ถูกชิงไปมาคืนให้ด้วย

ต่อมาตำรวจนำตัวนายเพลิน ธัญญาโภชน์ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 3 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางศิริพร เสวตสมบูรณ์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 70 ซอยรังสิต-นครนายก 58 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี นางนิตยา เณรทอง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 120/11 หมู่ 1 ต.บึงยี่โถ และนายสมัย ปัสสาพันธ์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 115/30 หมู่ 3 ต.บึงยี่โถ ผู้ต้องหาปาไข่และสิ่งของใส่ขบวนรถนายสุเทพจนได้รับความเสียหาย โดยแจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายและพยายามทำร้ายร่างกาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 4 ให้การรับสารภาพ และได้ขอประกันตัวไป ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนยังได้เรียกตัวนายสมบุญ ขุนทองไทย อายุ 43 ปี อดีตกำนัน ตำบลประชาธิปัตย์ แกนนำผู้ชุมนุมม็อบเสื้อแดงมาสอบสวนโดยเบื้องต้นนายสมบุญให้การเป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินการต่อไป