WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, January 27, 2009

สภาเดือด!! 'สุนัย-บุญยอด'ฟัดกันนัว'มาร์ค'ขู่ส.ส.ห้ามโดดประชุมงบฯ

ที่มา ประชาทรรศน์

‘ชินวรณ์’ ลั่นเช็กองค์ประชุม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล หวั่นสภาฯล่ม!! ‘มาร์ค’ ขู่ ส.ส.ห้ามโดดประชุมงบฯพรุ่งนี้ ด้าน ‘เทพเทือก’ ปัดติวเข้ม ‘กษิต’ มั่นใจแจงสภาผ่านฉลุย ระบุ ส.ส.-ส.ว.ประท้วงวุ่นสภาฯ 'สุนัย-บุญยอด' ฟัดกันนัว ขณะที่ ‘ตู่-จตุพร’ จี้ รมว.บัวแก้วแจงหนุน ‘พันธมาร’ ยึดสนามบิน ล่าสุด 2 สภาผ่านพิจารณากรอบอาเซียนวาระ 2-7 แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วันนี้ (27 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน หลังจากวานนี้ใช้เวลาพิจารณาไปแล้วนานกว่า 12 ชั่วโมง และปิดการอภิปรายที่กรอบข้อตกลงอาเซียน 2-7 โดยยังไม่มีการลงมติ เนื่องจากรอให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา เข้าทำการชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อนที่สมาชิกจะลงมติให้ความเห็นชอบ

สำหรับกรอบข้อตกลงอาเซียนที่พิจารณาไปแล้ว เช่น เอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียนและการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน เอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาในกรอบอาเซียน+3 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และกรอบเจรจายกร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนและกรอบการเจรจาประเด็นกฎหมายภายใต้กฎบัตรอาเซียนภายใต้การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระดับสูงว่าด้วยกฎบัตรอาเซียน เป็นต้น

โดยก่อนการประชุม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ได้นัดประชุมวิปรัฐบาล เพื่อเช็กเสียงของ ส.ส. รวมถึงหารือกับวิปฝ่ายค้าน เพื่อตกลงกันกรณีข้อเสนอของฝ่ายค้านให้ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งหากไม่กระทบกับกรอบข้อตกลงก็สามารถตั้งกรรมาธิการได้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยกว่า 100 นาย

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าว กับทีเอ็นเอ็นถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน ตามที่ ครม.เสนอ ว่า วานนี้ได้อภิปรายไปแล้ว 34 ฉบับ เหลือที่จะอภิปรายในวันนี้อีก 10 ฉบับ อาทิ ของกระทรวงคมนาคม 3 ฉบับ กระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ กระทรวงแรงงาน 1 ฉบับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบันทึกความเข้าใจ

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการเตรียมเสนอตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาข้อดีข้อเสีย ว่า แม้จะเป็นประโยชน์ แต่อาจทำให้เสียเวลา ดังนั้นแม้ฝ่ายค้านเสนอ แต่ทางพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องลงมติให้กรอบประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านสภา เพราะไม่สามารถเลื่อนการประชุม อาเซียน ซัมมิท ได้อีก

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ให้เตรียมพร้อมอยู่ร่วมในห้องประชุมรัฐสภาตลอดเวลา ส่วนวันนี้ จะมีเรื่องใดที่จำเป็นจะต้องลงมติหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภา และระบุว่า มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่พูดถึงบทลงโทษ ส.ส.กัน ในต่างประเทศจะมีเร็คคอร์ดของ ส.ส.แต่ละคน ว่าเคยลงมติหรือไม่ลงมติในเรื่องใดบ้าง และจะเป็นจิตสำนึกของแต่ละคน

วิปรัฐบาลชี้การอภิปรายของฝ่ายค้านมุ่งที่ตัวบุคคล

นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่การประชุมเมื่อวาน (26 ม.ค.) ส.ส. มีการฟักซอกรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลมากกว่าเป็นการอภิปรายในเนื้อหาว่า ตรงนั้นเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นนายกฯ เป็นรมว.ก็ดี ถือว่าเป็นหน้าตาของประเทศ และกรอบการเจรจาอาเซียนก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น หากกรอบดี การเจรจาดี แต่บุคคลที่ไปเจรจาไม่ดีก็อาจเป็นปัญหา

เมื่อถามว่าไม่ถือว่าเป็นการตีรวนในสภาหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่าจะตีรวนอะไรเมื่อจะอภิปรายยาวๆ ก็ปิดประชุมก่อน ตนก็อยากอภิปรายให้กรอบที่ 1 เสร็จไป อยากให้ทิศทางการประชุมเป็นไปในทางที่ดี ส่วนการที่ฝ่ายค้านเสนอปิดอภิปรายก็แสดงว่าให้ลงมติในเรื่องที่อภิปรายอยู่

เมื่อถามว่าถ้าการอภิปรายไม่เสร็จสิ้นในเวลาที่กำหนดจะขยายเวลาออกไปอีกหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) จะเป็นการอภิปรายเรื่องงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ2552 ที่รัฐบาลต้องไปเร่งรัดนำงบประมาณไปช่วยเหลือประชาชน

เมื่อถามว่าการปิดประชุมเมื่อวานได้สร้างความไม่พอใจหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ไม่ใช่ไม่พอใจ เพราะตนได้เสนอกับประธานไป ก่อน 3 ชั่วโมงว่าให้ปิดประเด็นการอภิปรายในกรอบที่ 1 เพราะทุกคนรอที่จะอภิปรายในกรอบอื่นๆ สิ่งที่จำเป็นที่รัฐบาลต้องการเห็นชอบก็คือขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเป็นเรื่องที่น่าจะทำให้เร็วเพื่อที่จะลงมติให้เป็นกรอบๆ ไป

เมื่อถามว่าการที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีกระทรวงว่าการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ฝ่ายค้านจะขุดคุ้ยประวัติหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ประเด็นเมื่อวานที่ได้อภิปรายหากนายกษิต จริงใจที่จะตอบก็ไม่มีปัญหา เพราะเราเน้นบุคคลที่ทำหน้าที่ ถ้าบุคคลที่ทำหน้าที่ไม่สง่างาม การเจรจาถึงจะมีเครื่องมือดี แต่ถ้าเขาไม่เจรจาด้วยก็จะมีปัญหา เพราะถือเป็นหน้าตาของประเทศไทย เราต้องยอมรับว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นคนที่เลือกตัวบุคคลเอง เพราะฉะนั้นการที่จะนำบุคคลใดมาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงหน้าตาของประเทศด้วย

'เทพเทือก' ปัดติวเข้ม 'กษิต' เชื่อแจงสภาผ่านฉลุย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจะเข้ามาชี้แจงเรื่องกรอบอาเซียนในสภา ขณะที่ฝ่ายค้านก็เตรียมอภิปรายโจมตี รัฐบาลมีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ว่า ไม่มีอะไรต้องช่วยเหลือเป็นพิเศษ เชื่อว่านายกษิตจะชี้แจงได้เอง โดยส่วนตัวมั่นใจในตัวรมว.ต่างประเทศ และไม่ได้มีการติวเข้มอะไร

เมื่อถามว่า หากเวลาในการประชุมไม่เพียงพอจะมีการขยายเวลาออกไปเป็นวันที่ 3 หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงจะต้องดำเนินการไปตามเวลา เพราะวันพุธและพฤหัสจะต้องพิจารณางบประมาณ ซึ่งหากวันนี้พิจาณาไม่เสร็จคงเลื่อนการอภิปรายงบออกไปก่อน แต่คาดว่าวันนี้น่าจะเสร็จ

เมื่อถามว่า กรณีพรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปปช. .ให้ตรวจสอบนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กรณีแจกเงินเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะมีการปรับครม.ในตำแหน่งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เค้าไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมจะปรับง่ายๆ ซึ่งก็ยังไม่เห็นว่ามีความผิดอะไร ยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดในการปรับ ครม.ในช่วงนี้ ต้องดูว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาได้พิสูจน์ข้อกล่าวหายังไงบ้าง

เมื่อถามว่า มองว่ากรณีที่มีการพูดถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 นั้นมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของ นายบุญจง อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่คิดว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ฟังจากสื่อและนายบุญจงเล่า และไม่คิดว่าจะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังไม่เห็นว่ากรณีของนายบุญจง จะเป็นเรื่องของการทุจริต ส่วนกรณีของนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าปลากระป๋องที่แจกนั้นเป็นของซื้อหรือของบริจาค ต้องพิสูจน์ให้ได้

เมื่อถามว่า กรณีที่พล.ต.สนั่น ขจรประสาทน์ กล่าวว่าหากมีการปรับครม.จริงก็ควรจะปรับเป็นรายบุคคลรัฐมนตรีที่มีปัญหา เป็นไปได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่ายังไม่เคยคิดที่จะปรับ ครม.ในช่วงนี้

'ปู่ชัย'มั่นใจคุมการประชุมสภาได้

นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อการประชุมรัฐสภาวันนี้ เพราะจากการประเมินคาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะเป็นไปตามปกติ และเป็นไปตามเนื้อผ้า ส่วนการที่ฝ่ายค้านมุ่งอภิปรายโจมตีตัวบุคคลมากกว่าเนื้อหา ก็ถือว่าเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.ที่สามารถกระทำได้ โดยประธานรัฐสภาจะไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่หากมีการหมิ่นประมาทเกินขอบเขตก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ ไม่รู้สึกกังวลต่อกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะมาชี้แจงด้วยตนเอง และฝ่ายค้านมุ่งจะโจมตีอย่างรุนแรง จนหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดเหตุวุ่นวาย เพราะตนเองจะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด

ประธานรัฐสภา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แจกเงินพร้อมนามบัตร ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่หากตรวจสอบพบว่าเป็นการทุจริตก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นายกฯไม่ขัดตั้ง กมธ.พิจารณากรอบอาเซียน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการพิจารณากรอบการเจรจาอาเซียน ว่า ตนยังไม่ทราบประเด็น เนื่องจากสภายังไม่มีข้อยุติ แต่ได้ให้คณะกรรมการประสานงานพรรค(วิป)ทั้งสองฝ่ายหารือกันแล้ว หลักการคือ เราต้องการที่จะสามารถลงนามในข้อตกลงต่างๆร่วมกันได้ เนื่องจากประเทศอื่นๆในกลุ่มที่จะเข้าร่วมประชุมนั้นมีความพร้อมหมดแล้ว ในส่วนสภาหากจะมีการตั้งข้อสังเกตุ ติดตามการทำงานก็ไม่ขัดข้อง

เมื่อถามว่า ยินดีจะให้ตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูขอบเขตกรรมาธิการและขั้นตอน เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาความล่าช้าขณะเดียวกัน ไม่ได้ปิดกั้นการมีส่วนร่วม

เมื่อถามว่า เป็นการเตะถ่วงของฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ให้ทางวิปคุยกันน่าจะเข้าใจกันได้ ว่าเป้าหมายคืออะไร ส่วนที่ฝ่ายค้านได้ยื่นให้พิจารณากรณีนายบุญจงแจกเงินนั้น ทุกคนต้องยอมรับการตรวจสอบเข้าสู่กระบวนการตามข้อเท็จจริง ตนจะขอดูว่าฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องอะไร

เมื่อถามว่า การพิจารณากรอบอาเซียนจะเสร็จทันภายในวันนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การอภิปรายหลายส่วนเลยไปสู่กรอบอื่น ๆ แล้ว โดยเฉพาะส่วนของวุฒิสภา ประเด็นหลัก ๆน่าจะอยู่ในกรอบแรกเหมือนเป็นกรอบแม่ของการหารือ คือกระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงพาณิชย์ ส่วนกรอบอื่น ๆ วาระหลัง ๆ จะเป็นเรื่องเฉพาะ ไม่คิดว่าจะมีการอภิปรายกันมากคิดว่าจะประสานงานกันได้

เมื่อถามว่าจะขอความร่วมกับฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ใช่ และขอให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนถือว่างานนี้เป็นงานที่เราต้องทำในฐานะประธานอาเซียนที่ดี ขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ทั้งนี้หากพิจารณาวันนี้ไม่เสร็จ ประธานสภาจะให้เวลาพรุ่งนี้อีกหนึ่งวันหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับประธานสภา ถ้าเป็นไปได้อยากให้เสร็จภายในวันนี้

เมื่อถามว่า คิดว่ารัฐบาลกำลังเจอสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีรอบข้างโดนโจมตีหลายเรื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนติดตามทุกเรื่องจะทำทุกอย่างให้แก้ปัญหาทุกอย่างเดินได้

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการประชุมสภาวันนี้จะมีการป่วนเพื่อให้ นายกษิต ชี้แจง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกษิตต้องมาชี้แจง ตนจะคุยกับนายกษิต

เมื่อถามว่าห่วงนายกษิตหรือไม่เพราะนายกษิตอารมณ์ร้อนจะทนแรงเสียดทานในสภาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่านายกษิตคงตอบได้

ขณะที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดินทางกลับจากการเยือนกัมพูชา ยืนยันว่า วันนี้จะเข้าร่วมการประชุมอย่างแน่นอน และพร้อมชี้แจงในทุกประเด็นปัญหาที่ฝ่ายค้านอภิปรายวานนี้

สภาวุ่น!สส.-ส.ว.ประท้วง'ตู่' จี้'กษิต'แจงหนุนพธม.ยึดสนามบิน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศระหว่างการประชุมสภา ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณากรอบการประชุมอาเซียน เป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวานนี้(26ม.ค.) ใช้เวลาพิจารณา 12 ชั่วโมง และนายชัย ชิดชอบประธานรัฐสภา สั่งปิดการประชุมเวลา 21.35 น. หลังนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เสนอปิดการอภิปรายในกรอบอาเซียน แต่นายธนา ชีรวนิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน ขณะนั้นมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียงเล็กน้อย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เกรงว่าหากมีการนับองค์ประชุมจะเกิดสภาล่มอีกจึงตัดสินใจปิดการประชุม

โดยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้ชี้แจงเป็นครั้งแรก พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำงานส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ทำงานอย่างเปิดเผยไม่เคยมีวาระซ่อนเร้น และภูมิใจที่มีส่วนทำให้ประชาธิปไตยก้าวเดินต่อไป

ส่วนการพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนนั้น นายกษิต ชี้แจงว่า เคยมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เพียงแต่มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การทำสนธิสัญญาใดๆต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน พึ่งมีผลบังคับใช้ จึงนำเรื่องนี้กลับเข้ามาพิจารณาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า กรอบข้อตกลงทั้งหมด ประเทศในกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศเห็นชอบแล้วรอเพียงประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ดังนั้นเห็นว่าทุกคนควรจะร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ เพื่อสร้างศักดิ์ศรีให้กับประเทศไทย

ขณะเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายสวนกลับว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านต้องการเห็นในขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะกรอบเนื้อหาของข้อตกลงเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงความสง่างามของรัฐมนตรีต่างประเทศด้วย เพราะเคยขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ จนส่งผลทำให้สส.จากพรรคประชาธิปัตย์และสว. ลุกขึ้นประท้วงกันวุ่นวาย โดยระบุว่า เป็นการอภิปรายเรื่องเดิมและไม่อยู่ในเนื้อหาสาระของกรอบการประชุมอาเซียน

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อมาถึงตรงนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ลุกขึ้นประท้วงบ้าง โดยส่วนใหญ่ระบุนายจตุพรมีสิทธิอภิปรายในเรื่องดังกล่าว เพราะเกี่ยวโยงกับการประชุมอาเซียน และเป็นสัดส่วนเวลาของพรรคเพื่อไทย ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงประท้วงอยู่เป็นระยะๆ จนทำให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมจึงสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.

หลังจากหยุดพักการประชุมไป 5 นาที นายจตุพร กล่าวต่อว่า การเลื่อนประชุมผู้นำอาเชียนนั้นเป็นเพราะพันธมิตรยึดสนามปิน และรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศคนปัจจุบันก็พูดว่า "การปิดล้อมสนามบินและทำเนียบรัฐบาลเป็นนวัตกรรมใหม่ของการชุมนุมประท้วง ตรงนี้ตนมองว่าตรงนี้ถือเป็นโอกาสดีที่นายกษิตจะได้ชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนถึงการยึดสนามบิน การยึดทำเนียบรัฐบาล และเรื่องประสาทเขาพระวิหาร ยังไม่รวมถึงสิ่งที่เคยบอกว่า เมื่อประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรับบาล นายกฯคนใหม่จะต้องยอมรับทุกเงื่อนไขของพันธมิตร

นายกษิต กล่าวชี้แจงว่า ถ้อยคำที่นายจตุพรหยิบยกขึ้นมาพูดนั้น เพราะเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ประเทศกัมพูชาประกาศให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ และสิ่งที่ตนได้พูดไปนั้นเป็นการพูดเพื่อแสดงจุดยืนว่ารักชาติ พูดในฐานะประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่ไม่สามารถให้ประเทศไทยมาละเมิดหลักประชาธิปไตยไทย พูดในฐานะที่กำลังดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตยที่กระทำด้วยความชอบธรรม การที่มองว่าประชาคมโลกจะไม่ยอมรับตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น สารจากเพื่อนบ้านที่ส่งมาแสดงความยินดี และนัดเพื่อพบปะกันตามวาระต่างๆนั้น แสดงให้เห็นแล้วว่าตนไม่มีปัญหากับประเทศใด อยากให้ดูที่เนื้อหาและประสบการณ์ทำงานมากกว่า

นายกษิต กล่าวอีกว่า ความสัมพันธ์ของตนกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ประเทศกัมพูชานั้นเป็นไปด้วยดี เพราะเรามีหน้าที่ในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ เราจะใช้สันติวิธีไม่ใช้กำลัง ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องพูดถึงอดีต เพราะเราทุกคนต่างก็มีอดีตด้วยกันทั้งนั้น วันนี้เราอยู่ในอีกตำแหน่งหนึ่งและมีอีกหน้าที่หนึ่งที่ต้องรับผิดชอบ จึงต้องทำงานเพื่อประเทศชาติ และไม่มีประเด็นใดที่จะเป็นปัญหาในการทำงาน

2 สภาผ่านกรอบอาเซียนวาระ2-7แล้ว

ทั้งนี้ที่ประชุมร่วม 2 สภา มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณากรอบการเจรจายกร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน และกรอบการเจรจาประเด็นกฎหมายภายใต้กฎบัตรอาเซียน จำนวน 36 คน โดยเป็นตัวแทนจากทุกพรรค และวุฒิสภา ให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 15 วัน และทำเป็นข้อสังเกตให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังลงมติเห็นชอบในกรอบที่ 2-7 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน และการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน การให้ความเห็นชอบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาในกรอบอาเซียน+3 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน รวมถึงพิธีสารเพื่ออนุมัติข้อผูกพันชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน ขณะเดียวกัน ยังเห็นชอบความตกลงด้านการลงทุนของอาเซียนแล้ว นอกจากนี้ม การประชุมในช่วงบ่ายนั้นจะพิจารณารวบและลงมติรวดเดียวในกรอบที่ 8-20

'สุนัย-บุญยอด'โต้กันแหลก!'ประสพสุข'เซ็งสั่งพัก10นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 2 เพื่อพิจารณากรอบประชุมอาเซียนในช่วงบ่ายเข้มข้นไม่แพ้ช่วงเช้า โดยมีส.ส.ส.ว. ผลัดกันลุกขึ้นอภิปรายติติงและสนับสนุนกรอบข้อตกลงอาเซียนแม้จะมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตาก็ตาม กระทั่งเวลา 14.00 น.นายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวติงต่อนายประสพสุข บุญเดช รองประธานรัฐสภา ในฐานะประธานในที่ประชุม ว่าขณะนี้มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวนน้อยจึงอยากให้สมาชิกเข้ารับฟังการประชุมอย่างพร้อมเพรียงเพราะอาจมีการเสนอให้นับองค์ประชุม อาจจะมีปัญหาได้

ขณะที่นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ส.ส.เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง แต่มีจำนวนมากที่นั่งฟังอยู่รอบนอกห้องประชุม ทั้งนี้ตนขออภิปรายเกี่ยวกับกรอบการขอความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาแรงงานพม่าลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขณะนี้มีอยู่กว่า 2 ล้านคน และไม่มีการผ่านการตรวจร่างกายจะทำให้เป็นพาหะต่ออนามัยของคนไทย และกระทบต่อปัญหาความมั่นคงและแรงงาน ตนอยากเสนอให้มีการแสกนลายนิ้วมือของแรงงานเหล่านี้ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับกระทรวงแรงงานเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ

ต่อมา เวลา 14.20 น.หลังนายสุวโรช กล่าวจบนางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวติงว่า สมาชิกน่าจะเข้ารับฟังการอภิปรายในห้องประชุมมากกว่านี้ ดังนั้นจึงขอเสนอให้ประธานนับองค์ประชุม ปรากฏว่าบรรดาส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ดาหน้าลุกขึ้นขอให้นางนฤมล ถอนข้อเสนอดังกล่าว แต่นางนฤมลยังคงยืนยันให้นับองค์ประชุม ขณะที่นายสุนัย จุลพงศธรส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นท้วงติงประธานว่าประธานทำหน้าที่เอียงขวามากไป ไม่เปิดให้ฝ่ายค้านได้พูด คงเป็นเพราะว่ามีส.ว.มาจากการแต่งตั้งมากกว่าส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง ทำให้บรรดาส.ว.แต่งตั้งลุกขึ้นประท้วง ให้นายสุนัยถอนคำพูด ส่วนนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ได้เกิดมีการประท้วงระหว่าง นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวหา บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ‘ผู้สื่อข่าวเผด็จการ’ จากนั้นนายบุญยอด โต้กลับว่า ‘สุนัขรับใช้สมุนทรราชย์’ ทำให้บรรยากาศเกิดความตึงเครียด จนในที่สุดนายประสพสุข บุญเดช รองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม จึงสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที

ทั้งนี้หลังพักประชุมไป 5 นาที ก็ได้มีการเปิดประชุมโดยเปลี่ยนให้นายชัย ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธาน และได้มีการตรวจสอบองค์ประชุม ด้วยการเสียบบัตร ซึ่งปรากฎว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวน 345 คน ถือว่าครบองค์ประชุมจึงทำการประชุมต่อไป

มาร์ค’หวั่นสภาฯล่ม!ขู่ส.ส.ห้ามโดดประชุมงบฯพรุ่งนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาในวันนี้ (27 ม.ค.) ว่า เป็นไปอย่างเรียบร้อย ส่วนในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) ที่จะมีการเสนองบประมาณกลางปี 2552 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีเสียง ส.ว.ช่วยเหลือจะกังวลหรือไม่นั้น ถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะนำเสียง ส.ส.มาให้ครบองค์ประชุม โดยจะให้คณะกรรมการติดตาม ส.ส.35 คนที่ตั้งขึ้นเป็นผู้ติดตาม ส.ส.ให้มาประชุมแต่หากผู้ใดติดภารกิจก็ขอให้แจ้ง