ที่มา Thai E-News
ถ้อยแถลงของรัฐบาลกัมพูชา-รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ในกรณีของ ฯพณฯ ทักษิณ กัมพูชาเห็นว่ามีเหตุทางการเมืองอย่างชัดแจ้งในการโค่นผู้นำผู้นี้ลงจากตำแหน่งด้วยการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ในขณะที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่องค์การสหประชาชาติ คดีความมากมายที่ตามมาหลังจากนั้น รวมทั้งการตัดสินลงโทษต่อตัวท่านทั้งสิ้น ล้วนเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น การเชิญ ฯพณฯ ทักษิณ มายังกัมพูชา เกิดจากความตระหนักในธรรมเนียมโบราณของเราที่ว่า “เพื่อนในยามยาก คือเพื่อนยากที่แท้จริง”
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบบล็อกประชาธิปไตย100%
7 พฤศจิกายน 2552
นายจักรภพ เพ็ญแข ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทูตระหว่างประเทศได้วิเคราะห์ข้อพิพาทล่าสุดระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชากรณีที่กัมพูชาได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ควบกับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา โดยให้สัมภาษณ์กับเวบไซต์คนไทยUK-www.konthaiuk.com เมื่อค่ำวานนี้
ประเด็นสำคัญที่นายจักรภพวิเคราะห์กรณีพิพาทครั้งนี้ ประกอบด้วย
- การที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ปลุกกระแสคลั่งชาติหาเหตุทะเลาะกับเพื่อนบ้าน โดยยกเลิกความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจน้ำมันและพลังงานในอ่าวไทยที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งของฝ่ายประชาธิปไตย เนื่องจากเบื้องหลังจริงๆแล้ว รัฐบาลอภิสิทธิ์และฝ่ายอำมาตย์พยายามติดสินบนกัมพูชาด้วยเรื่องนี้ โดยแลกกับการเลิกคบและงดให้ความช่วยเหลือกับอดีตนายกฯทักษิณในทุกด้าน แต่กัมพูชากลับแต่งตั้งนายกฯทักษิณสู่ตำแหน่งที่ปรึกษาสำคัญถึง ๒ ตำแหน่ง เท่ากับปฏิเสธการลวงล่อของรัฐบาลไทยและย้ำจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง
สำหรับการแต่งตั้งครั้งนี้ ตำแหน่งทั้งสองเรียกเป็นทางการว่า:
๑. Personal Advisor to Prime Minister of the Kingdom of Cambodia หรือ ที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
๒. Advisor to the Royal Government in charge of economic affairs หรือ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลแห่งชาติ
- การแต่งตั้งนี้เป็นพระราชกฤษฎีกาที่ลงพระนามโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสีหโมนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒
- กัมพูชาใช้ประกาศเดียวกันยืนยันว่านายกทักษิณเป็นผู้บริสุทธิ์ และถูกกล่าวโทษเอาผิดต่างๆ เพราะการเมืองหลังรัฐประหาร พ.ศ.๒๕๔๙ รัฐบาลของเขาจึงเห็นว่าเป็นเรื่องสมควรและมีประโยชน์ที่จะเชิญนายกทักษิณเข้ามาช่วยบริหารราชการแผ่นดินของกัมพูชา และประกาศแต่งตั้งดังกล่าว พูดง่ายๆ คือทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกันในทัศนะของกัมพูชา
คำประกาศนี้ไม่มีเสียงคัดค้านจากฝ่ายค้านหรือฝ่ายใดๆ ในกัมพูชาเลย
สำหรับรายละเอียดแถลงการณ์ของกัมพูชาเรื่องแต่งตั้งครั้งนี้ ซึ่งแปลโดยนายจักรภพ มีเนื้อหาดังนี้
เนื่องมาจากเหตุการณ์ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๒ ที่เกี่ยวข้องกับ ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ผู้นำไทยส่วนหนึ่งได้แสดงปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่องบนบรรทัดฐานของสนธิสัญญาส่งตัวระหว่างกัมพูชาและไทยว่า จะร้องขอให้มีการส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไทยกลับ หากเดินทางเข้ามายังกัมพูชา สำนักอัยการสูงสุดของไทยได้ยกประเด็นขึ้นว่า ทางราชอาณาจักรกัมพูชามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าว แต่ต้องอธิบายความและให้เหตุผลอันสอดคล้องกับหลักปฏิบัติระหว่างประเทศ
ในอีกกรณีหนึ่ง รองนายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวว่าไทยมีสิทธิ์ที่จะขอให้ส่งตัวคุณทักษิณกลับไทยตามหลักการของสนธิสัญญาส่งตัวระหว่างกัมพูชาและไทย ตลอดจนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (แหล่งข่าวจาก: เอเอสทีวี เมเนเจอร์ ออนไลน์ ที่ขึ้นข้อความข่าวนี้เมื่อ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๒ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่ตีพิมพ์เมื่อ ๒๗ และ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ และในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นเมื่อ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๒)
หลังได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้ว รัฐบาลกัมพูชาขอตั้งข้อสังเกตต่างๆ ดังนี้:
๑. โดยมาตรา ๓ แห่งสนธิสัญญาส่งตัวระหว่างกัมพูชาและไทยที่ลงนามในกรุงเทพมหานครเมื่อ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๑ และให้สัตยาบรรณพร้อมประกาศใช้ในพระราชบัญญัติที่ N CS/RKM/0799/08 ลงวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๒ ผู้ได้รับการร้องขอคือกัมพูชาสามารถพิจารณาได้ก่อนว่า กรณีของคุณทักษิณเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่
๒. อ้างถึงกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรา ๓ ในอนุสัญญายุโรปเกี่ยวกับการส่งตัว ที่ลงนามใช้เมื่อ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ และมาตรา ๓ ของต้นแบบสนธิสัญญาส่งตัวในกรอบองค์การสหประชาชาติเมื่อ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๓ การส่งตัวจะกระทำมิได้เลยภายใต้เงื่อนไข ๒ ประการต่อไปนี้:
a. หากคดีความอันเป็นเหตุให้เกิดข้อเรียกร้องส่งตัว มีลักษณะเป็นคดีการเมืองตามความเห็นของประเทศที่ได้รับการร้องขอ
b. หากประเทศผู้ถูกร้องขอมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าการขอให้ส่งตัวเป็นไปโดยจุดประสงค์เพื่อเอาผิดหรือลงโทษกับบุคคลนั้นๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ สัญชาติ เผ่าพันธุ์ ทัศนะทางการเมือง เพศ ศาสนา หรือสถานภาพทางสังคม จนบุคคลนั้นๆ อาจถูกตัดสินอย่างมีอคติได้
๓. นอกจากนั้นแล้ว เพื่อเน้นหลักปฏิบัติระหว่างประเทศให้ชัดเจนขึ้นอีก โฆษกรัฐบาลขอยกกรณีตัวอย่างจำนวน ๒ กรณีจากคดีที่มีอยู่มากมายและเป็นที่รับรู้ทั่วไปในระดับระหว่างประเทศ นั่นคือคดีระหว่างญี่ปุ่นและเปรู และคดีระหว่างอังกฤษและรัสเซีย ญี่ปุ่นได้ปฏิเสธคำขอของเปรู และอังกฤษก็ได้ปฏิเสธคำขอของรัสเซีย บนหลักการว่าคำร้องขอทั้งสองกรณีนั้นเกี่ยวข้องกับการเมือง
ในกรณีของ ฯพณฯ ทักษิณ กัมพูชาเห็นว่ามีเหตุทางการเมืองอย่างชัดแจ้งในการโค่นผู้นำผู้นี้ลงจากตำแหน่งด้วยการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ในขณะที่ท่านอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่องค์การสหประชาชาติ คดีความมากมายที่ตามมาหลังจากนั้น รวมทั้งการตัดสินลงโทษต่อตัวท่านทั้งสิ้น ล้วนเป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น
จากข้อพิจารณาทางกฎหมายดังกล่าวทั้งหมด และโดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศทั้งมวล เราจึงขอย้ำอย่างเด็ดขาดว่า ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ ก็ตาม ราชอาณาจักรกัมพูชาจะไม่ส่งตัว ฯพณฯ ทักษิณกลับตามคำร้องขอจากประเทศไทย ไม่ว่าในขณะที่ท่านตัดสินใจเข้ามาพำนัก หรือเดินทางผ่านกัมพูชาไปยังประเทศอื่นๆ ก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามความในพระราชกฤษฎีกาที่ NS/RKT/1009/1018 ลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ ที่ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งท่านเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุนเซ็นผู้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลแห่งชาติกัมพูชา
โฆษกรัฐบาลขอแสดงเจตนารมย์ด้วยว่า รัฐบาลกัมพูชาจะไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีในการธำรงรักษาความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือในทุกๆ ด้าน ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย การเชิญ ฯพณฯ ทักษิณ มายังกัมพูชา เกิดจากความตระหนักในธรรมเนียมโบราณของเราที่ว่า “เพื่อนในยามยาก คือเพื่อนยากที่แท้จริง” (“a friend in need is a friend in deed”)
กรุงพนมเปญ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒