ที่มา มติชนออนไลน์
ป.ป.ช.แยกสำนวน คดี 7ตุลาฯสลายม็อบพันธมิตร ชี้มูลความผิดแยกแต่ละคนได้ ผบ.ตร.รับกระทบขวัญตำรวจที่ทำงาน ทส."จิ๋ว"ยันนายไม่ได้สั่งสลายม็อบ เชื่อถูกอ้างชื่อ "เพื่อไทย" ล่าชื่อเอาผิด 9 ป.ป.ช. ปฏิบัติมิชอบ ย้ำไม่ใช่การแก้แค้น ดึง"สมชาย"เป็นพยาน
ป.ป.ช.แยกสำนวนคดี7ตุลาฯ
นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ว่า การพิจารณาคดีสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ได้แยกสำนวนผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้ง 7 คนเป็นคนละสำนวน เนื่องจากถูกตั้งข้อกล่าวหาและมีความผิดแตกต่างกัน เพื่อให้การไต่สวนรวดเร็วยิ่งขึ้น หากสำนวนของคนไหนเสร็จก่อน ป.ป.ช.ก็สามารถชี้มูลได้ทันทีไม่ต้องรอคนอื่น
นายเมธีกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปป.ป.ช.จะให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากวันที่ 27 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ก่อนเปิดโอกาสให้ชี้แจงภายใน 15 วันซึ่งสามารถมาชี้แจงด้วยตนเอง โดยเปิดโอกาสให้นำทนายมาร่วมรับฟังการให้ปากคำได้ หรืออาจชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และสามารถยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ ระหว่างนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดไม่จำเป็นต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่ได้ผู้ถูกชี้มูลความผิด
ทส."จิ๋ว"ยันนายไม่ได้สั่งสลายม็อบ
แหล่งข่าวจากนายทหารคนสนิท (ทส.) ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หนึ่งในบุคคลที่ถูกป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา เปิดเผยว่า พล.อ.ชวลิตจะไปชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช. ภายใน 15 วัน ก่อนหน้านี้พล.อ.ชวลิตเคยไปให้ข้อมูลกับป.ป.ช.แล้ว โดยเล่าถึงรายละเอียดในคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2551 หลังพล.อ.ชวลิตร่วมประชุมครม. นัดพิเศษที่สนามบินดอนเมือง ก็ไปประชุมกับนายตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อมอบนโยบาย 3 ข้อคือ 1.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ฝากให้ช่วยดูแลและป้องกันไม่ให้มีการเผาอาคารรัฐสภา 2.ขอให้ตำรวจดำเนินการเพื่อเปิดทางให้ส.ส. เข้าไปในรัฐสภาได้ และ 3. หากเกิดการกระทบกระทั่งให้ยกเลิกภารกิจ ห้ามไม่ให้ประชาชนเลือดตกยางออก
"ก่อนพล.อ. ชวลิตจะเดินทางกลับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินมาส่ง โดยพล.อ. ชวลิตย้ำอีกครั้งว่าถ้าสถานการณ์ลุกลามหนักหนา ให้ยกเลิกภารกิจทันที ให้การเมืองไปแก้ไขกันเอาเอง อย่าให้กระทบกระทั่งประชาชน จากนั้นพล.อ.ชวลิตกลับไปพักผ่อนที่บ้านตอนตี 2 และไม่มีการสั่งการเพิ่มเติมหลังจากนั้น" ทส. ของพล.อ. ชวลิตกล่าวและว่า เชื่อว่าสาเหตุที่พล.อ.ชวลิตถูกป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา น่าจะเป็นเพราะพล.ต.อ.บุญฤทธิ รัตนะพร ที่เป็นคณะติดตามพล.อ.ชวลิต ยังติดตามสถานการณ์อยู่ที่บช.น.ต่อ ทั้งที่พล.อ.ชวลิตไม่ได้สั่งให้อยู่ต่อ แต่เข้าใจว่าพล.ต.อ.บุญฤทธิ อาจไปสั่งการใดๆ โดยอ้างชื่อพล.อ.ชวลิต
"พท."ล่าชื่อเอาผิด 9 ป.ป.ช.
ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน และพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ไม่ได้สั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพียงแต่กำชับให้ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย ดังนั้น การที่ป.ป.ช. ให้แจ้งข้อหานายสมชาย และพล.อ.เชาวลิต จึงเป็นการปฏิบัติมิชอบ ตนและพ.ต.ท.สมชายพร้อมไปเป็นพยานให้
ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายบัณฑิต รชตะนันทน์ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยื่นฟ้องร้องว่า ป.ป.ช.กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ จากการชี้มูลความผิดนายสมชาย เมื่อครั้งปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายบัณฑิต ฐานไม่เก็บเงินค่าธรรมเนียมจากการขายทอดตลาดที่ดินของศาลธัญญบุรี เป็นการวินิจฉัยคนละเรื่องกับที่แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งก่อนหน้านี้ส.ส.พรรคพลังประชาชน เข้าชื่อเพื่อยื่นประธานวุฒิสภายื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอาผิด แต่หลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ มีส.ส.ที่ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยถอนชื่อ เป็นผลให้เรื่องตกไป
"ส.ส.พรรคเพื่อไทย 140 คน จะเข้าชื่ออีกครั้ง ในวันที่ 18 มีนาคมนี้เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาฯพิจารณาความผิด ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ยืนยันไม่ใช่การแก้แค้นป.ป.ช." ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว
ผบ.ตร.รับกระทบขวัญตำรวจ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหากรณีสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคมว่า การชี้แจงเป็นข้อเท็จจริง ตำรวจทุกคนทำตามหน้าที่ คำสั่งที่ให้ปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ตนพร้อมเข้าชี้แจงกับ ป.ป.ช.
เมื่อถามถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จะให้ความมั่นใจกับตำรวจผู้ปฏิบัติอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด ความจริงแนวนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้การเจรจา ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ห้ามปะทะ เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ต้องเข้าใจว่าทุกองค์กรมีหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นธรรมดาเราทำตามหน้าที่ ต้องมีผลกระทบต่อขวัญกำลังใจตำรวจ พอสมควร
ที่กองกำกับการ 2 (ป้องปันและปราบปรามการจลาจล) กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) สโมสรตำรวจ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พร้อมรอง ผบช.น. เป็นประธานเปิดพิธีอบรมการควบคุมฝูงชน มีตำรวจปจ.กองบังคับการตำรวจนครบาล ( บก.น.)2, 3, 4, 5, 6 และตปพ. 7 กองร้อย (กองร้อยละ 150 นาย) ร่วมฝึก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะยังมีการใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า หากจำเป็นจริงๆ ก็คงไม่ใช้แบบยิง แต่จะใช้แบบขว้าง ซึ่งในการสาธิตมีการใช้แก๊สน้ำตาแบบขว้างโยนใส่กลุ่ม ปจ.ที่ฝึกอบรมด้วย เพื่อจะได้ทราบถึงอานุภาพว่าเป็นอย่างไร และยังให้รองผบช.น.ที่ถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทำงานรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมตามเดิม