WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, April 12, 2009

สถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์ที่BBCชี้ตำรวจ-ทหารหัวอกเดียวกับเสื้อแดง

ที่มา Thai E-News


โดย โจนาธาน เฮด
ที่มา สำนักข่าวบีบีซี,กรุงเทพฯ



หมายเหตุไทยอีนิวส์:โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเทพฯเขียนบทความเรื่อง"อาเซียนซัมมิตล่มฉุดประเทศไทยสู่มุมอับ" โดยเขาให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจข้อหนึ่งว่า เหตุที่เสื้อแดงบุกยึดโรงแรมและทำให้การประชุมอาเซียนซัมมิตถูกยกเลิกนั้น ไม่ใช่แค่เพราะการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ-ทหารไม่เข้มแข็ง แต่อาจเพราะตำรวจ-ทหารเองก็มีใจให้กับข้อเรียกร้องของเสื้อแดง กล่าวก็ได้ว่าคือพวกเดียวกัน คือประชาชนชั้นรากหญ้า ทำให้การบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลต้องล้มเหลวลง

ข้อสังเกตนี้น่าสนใจต่อสถานการณ์ที่ล่าสุดรัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังจะได้รับการวางเฉยจากตำรวจ-ทหารอีกหรือไม่


เมื่อ4เดือนที่แล้ว ผู้นำหนุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ฉลองชัยขึ้นสู่อำนาจผ่านสภาผู้แทนราษฎร โดยมีข้อสังเกตว่าได้รับการหนุนหลังจากคณะรัฐประหาร

ภายหลังจากตลอดปีของการเมืองที่ยุ่งยาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็กุมชัยชนะในการจัดตั้งรัฐบาลผสมได้เป็นครั้งแรกในรอบ8ปี หลังจากที่พ่ายในสนามเลือกตั้งให้กับทักษิณ ชินวัตรมาตลอด

การก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เขามีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยในงานรัฐมนตรี แต่ต้องรับกับภาระงานท้าทายหลายอย่าง รวมทั้งการจัดประชุมอาเซียนซัมมิต ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยได้เลื่อนมาจากปีที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตการณ์การเมือง

เขาต้องเสียใจต่อการเอาเกียรติเป็นประกันในเวลานี้

ความจริงการบุกเข้ามายังที่ประชุมอาเซียนซัมมิตของกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนทักษิณนั้นไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะการเป็นสถานที่รวมพลของบรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจหลายประเทศนั้น นับเป็นเป้าหมายของการประท้วงอยู่แล้ว

เพราะการประท้วงก่อกวนการประชุมอาเซียนซัมมิตจะนำให้พวกต่อต้านขยายผลไปสู่สื่อในระดับนานาชาติมากขึ้น และจะสามารถสั่นคลอนสิ่งที่อภิสิทธิ์พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่มีเสถียรภาพของรัฐบาล

ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ กลุ่มเสื้อแดงจากแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ได้เคลื่อนขบวนเข้าต่อต้านรัฐบาลจากกรุงเทพฯมายังที่ประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา

ไม้และหนังสติ๊ก

เนื่องจากมันไม่มีอะไรที่น่าประหลาดใจ รัฐบาลได้ใช้กำลังตำรวจและทหารกว่า8,000นายกระจายกำลังปิดกั้นโรงแรมรอยัลคลิฟฟ์ สถานที่จัดการประชุมอาเซียนซัมมิต

ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถใช้พลังมวลชนบุกฝ่าเข้าไปได้

ผู้นำอาเซียนและชาติผู้นำที่เข้าร่วมประชุมต่างพากันเตรียมพร้อมเข้าร่วมประชุม

แต่แล้วนปช.ซึ่งไม่ได้ติดอาวุธอะไรนอกจากไม้ และหนังสติ๊กเก่าๆ ก็สามารถบุกทะลวงตำรวจและทหารเข้าไปยังบริเวณโรงแรมที่ประชุมได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลานั้นบรรยากาศดูครึกครื้นรื่นเริง ทหารเรือคนหนึ่งที่รักษาการอยู่หัวเราะและถ่ายภาพร่วมกับคนเสื้อแดงที่ทะลวงเข้ามายังที่ประชุมได้

ด้านนอกประตูโรงแรมนั้น ทหารปฏิเสธที่จะใช้กำลังบังคับผู้ชุมนุม และผู้ประท้วงสามารถทะลักเข้าสู่โรงแรมที่ประชุม นำไปสู่การอพยพบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมหนีออกจากโรงแรมไปทางเฮลิคอปเตอร์อย่างชวนให้อับอาย

เป็นไปได้อย่างไรที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น?นายกรัฐมนตรีไทยต้องเสื่อมเสียจากการที่ประชุมต้องถูกยกเลิกไป ทั้งที่เขาได้ต้อนรับเหวินเจียเป่า ผู้นำจีน และนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะของญี่ปุ่น มหาอำนาจของชาติในภูมิภาคนี้

ตำรวจขวัญตกต่ำ

นายอภิสิทธิ์ได้โทรศัพท์ขอโทษเหวินเจียเป่า ผู้ซึ่งพูดด้วยภาษาการทูตว่าเขาเข้าใจต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไทย แต่อาจจะคิดว่า"แต่สถานการณ์แบบนี้จะไม่เกิดในจีนแน่"

โฆษกรัฐบาล ปณิธาน วัฒนายากรกล่าวว่าความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยจะต้องมีการสอบสวน

ความเห็นอกเห็นใจต่อนปช.จากตำรวจย่อมมีเป็นธรรมดา เพราะทักษิณก็เคยเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท

ประหารหนึ่งที่ขวัญกำลังใจของตำรวจตกต่ำลงก็เพราะในปีที่แล้ว ประสบความล้มเหลวในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองที่ต่อต้านทักษิณคือพันธมิตร(พธม.) และถูกพันธมิตรเล่นงานอย่างหนัก

แต่จะอธิบายอย่างไรในกรณีที่กองกำลังทหารก็ไม่มีการทำอะไรต่อผู้ประท้วง พลังอำนาจที่ภักดีต่อรัฐบาลชุดนี้?

การขาดประสบการณ์ในการควบคุมฝูงชน บางทีก็นำไปสู่การปราบปรามผู้ประท้วงอย่างนอดเลือด โดยเฉพาะประสบการณ์ที่ทหารเข้าปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในเดือนพฤษภาคม2535 ส่งผลให้ทหารถูกตำหนิ

แต่คนเสื้อแดงอ้างว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

"หากคุณเห็นทหารตำรวจถอดชุดเจ้าหน้าที่ออก พวกคุณก็จะพบว่าตำรวจทหารเหล่านี้ก็คือคนยากคนจน"จักรภพ เพ็ญแข แกนนำผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าว"ดังนั้นตำรวจทหารจึงมีอุดมการณ์ไปในทางเดียวข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง"

"ประชาชนรากหญ้า"

ภาพพันธมิตรเสื้อเหลืองฉลองชัยชนะในการยึดสนามบินโค่นรัฐบาลแนวร่วมทักษิณได้เมื่อปีกลาย

นปช.ประสบความสำเร็จมากในการดึงคนยากจน และชนชั้นกลาง-ล่างเข้ามาเป็นพวก โดยที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่ากำลังต่อสู้เพื่อให้ทักษิณกลับสู่อำนาจเท่านั้น แต่เพื่อความยุติธรรมในสังคมด้วย

พวกเขานิยามตนเองว่าเป็น"คนรากหญ้า"ต่อสู้กับพวกนิยมเจ้าและชนชั้นนำ ซึ่งจะทำให้สังคมไทยพัฒนาไปในทางก้าวหน้าขึ้น

มีการวิพากษ์ว่าเป็นความผิดพลาดของนักเรียนเก่าอีตัน และอ็อกซฟอร์ดอย่างอภิสิทธิ์ที่กล่าวเรียกร้องให้ทักษิณกลับมารับโทษจำคุก2ปีในข้อหาคอรัปชั่น

นปช.ยังได้ยกระดับการประท้วงไปยังที่ปรึกษาอาวุโสของกษัตริย์ภูมิพล โดยกล่าวหาว่าเป็นคนจัดการอยู่เบื้องหลังทำรัฐประหารโค่นอำนาจทักษิณในปี2549

กษัตริย์ภูมิพลยังทรงเป็นที่นิยม แม้กระทั่งสักการะเทิดทูน ทั้งฝ่ายที่ต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนทักษิณ ส่วนพระราชวงศ์ถูกปกป้องโดยกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

แต่การมุ่งเป้าโจมตีไปที่องคมนตรีโดยนปช.นั้น ก็เป็นการโจมตีพลังอำนาจของฝ่ายจารีตนิยมชนชั้นนำ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันที่ใกล้ชิดกับสถาบันกษัตริย์ โดยที่รักษาความนิยมต่อตัวทักษิณเอาไว้ได้

ความมีอำนาจถูกกระตุ้นให้โกรธเคืองระหว่างคนไทยที่ยากจนกว่าในเรื่องช่องว่างประเด็นสุขภาพ และความกังวลโดยทั่วไปเนื่องจากขาดความชัดเจนในเรื่องการสืบทอดราชบัลลังก์

ในช่วง4เดือนแรกของปีกลุ่มเสื้อแดงดูจะไร้อำนาจไม่สามารถดึงเอาคนในเมืองเข้าร่วมขับไล่อภิสิทธิ์ ผู้ซึ่งใช้ความสงบและความอดทนเป็นหลัก และใช้กลยุทธ์ว่าจะเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากกว่า เพราะเป็นเรื่องหลักที่คนในเมืองประสบปัญหา

ทักษิณเดินทางไปทั่วโลกอย่างไร้จุดหมาย ยังหาที่พำนักลี้ภัยที่ปลอดไปไม่ได้ การปราศรัยเข้ามายังที่ประท้วงดูมีผลกระทบเล็กน้อย

แต่ในช่วง2สัปดาห์มานี้ทักษิณได้ปราศรัยผ่านวิดิโอลิ้งค์เข้ามายังผู้สนับสนุนเขา เรียกร้องให้ขับไล่รัฐบาลที่ขับพันธมิตรของเขาลงจากอำนาจในปีที่แล้ว

มีรหัสนัยยะจากจักรภพจากเหตุการณ์ที่พัทยาว่า

"ผมไม่ปฏิเสธว่าพวกเราดีใจที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจจะควบคุมเหตุการณ์ไว้ได้"

มันยังแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ของไทยดิ่งลึกและการเมืองยุ่งยากจากการแบ่งแยกจนยากจะแก้ไขจากเหล่านักการเมือง