WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 18, 2009

ป.ป.ช.แยกสำนวน คดี 7ตุลาฯชี้มูลผิดเป็นรายคน 140 เพื่อไทยเข้าชื่อเอาผิด ย้ำไม่ใช่การแก้แค้น

ที่มา มติชนออนไลน์

ป.ป.ช.แยกสำนวน คดี 7ตุลาฯสลายม็อบพันธมิตร ชี้มูลความผิดแยกแต่ละคนได้ ผบ.ตร.รับกระทบขวัญตำรวจที่ทำงาน ทส."จิ๋ว"ยันนายไม่ได้สั่งสลายม็อบ เชื่อถูกอ้างชื่อ "เพื่อไทย" ล่าชื่อเอาผิด 9 ป.ป.ช. ปฏิบัติมิชอบ ย้ำไม่ใช่การแก้แค้น ดึง"สมชาย"เป็นพยาน


ป.ป.ช.แยกสำนวนคดี7ตุลาฯ

นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ว่า การพิจารณาคดีสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้แยกสำนวนผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้ง 7 คนเป็นคนละสำนวน เนื่องจากถูกตั้งข้อกล่าวหาและมีความผิดแตกต่างกัน เพื่อให้การไต่สวนรวดเร็วยิ่งขึ้น หากสำนวนของคนไหนเสร็จก่อน ป.ป.ช.ก็สามารถชี้มูลได้ทันทีไม่ต้องรอคนอื่น


นายเมธีกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปป.ป.ช.จะให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากวันที่ 27 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ก่อนเปิดโอกาสให้ชี้แจงภายใน 15 วันซึ่งสามารถมาชี้แจงด้วยตนเอง โดยเปิดโอกาสให้นำทนายมาร่วมรับฟังการให้ปากคำได้ หรืออาจชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และสามารถยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ ระหว่างนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่จำเป็นต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่ได้ผู้ถูกชี้มูลความผิด


ทส."จิ๋ว"ยันนายไม่ได้สั่งสลายม็อบ

แหล่งข่าวจากนายทหารคนสนิท (ทส.) ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หนึ่งในบุคคลที่ถูกป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา เปิดเผยว่า พล.อ.ชวลิตจะไปชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช. ภายใน 15 วัน ก่อนหน้านี้พล.อ.ชวลิตเคยไปให้ข้อมูลกับป.ป.ช.แล้ว โดยเล่าถึงรายละเอียดในคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2551 หลังพล.อ.ชวลิตร่วมประชุมครม. นัดพิเศษที่สนามบินดอนเมือง ก็ไปประชุมกับนายตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อมอบนโยบาย 3 ข้อคือ 1.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ฝากให้ช่วยดูแลและป้องกันไม่ให้มีการเผาอาคารรัฐสภา 2.ขอให้ตำรวจดำเนินการเพื่อเปิดทางให้ส.ส. เข้าไปในรัฐสภาได้ และ 3. หากเกิดการกระทบกระทั่งให้ยกเลิกภารกิจ ห้ามไม่ให้ประชาชนเลือดตกยางออก

"ก่อนพล.อ. ชวลิตจะเดินทางกลับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินมาส่ง โดยพล.อ. ชวลิตย้ำอีกครั้งว่าถ้าสถานการณ์ลุกลามหนักหนา ให้ยกเลิกภารกิจทันที ให้การเมืองไปแก้ไขกันเอาเอง อย่าให้กระทบกระทั่งประชาชน จากนั้นพล.อ.ชวลิตกลับไปพักผ่อนที่บ้านตอนตี 2 และไม่มีการสั่งการเพิ่มเติมหลังจากนั้น" ทส. ของพล.อ. ชวลิตกล่าวและว่า เชื่อว่าสาเหตุที่พล.อ.ชวลิตถูกป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา น่าจะเป็นเพราะพล.ต.อ.บุญฤทธิ รัตนะพร ที่เป็นคณะติดตามพล.อ.ชวลิต ยังติดตามสถานการณ์อยู่ที่บช.น.ต่อ ทั้งที่พล.อ.ชวลิตไม่ได้สั่งให้อยู่ต่อ แต่เข้าใจว่าพล.ต.อ.บุญฤทธิ อาจไปสั่งการใดๆ โดยอ้างชื่อพล.อ.ชวลิต


"พท."ล่าชื่อเอาผิด 9 ป.ป.ช.

ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน และพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ไม่ได้สั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพียงแต่กำชับให้ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย ดังนั้น การที่ป.ป.ช. ให้แจ้งข้อหานายสมชาย และพล.อ.เชาวลิต จึงเป็นการปฏิบัติมิชอบ ตนและพ.ต.ท.สมชายพร้อมไปเป็นพยานให้

ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายบัณฑิต รชตะนันทน์ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยื่นฟ้องร้องว่า ป.ป.ช.กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ จากการชี้มูลความผิดนายสมชาย เมื่อครั้งปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายบัณฑิต ฐานไม่เก็บเงินค่าธรรมเนียมจากการขายทอดตลาดที่ดินของศาลธัญญบุรี เป็นการวินิจฉัยคนละเรื่องกับที่แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งก่อนหน้านี้ส.ส.พรรคพลังประชาชน เข้าชื่อเพื่อยื่นประธานวุฒิสภายื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอาผิด แต่หลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ มีส.ส.ที่ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยถอนชื่อ เป็นผลให้เรื่องตกไป

"ส.ส.พรรคเพื่อไทย 140 คน จะเข้าชื่ออีกครั้ง ในวันที่ 18 มีนาคมนี้เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาฯพิจารณาความผิด ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ยืนยันไม่ใช่การแก้แค้นป.ป.ช." ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว


ผบ.ตร.รับกระทบขวัญตำรวจ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหากรณีสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคมว่า การชี้แจงเป็นข้อเท็จจริง ตำรวจทุกคนทำตามหน้าที่ คำสั่งที่ให้ปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ตนพร้อมเข้าชี้แจงกับ ป.ป.ช.

เมื่อถามถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จะให้ความมั่นใจกับตำรวจผู้ปฏิบัติอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด ความจริงแนวนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้การเจรจา ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ห้ามปะทะ เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ต้องเข้าใจว่าทุกองค์กรมีหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นธรรมดาเราทำตามหน้าที่ ต้องมีผลกระทบต่อขวัญกำลังใจตำรวจ พอสมควร

ที่กองกำกับการ 2 (ป้องปันและปราบปรามการจลาจล) กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) สโมสรตำรวจ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พร้อมรอง ผบช.น. เป็นประธานเปิดพิธีอบรมการควบคุมฝูงชน มีตำรวจปจ.กองบังคับการตำรวจนครบาล ( บก.น.)2, 3, 4, 5, 6 และตปพ. 7 กองร้อย (กองร้อยละ 150 นาย) ร่วมฝึก

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังมีการใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า หากจำเป็นจริงๆ ก็คงไม่ใช้แบบยิง แต่จะใช้แบบขว้าง ซึ่งในการสาธิตมีการใช้แก๊สน้ำตาแบบขว้างโยนใส่กลุ่ม ปจ.ที่ฝึกอบรมด้วย เพื่อจะได้ทราบถึงอานุภาพว่าเป็นอย่างไร และยังให้รองผบช.น.ที่ถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทำงานรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมตามเดิม