ที่มา ไทยรัฐ
มหกรรมอภิปรายไม่ไว้วางจได้ฤกษ์ระเบิดศึกขึ้นแล้ว และเร็วกว่ากำหนดที่คาดหมายกันไว้ 1 สัปดาห์
เนื่องจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งร่นวันอภิปรายไม่ไว้ วางใจ จากเดิมที่คาดกันว่าจะมีขึ้นใน วันที่ 26-27 มีนาคม มาเป็นวันที่ 19-20 มีนาคมนี้
เพราะจับยามสามตาดูแล้ว ถ้าให้อภิปราย กันในวันที่ 26-27 มีนาคม จะไปเข้าล็อกม็อบเสื้อแดงภายใต้การนำของกลุ่ม นปช.ที่ประกาศล่วงหน้านัดระดมพลคนเสื้อแดงชุมนุม ใหญ่ในวันที่ 29 มีนาคม ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเคลื่อนตัวไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
ยกระดับจากการชุมนุมต่อต้านเป็น การชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ ชนิดเต็มรูปแบบ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและเป็นการหลีกเลี่ยงเหตุชุลมุนวุ่นวายในกรณีที่ม็อบเสื้อ แดงอาจใช้แผนตลบหลังเคลื่อนพลมาปิดล้อม รัฐสภาในวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจสุ่มเสี่ยง เกิดปัญหาบานปลาย
“ประธานชัย” และวิปรัฐบาลจึงเห็นพ้อง ต้องกันให้เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรแบบด่วนจี๋ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลอีก 5 พระหน่อ
ฉะนั้น วันนี้ (19 มี.ค.) ตั้งแต่ 09.30 น. เป็นต้นไป บรรดามิตรรักคอการเมืองแนว ซาดิสต์ ก็จะได้พบกับศึกบู๊ล้างผลาญฝ่าย ค้านถล่มรัฐบาลในสภาฯ
และก็แน่นอน แหงแซะ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.ระบบสัดส่วน ในฐานะ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะสวมบทผู้นำฝ่ายค้าน นำทีมขุนพลฝีปากกล้าอภิปรายไม่ ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ถล่มมีพฤติกรรมส่อว่าจงใจฝ่าฝืนกฎ-หมาย มีปัญหามาตรฐานทางจริยธรรมและคุณธรรมต่ำ บกพร่องร้ายแรง
พุ่งเป้าเปิดแผลโจมตีพฤติการณ์ที่ไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกฯ 9 ข้อ
1. เป็นชายไทย แต่กลับหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ ทหาร
2. การเข้ารับตำแหน่งนายกฯของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย แต่อยู่ภายใต้การชี้นำของบุคคล บางกลุ่ม
3. มีพฤติกรรมจงใจฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยไม่เปิดเผย การรับเงินสนับสนุนจากบริษัทมหาชนที่จด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
4. มีพฤติกรรมเอื้อให้รัฐมนตรีหลายกระ- ทรวงทุจริตคอรัปชัน อาทิ กระทรวงการพัฒนา สังคมฯที่ปล่อยให้แจกปลากระป๋องเน่า กระทรวง คมนาคมมีการกระทำส่อไปในทางทุจริตในโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน
5. บริหารเศรษฐกิจจนทำให้ประชาชนว่างงานอย่างไม่เคยมีมาก่อน และยังแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ไม่มีประสบการณ์เข้ามาบริหาร อาทิ กระทรวงพาณิชย์ และอุตสาหกรรม
6. ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรฯทำให้เกิดความล้มเหลวของระบบการเมืองและคุณค่าทางศีลธรรมของสังคม
7. ไม่มีนโยบายและวิธีแก้ไขปัญหายา เสพติดที่กำลังระบาดอย่างรุนแรง และไม่มีนโยบายขจัดความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้
8. ขาดจริยธรรมและคุณธรรมเนื่องจากจงใจบิดเบือนความจริง สร้างความแตกแยกของคนในชาติ และขาดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน
9. ใช้อำนาจโดยมิชอบและส่อว่าขัดต่อ รัฐธรรมนูญ กรณีขอให้บริษัทให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ส่งข้อความเอสเอ็มเอสในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งนายกฯ
วางแผนจับ “อภิสิทธิ์” ขึงพืด ถล่มแหลกหวังให้น็อกคาสภาฯ
แต่ล่าสุด นายกฯอภิสิทธิ์ยังยิ้มกริ่ม ยืนยันทุกข้อกล่าวหาสามารถชี้แจงได้ ไม่รู้สึกหวั่นไหวกับการตรวจสอบในระบบ
เดี๋ยวก็รู้ว่าจะผ่านด่านอภิปรายฯไป แบบฉลุย หรือสะบักสะบอม!!!
“พ่อลูกอิน”