ที่มา มติชนออนไลน์
วิปรบ.ตั้ง 3 ทีมขุนพลช่วยรัฐมนตรีถูกซักฟอก
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า วิปรัฐบาลยังยืนยันกรอบเวลาในการอภิปรายจำนวน 2 วัน เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นจำนวนผู้อภิปรายและประเด็นของฝ่ายค้านว่าเป็นอย่างไร หากเห็นจำนวนบุคคลก็จะกำหนดเวลาได้ชัดเจน ซึ่งกรอบเวลาสามารถยืดหยุ่นได้ แต่ขณะนี้ได้ยืนตามญัตติของประธานสภาที่กำหนดระยะเวลา 2 วันถือว่าเหมาะสมแล้ว
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายรัฐมนตรี วิปรัฐบาลได้ประเมินการทำงานของพรรคฝ่ายค้านและแบ่งกลุ่มรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไว้ 3 กลุ่มคือ 1. นายกรัฐมนตรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง 2. นายกรณ์ จาติกวณิชย์ รมว.คลัง และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 3. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กับนายบุญจง วงษ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย โดยทั้ง 3 กลุ่มวิปรัฐบาลได้ประสานข้อมูลบุคคลรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยมอบให้นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. ในฐานะผู้อำนวยการพรรค ได้นำเครื่องคอมพิวเตอร์มาจากพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งไว้ที่ห้องทำงานวิปรัฐบาล เพื่อใช้ประสานเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลของแต่ละรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นรายกระทรวง ซึ่งจะทำให้การประสานข้อมูลรวดเร็วขึ้น เป็นการทำงานเชิงรุกไม่ต้องเรียกข้าราชการมารอให้ข้อมูล
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวอีกว่า การทำงานของวิปรัฐบาลยังได้ตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ซึ่งจะใช้ห้องวิปรัฐบาลเป็นห้องทำงาน ประกอบด้วย 1.คณะทำงานประสานข้อมูลกลาง มีนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก เป็นหัวหน้า นายสกลธี ภัทธิยกุล ส.ส.กทม. นางผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. และนางสุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง เป็นคณะทำงาน 2. คณะทำงานติดตามข้อมูลการอภิปรายในสภา และแถลงข่าวการอภิปราย ประกอบด้วยนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน และโฆษกพรรค นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา และน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 3. คณะทำงานดูแลบรรยากาศและข้อบังคับการประชุม ประกอบด้วย นายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา นายอรรถวิทชช์ สุวรรณเภสัช ส.ส.กทม. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ศ.กทม.นพ.อสิ มะหะมัดยังกี ส.ส.สตูล
"นอกจากนี้ ยังตั้งทีมเลขาเรียกว่าฝ่ายประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีส.ส.ตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นคณะทำงาน นำทีมโดยนายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน และนายธราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคภูมิใจไทย โดยคณะทำงานชุดนี้จะช่วยประสานข้อมูลแต่ละพรรค" นายชินวรณ์ กล่าว
คลังเผยครม.ต่ออายุมาตรการภาษีดันอสังหาฯ-รถเอ็นจีวี
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มีนาคมว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 ได้อนุมัติให้ต่ออายุมาตรการทางด้านภาษี 2 รายการ คือ มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ โดยเป็นการต่ออายุมาตรการเดิมออกไป เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว และเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์เอ็นจีวีมากขึ้น ซึ่งการต่ออายุมาตรการดังกล่าวมีผลกระทบทางด้านรายได้รัฐบาลเพียงเล็กน้อย แต่จะให้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างคุ้มค่ามากกว่า
ส่วนมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์นั้น ครม. ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) โดยเป็นการยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลายรายการ ซึ่ง ครม.เห็นชอบให้การต่ออายุมาตรการมีผลย้อนหลังเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป เนื่องจากมาตรการเดิมหมดอายุลงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบทางด้านภาระภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจากเดิม 10-30%
"บุญจง"ยันแจกนามบัตรในนามรมต. ปัดเย็บเงินติด
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีที่นายบุญจงถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายคารม พลทะกลาง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายร้องว่านายบุญจงแจกนามบัตรพร้อมแจกเงินงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้แก่ราษฎรที่บ้านพักจ.นครราชสีมา ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ว่า ได้เข้าชี้แจงต่ออนุกรรมการหลังจากเคยเลื่อนนัดมาแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ประเด็นที่อนุฯได้สอบถามว่านามบัตรที่ตนแจกนั้นเย็บติดกับเงินและผ้าห่มหรือไม่ ซึ่งชี้แจงไม่ได้เย็บติด และนามบัตรไม่ได้มอบให้กับทุกคนแต่ให้กับเฉพาะคนที่มาขอเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ก็ยังเป็นผู้แจกให้ประชาชนที่มาขอด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในนามบัตรที่แจกนั้นได้ระบุว่าเป็นรัฐมนตรี หรือ เป็น ส.ส. นายบุญจงกล่าวว่า นามบัตรดังกล่าวมีแค่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น และได้มาแจกในฐานะรัฐมนตรีเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าการแจกนามบัตรไม่ได้เป็นการหาเสียงล่วงหน้าเพราะในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง รวมถึงไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากอนุกรรมการว่าได้เชิญนายบุญจงมาให้ถ้อยคำ และทราบว่ามีการสอบพยานไปแล้ว 14 ปาก เหลืออีก 1 ปากที่ผู้ร้องได้อ้างเพิ่มซึ่งจะมาให้ถ้อยคำในวันที่ 20 มีนาคมนี้ที่สำนักงานกกต. ส่วนระยะเวลาการสืบสวนนั้นจะครบกำหนดในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ทั้งนี้คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อที่ประชุมกกต.ได้ และคงไม่ขอขยายเวลาเพิ่มอีก
ตั้งอนุกก.5ชุดแก้ปัญหา-เฝ้าระวังสื่อเป็นภัยสังคม
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 โดยมีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 มีนาคมว่า เป็นการประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ เพื่อร่วมกันระดมความเห็นและกำหนดแนวทางในการขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี โดยที่ประชุมได้แสดงความเห็นว่าปัจจุบันปัญหาที่น่ากังวลที่สุดคือเนื้อหาของละครหลังข่าวมีความรุนแรงมากขึ้น คำนึงถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจมากเกินไป จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันเฝ้าระวังสื่อทุกประเภทไม่เฉพาะเจาะจงเพียงสื่ออินเตอร์เน็ตหรือเว็บไซต์เท่านั้น ควรเฝ้าระวังภัยจากสื่อโฆษณาในรายการโทรทัศน์ เพราะปัจจุบันพบว่าหลายรายการมีโฆษณาแฝงขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เพื่อกำหนดนโยบาย แนวทางการทำงาน ช่วยแก้ปัญหาและเฝ้าระวังสื่อที่เป็นภัยต่อสังคมและวัฒนธรรม ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 2.คณะอนุกรรมการปราบปรามสื่อที่เป็นภัยต่อสังคม 3. คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 4. คณะอนุกรรมพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระดับจังหวัด และ 5. คณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
"บุญจง"ปัดซื้อตัวส.ส.ยกมือโหวต บอกสู้ไม่ไหว
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการซื้อตัว ส.ส. เพื่อให้ยกมือลงมติให้แก่รัฐบาลในสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า "มันหนักไป สู้ไม่ไหว"
เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจะมาเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นายบุญจงกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่หากใครจะมาเข้าร่วมกับทางพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ปฏิเสธ และขณะนี้ยังไม่เห็นด้วย แม้นางสุดารัตน์จะติดต่อเข้ามา ก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา อีกทั้งไม่ทราบว่าได้ติดต่อมายังนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหรือไม่
"เชาวริน"ค้านมติ ป.ป.ช.เอาผิด"สมชาย-จิ๋ว"สั่งสลายม็อบ
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมว่า ไม่เห็นด้วยกับมติ ป.ป.ช. เพราะไม่ให้ความเป็นธรรมกับบุคคลเหล่านี้
ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำรายชื่อ 140 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นให้กับศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผ่านประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน โดยเห็นว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีที่ ป.ป.ช. กล่าวหานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีสั่งระงับเรื่องไม่ดำเนินคดีกับ อธิบดีกรมบังคับคดี และรองอธิบดีกรมบังคับคดี ที่สั่งคืนเงินจำนวน 70 ล้านบาท ที่ได้จากการขายทอดตลาดของ ศาลจังหวัดธัญบุรี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยเห็นว่า ป.ป.ช.มุ่งหวังทำให้เสียหายแก่ประวัติการรับราชการ และทำลายความน่าเชื่อถือ ตลอดจนชื่อเสียงทางการเมืองของนายสมชาย
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นต่อข่าวการจับมือกันระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ ส่วนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น กลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่เดินทางมาปิดล้อมรัฐสภาอย่างแน่นอน