WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, March 20, 2009

นายกปัดตอบแทนพธม. โต้รัฐบาลทักษิณก็กู้เงิน

ที่มา ไทยรัฐ

เวลา 18.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปราสาทเขาพระวิหาร ว่า เรื่องเขตแดนต้องเป็นไปตามสนธิสัญญา คือ ใช้หลักสันปันน้ำขณะที่เราก็เคารพต่อคำตัดสินของศาลโลก ครอบคลุมตัวปราสาท และพื้นที่ใต้ปราสาท แต่ไม่ครอบคลุมพื้นที่รอบปราสาทด้วย ประเด็นที่เป็นปัญหามาจากการที่ตัวแทนของรัฐบาลไทยไปลงนามเอกสารที่มีแผนที่แนบท้าย ที่มีผลทำให้เกี่ยวข้องกับดินแดนด้วย ซึ่งต่อมาก็มีการตัดสินว่าแถลงการณ์ร่วมที่ได้ไปทำกันไว้เป็นโมฆะ จุดยืนของรัฐบาลไทยเหมือนเดิม คือ จะรักษาอธิปไตยของไทยทุกตารางนิ้ว โดยไม่เอาเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติไปแลก และหากอยากให้การเจรจาจบลงโดยเร็วมีหนทางเดียว คือ ต้องยอมกัมพูชา ซึ่งยังเห็นว่าไม่ควรยอมทั้งเรื่องชื่อ และกรอบการเจรจาต่างๆ และการเจรจากันไปเรื่อยๆ ดีกว่าการล้มโต๊ะเจรจาและปะทะกัน

นายอภิสิทธิ์ ยังชี้แจงอีกว่า ข้อกล่าวหาว่าแต่งตั้งนายกษิต เป็น รมว.ต่างประเทศ เพื่อตอบแทนบุญคุณพันธมิตรฯนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนายกษิตก็ไม่ใช่แกนนำ แต่เป็นแค่วิทยากรรับเชิญของพันธมิตรฯ เท่านั้นยอมรับว่าแม้ว่าตนจะมีจุดยืนเหมือนพันธมิตรฯ ในบางเรื่อง แต่อีกหลายเรื่องก็มีจุดยืนที่ต่างกัน เช่นไม่เห็นด้วยกับการปิดสนามบิน ปิดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที แต่งตั้งนายกษิต เพราะได้เคยทำงานร่วมกันด้านต่างประเทศมาก่อน และทำให้ตนเห็นประสบการณ์ของท่าน เมื่อมาทำงานตรงนี้ก็เห็นว่านายกษิต ได้ทำงานหนักมาตลอด ไม่มีเรื่องบุญคุณมาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องที่ตนต้องการใช้ความรู้และประสบการณ์ของนายกษิต ส่วนที่ชอบล้อเลียนเรื่องอายุของตนและนายกรณ์ จาติกวณิชว่าเป็นเด็กนั้น จริงๆ อายุ 44 ปี ก็ไม่ได้เด็ก ตั้งใจทำงานไม่ได้โกง หากทำงานไม่สำเร็จตนต้องรับผิดชอบ ถ้าบ้านเมืองเสียหายตนก็ไม่อยู่ให้บ้านเมืองเสียหาย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ไม่เคยพูดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยดี มีแต่บอกว่าเศรษฐกิจไทยต้องเจอภาวะหนัก ซึ่งมี 3 แนวทางที่จะหาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ คือ1.เก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2.ขายสมบัติชาติ และ 3.คือการกู้เงิน ซึ่งหลายประเทศก็ทำกันทั้งนั้น แต่ฝ่ายค้านไม่พูดถึง พอรัฐบาลไทยจะทำก็บอกว่าผิด ฉะนั้นการกู้เงินในยามวิกฤตอย่างนี้อย่าออกมาต่อต้านเลย เพราะเป็นการกู้เงินมาช่วยคนจน ถ้าฝ่ายค้านต่อต้านก็หมายถึงเราต้องขายสมบัติชาติแทน และเรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปบรรยายในงานวัด เพราะที่ผ่านมาอยากถามว่าในปี 2546-2547 สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยกู้เงินในลักษณะนี้เหมือนกัน อย่าพยายามสร้างภาพให้เกิดความเข้าใจว่า เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่เป็นคนกู้เงิน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่กล่าวหาว่าตนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้เพราะเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล ขอยืนยันว่า 3เดือนที่ผ่านมามีการประชุม ครม.เศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งทุกคนเข้าใจกันดี และตนมีวิธีการทำงานเพราะรู้ว่าเป้าหมายคืออะไร รู้ว่าวิกฤตครั้งนี้หนักหนาสาหัสมาก จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันสมานฉันท์ อย่าทำให้ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ความเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา และตนก็พร้อมฟังฝ่ายค้านตลอด