ที่มา thaifreenews
บทความโดย...ลูกชาวนาไทย
การยัดข้อหาหมิ่นฯ ให้ ดร.ใจ อึ้งภากร คาดว่าเป็นความคิดที่จะป้องปราม ไม่ให้มีการเอาเยี่ยงอย่างกันอีก แต่ผมคิดว่าคนที่คิดเรื่องนี้ ไม่อาจคาดเดาความเสียหาย ที่ไปไกลเกินกว่าที่จะควบคุมได้ สถานการณ์ได้เลยเถิดไป เป็นการจุดไฟต่อต้านกฎหมายหมิ่นที่ลามไปถึงระดับสากล
แทนที่จะเป็นการปราม ดร.ใจ แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นการยั่วยุให้ ดร.ใจ หันมาต่อต้านอย่างจริงจัง และจุดกระแสติดเสียด้วย และโลกยุคนนี้ไม่ได้เหมือนยุคที่มีการ ขับไล่ ดร.ป๋วย อึ้งภากรออกไปจากประเทศไทย และเมื่อออกไปจากประเทศไทยแล้ว ดร.ป๋วย ก็หมดพิษสงต่อผู้มีอำนาจโดยสิ้นเชิง
แต่กลับ ดร.ใจ บุตรชาย ดร.ป๋วย ที่โดยพิษการเมืองต้องหนีออกจากไทยไปอยู่ต่างประเทศ สถานการณ์กลับตรงกันข้าม เพราะ "โลกยุคใหม่ที่ไร้พรมแดน" การอยู่ที่อังกฤษของ ดร.ใจ ไม่ต่างจากการไปอยู่จังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรปราการ หรือชลบุรี ความเห็น ความคิด ข่าวสาร บทความต่างๆ ของ ดร.ใจกับมีพลังมากยิ่งกว่าอยู่ กทม. เพราะไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว สามารถคิดและเขียน หรือแสดงความเห็นได้เต็มที่ และความเห็นนั้นก็เข้ามาถึงเมืองไทยด้วยสื่ออินเตอร์เน็ต ชั่วเพียงเสี้ยววินาที
ผมคิดว่า ดร.ใจอาจผลิตผลงานที่ดีกว่าเดิม ลึกซึ๊งกว่าเดิม ได้มากมาย และข้อคิดข้อเขียน ของ ดร.ใจจะมีอิทธิพลและมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม ความคิดที่จะสะกัดกั้น ปิดกั้น เป็นเพียงความไร้เดียงสา เพราะโลกยุคนี้ หนังสือดีๆ บทความดีๆ ส่งต่อกันทางอินเตอร์เน็ต และผลิตซ้ำได้นับล้านก็อบปี โดยไม่มีต้นทุนเลย
การยัดคดีหมิ่นให้ ดร.ใจ เท่ากับเป็นการ "ดึงยักษ์ออกมาจากตะเกียง" แล้วจับยัดกลับไปไม่ได้ ยักษ์ยิ่งตัวใหญ่ ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม