ปากกล้าแต่ขาสั่น
โดยอาการที่รัฐบาลเถียงได้ไม่เต็มปากเต็มคำ กับบทลุกลี้ลุกลนของ “ปู่ชัย” นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ในฐานะ “ชิดชอบ” ผู้พ่อ รีบสั่งการให้ร่นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เข้ามาเป็นวันที่ 19-20 มีนาคม
ตาลีตาเหลือกชนิดที่วิปรัฐบาลด้วยกันยังออกปากว่า กระชั้นชิดจนตั้งหลักแทบไม่ทัน
แน่นอน ต่อให้เสียงแข็งว่า ไม่กลัว ออกตัวแก้ลำกันยังไง โดยน้ำหนักมันก็เข้าทางฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยและฝ่ายต่อต้านที่เย้ยหยันได้ว่า รัฐบาลดึงจังหวะหลบคิวดีเดย์ชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่นัดล่วงหน้าจะรวมพลล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 29 มีนาคม
แหยงกระแสลามโหมไฟม็อบ
ศึกนอกประชิด กระหน่ำซ้ำศึกใน เดี๋ยวจะดับเพลิงไม่ทัน
ที่แน่ๆโดยอาการลุกลี้ลุกลน มันเป็นอะไรที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักของทีมแฉพรรคเพื่อไทยที่ปล่อยข้อมูลดักทางล่วงหน้า รัฐบาลเตรียมกระเป๋าใบใหญ่ซื้อ ส.ส.ฝ่ายค้านด้วยตัวเลข 7 หลัก เพื่อให้งดออกเสียง
ทำได้ทุกอย่าง เพื่อเบี่ยงตัวหลบดาบของฝ่ายค้าน
และงานนี้ถือเป็นการดักคอ “กบฏ” ในพรรคเพื่อไทย และ “อีแอบ” ฝ่ายค้านใจฝักใฝ่รัฐบาล ที่วางแผนจะทำผลงานเพื่อรับรางวัลทิ้งทวนก่อนแปรพักตร์
เจอมุกนี้เข้าไป “เขิน” เลยก็แล้วกัน
แต่ที่ท้องไส้ปั่นป่วนยิ่งกว่า น่าจะเป็นคิวของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยฯ
2 เหยื่อเชือด พะยี่ห้อ “เพื่อนเนวิน”
โดยลูกขู่ของทีมเชือดฝ่ายค้าน นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คุยลั่นข้อมูลพร้อมแล้ว โดยเฉพาะกระทรวงที่มีรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยเข้าไปบริหาร โดยไปออกคำสั่งให้อธิบดีดำเนินการเอาเรื่องการใช้งบประมาณโครงการต่างๆมาตรวจสอบดูว่า อันไหนยักได้บ้าง
เรื่องนี้มีหลักฐานเป็นเอกสารในคำสั่งเป็นวันที่ไล่กันในแต่ละกระทรวง
สำทับด้วยนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย ในฐานะอดีต รมช.มหาดไทย ขู่ซ้ำ ขณะนี้มีหลักฐานเป็นใบเสร็จที่เป็นพฤติกรรมของรัฐมนตรีที่มีหัวแต่ไม่มีสมอง
ถูกมนตร์ขลังสั่งให้ทำโครงการต่างๆ
ตีธง เล็งเป้าไปที่ “เพื่อนเนวิน” สางแค้น “ผู้ทรยศ”
สยบมนตร์เขมร สกัดดาวรุ่งค่ายภูมิใจไทย
แต่ที่ทำท่าจะระส่ำก่อนใคร กลายเป็นคิวของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กับอาการทะลุกลางปล้องของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปรัฐบาล แบะท่าโต้งๆ
เท่าที่พูดคุยกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล หลายคนแสดงความกังวลเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจคิวของนายกษิต เพราะที่ผ่านมามีหลักฐานและข้อมูลที่เชื่อมโยงไปถึงม็อบพันธมิตรฯชัดเจน
ส.ส.ส่วนมากหารือกันว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ที่จะลงหรือไม่ลงมติไว้วางใจนายกษิต ถ้ามี ส.ส.งดออกเสียงจำนวนมาก แค่ 10 กว่าเสียง นายกษิตก็ตายแล้ว
พูดกันข้ามช็อตถึงขั้นว่า ถ้านายกษิตตายคาเวทีเชือด หลุดโผไป จะเป็นการดีสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ที่จะสลัดภาพให้หลุดจากม็อบพันธมิตรฯ
เจอมุกคนพรรคเดียวกันเองแบบนี้ “กษิต” ไม่หวิวให้รู้ไป
แต่ที่นิ่งผิดหูผิดตา กับลีลาซุ่มโป่งของหัวหน้าทีมเชือดอย่าง “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หลังวางเดิมพันตำแหน่งประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย
อุบไต๋เงียบอยู่คนเดียวเลย
เกมอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ของปลอม” หรือ “ของจริง” ยากจะหยั่งเชิงได้ แต่ที่แน่ๆก็สามารถกดดันให้วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเดาสถานการณ์ไปต่างๆนานา
ทึกทักเอาว่า ฝ่ายตรงข้ามกำลังสร้างเงื่อนไขเพื่อบรรลุ 2 เป้าหมาย
หนึ่งคือ สร้างอำนาจต่อรองเพื่อนำไปสู่การให้อดีตนายกฯทักษิณ พ้นจากความผิดในอดีต เช่น การแก้กฎหมายนิรโทษกรรม หรืออภัยโทษ สองเพื่อล้มรัฐบาล โดยแนวรุกด้านมวลชนของ นปช.ที่เปลี่ยนการชุมนุมใหญ่ ไปเป็นการเพิ่มความรุนแรงในการก่อการต่อต้านโดยคนไม่กี่คน เริ่มพูดถึงสงครามประชาชน
ขณะที่แนวร่วมผ่านทางพรรคเพื่อไทย ที่ใช้กลไกของแกนนำที่ใกล้ชิดหรือญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ และแรงผลักดันจากการถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อนำสู่การแทรกแซงกระบวนการปฏิรูปการเมือง ซึ่งแกนนำได้พูดชัดว่า จะบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อนำระบอบทักษิณกลับคืนมา
เจอเกมเร้า จ่อทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ เดาทางไม่ออก ตั้งรับไม่ทัน
เอะอะก็ปั่นกระแสใส่ไฟ “ทักษิณ” ไว้ก่อน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน