ที่มา ประชาทรรศน์
'จตุพร' ขู่ดับเครื่องชน หากถูกห้ามชุมนุมที่หน้าทำเนียบ 'บัญญัติ'เชื่อใจเสื้อแดงต้านรบ.ไม่ยืดเยื้อ เชื่อสภาแข็งแรง 'กรณ์' จ้อไม่สนเมิน นปช. บุกยึดทำเนียบ ด้าน 'เทพเทือก'ปอดไม่ขอท้าทายกลุ่มเสื้อแดง เจ้าตัวเชื่อคนมาเรือนหมื่น แท่ทัพภาคที่ 1 ผสานกำลังตร. ย้ำทหารไม่ออกจากที่ตั้งถ้าไม่จำเป็น โคตรลงทุน!สันติบาลสั่งติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม จับตาทุกฝีก้าว เสื้อแดงสมุทรปราการเจอรถทัวร์เบี้ยว-ตะปูเรือใบ ขวางเข้ากรุง แกนนำย้ำไร้การโฟนอินยึกทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(31 ม.ค.) ที่การชุมนุมใหญ่ ท้องสนามหลวง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)และทีมผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงการชุมนุมของ นปช.ในวันนี้ว่า ทราบข่าวว่ามีความพยายามจะสกัดกั้นไม่ให้ นปช. เดินทางไปถึงทำเนียบฯ ทางแกนนำนปช.จึงมอบหมายให้ตนเป็นผู้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านสกัดอยู่ 4 จุด และอยากเตือนว่าถ้ารัฐบาลบีบให้ตำรวจกระทำการรุนแรงกับประชาชน จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการชุมนุมไม่เลิกราจนกว่าจะแตกหัก โดยนปช.จะใช้ทำเนียบรัฐบาล เป็นสมรภูมิ ดังนั้นถ้ารัฐบาลมีสมองพอก็ควรเปิดโอกาสให้ นปช. เข้าไปประกาศเจตนารมณ์
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง ที่สนามหลวง วันนี้ (31 ม.ค.) ว่าได้มีการประเมินสถานการณ์ไว้ตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาล จึงไม่รู้สึกหวั่นไหว ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากน้อยแค่ไหนจะชุมนุมต่อเนื่องยาวนานหรือไม่ และจะมีการเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ แต่เท่าที่ฟังแกนนำคนเสื้อแดงให้สัมภาษณ์ เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกกังวลว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลหรือยุบสภา เนื่องจากข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตร และการเปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศ หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายใน 3 เดือน มาตรการต่าง ๆ ซึ่งเป็นทางออกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว น่าจะเป็นผล
ส่วนข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 นั้น นายบัญญัติ กล่าวยอมรับว่า รัฐธรรมนูญปี 50 มีหลายมาตราค่อนข้างเคร่งครัด แต่ตนมองว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องรีบดำเนินการ
ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ การแก้ไขก็ถือเป็นการอุดช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 และเมื่อเขียนมาแล้ว ก็ควรลองใช้ไประยะหนึ่ง เพราะไม่ถึงขั้นจะเป็นอุปสรรคข้อขัดข้องในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้สภาฯ ก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลนี้ ก็ประกาศชัดเจนว่า ต้องมีการแต่งตั้งคณะบุคคล อาจจะเป็นคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง ขึ้นมาทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากภาระไว้กับสถาบันพระปกเกล้า
"การเคลื่อนไหวของภาคเอกชนที่กล้าแสดงโดยเฉพาะความคิดเห็นของ 3 สถาบันหลักในภาคธุรกิจ ทั้งสมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ถือเป็นเรื่องที่ดี และคิดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมเปลี่ยนขั้วมาหนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงประชาชนเริ่มมีความคิดเห็นคล้อยตาม ดูได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดว่า 29 ที่นั่ง 26 เขตเลือกตั้ง 22 จังหวัดครั้งที่แล้ว จะได้ถึง 7 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามการชุมนุมการเรียกร้อง ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแต่ตนมองว่าประชาชนวันนี้เริ่มอยากเห็นการเมือง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น จึงเชื่อว่าประชาชนอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สถานการณ์ในบ้านเมืองให้นิ่ง” นายบัญญัติ กล่าว
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรวมกลุ่มชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ได้เริ่มทยอยเข้ามาสมทบกันที่ ท้องสนามหลวง ตามคำประกาศนัดชุมนุมครั้งสำคัญในวันนี้ (31 ม.ค.) ของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยในขณะนี้ ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 35 กองร้อย เพื่อเตรียมรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง พร้อมผสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารอีก 22 กองร้อยเพื่อเสริมทัพในกรณีฉุก
เสื้อแดงอีสาน 3 พันคนบุกเข้าสนามหลวง
สำหรับบรรยากาศการเดินทางมายังท้องสนามหลวง ของกลุ่มผู้สนับสนับสนุนในต่างจังหวัดนั้น ในส่วนของ จ.อุดรธานีมีกลุ่มประชาชนเสื้อแดง ได้เดินทางไปด้วยรถทัวร์มาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จำนวน 13 คัน รถตู้ 10 คัน รถไฟ และรถโดยสารประจำทาง
รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,100 คน โดยก่อนหน้านี้ได้มีประชาชนเสื้อแดงบางส่วนออกเดินทางล่วงหน้าไปแล้วกว่า 500 คน ซึ่งหากรวม กลุ่มผู้ชุมนุมจากจ.หนองบัวลำพู จ.หนองคาย จ.สกลนคร และจ.ขอนแก่น คาดการณ์ว่าน่าจะจำนวนมีประมาณกว่า 3,000 คน
อย่างไรก็ตามด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สำนักงานขนส่งจังหวัด และหน่วยงานความมั่นคง ได้มีการตั้งด่านคอยดูแลความปลอดภัยตรวจสอบกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างใกล้ชิด
2 มาตรฐาน เสื้อแดงโดนสกัดกลางลำ
ขณะที่นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำนปช. และประธานสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ เอฟเอ็ม92.75 เมกะเฮริตซ์ กล่าวว่าขณะนี้ กลุ่มคนเสื้อแแดง จากต่างจังหวัดทยอยเดินทางมาที่ท้องสนามหลวงแล้ว แต่ได้รับรายงานว่าบางพื้นที่เจ้าหน้าที่พยามสกัดกั้นการเดินทาง เช่น ที่จังหวัดสมุทรปราการ รถบัส ไม่กล้ารับงาน บางพื้นที่มีการโปรยตะปูเรือใบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผู้มาชุมนุมไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน ซึ่งแกนนำประกาศห้ามพกพาอาวุธ รวมถึงการขว้างปาไข่ด้วย ส่วนการจะเคลื่อนไปปิดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น นายชินวัฒน์ กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ก่อน และหากไปจริง คนเสื้อเแดงก็จะไม่บุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เหมือนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยทำอย่างแน่นอน
'เทือกเทพ'ยอมไม่ขอท้าทายเสื้อแดง
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่ของม็อบเสื้อแดงในวันนี้ว่า ตนได้ทำการประเมินไว้แล้วว่า คงมีจำนวนผู้ชุมนุมถึงหลักหมื่นคน ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากใครทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดี ส่วนกำลังพลที่อาจมีไม่เพียงพอนั้น ขณะนี้ได้ทำการประสานขอกำลังทหารเพื่อเข้ามาช่วยเหลือได้ทันที อย่างไรก็ตามรองนายกรัฐมนตรีตนคงไม่ขอคาดการณ์ว่าเหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ เพราะไม่อยากไปท้าทายกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ขอให้การชุมนุมอยู่ภายใต้กฎหมาย
มท.ภ.1 ย้ำทหารจะอยู่ในที่ตั้ง
ด้านพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า กำลังตำรวจจะทำหน้าที่หลักดูแลสถานการณ์ หากเหตุการณ์ไม่รุนแรง ทหารก็จะอยู่ในที่ตั้งตามปกติ โดยจะใช้แผนอาร์มทองที่เคยใช้ในการดูแลความสงบเรียบร้อย แต่หากตำรวจประสานมาก็พร้อมให้การสนับสนุนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
ลงทุนสันติบาลเพิ่มกลองวงจรปิด-ไฟรอบทำเนียบ
ในส่วนของการเตรียมการรักษาความปลอดภัยนั้น ด้านพล.ต.ท.ธีรเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า ได้เพิ่มกล้องวงจรปิดโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ในการตรวจสอบความเคลื่อนไหว ประเมินด้านการข่าว การชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่จะเคลื่อนขบวนมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเย็นวันนี้ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมรถไฟฟ้าส่องสว่าง หากการชุมนุมยืดเยื้อและผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนพล ก็ง่ายในการตรวจสอบ หากเกิดเหตุไม่ปกติขึ้น พล.ต.ท. กล่าวอีกว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมทบการชุมนุม ซึ่งตำรวจสันติบาลประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมในช่วงเย็นวันนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน
พร้อมกันนี้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำในที่ประชุมร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 วานนี้ โดยยืนยันว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเด็ดขาด เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่สามที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น
บก.น.1 เรียกรวมพลเที่ยงนี้-ตร.ถกเครียด4โมงเย็น
ด้านพล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวถึงการเตรียมกำลังตำรวจในการดูแลความเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุม โดยระบุว่าในช่วงนี้จะใช้กำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ 2 รวม 2 กองร้อย เพื่อดูแลความเรียบร้อยในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจะนัดรวมพลกำลังตำรวจและรายงานตัวในช่วงเที่ยงนี้
ส่วนการตั้งจุดสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมใน 4 จุด เพื่อเจรจาไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล จะมี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คอยเจรจาอยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ส่วนอำนาจการตัดสินใจว่าจะให้กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ผ่านในแต่ละจุดสกัดจะอยู่ที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ จะเป็นผู้สั่งการ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเวลา 16.00 น.วันนี้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้าร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย
ผสานขอกำลังกองทัพ-วางแผงเหล็ก4รอบทิศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ได้ทำหนังสือขอกำลังจากกองทัพ ให้เข้าเสริมดูแลสถานการณ์ โดย พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพจะยึดแนวเดิม ในการดูแลการชุมนุม และจะจัดกำลังตามสถานการณ์ โดยมีการเตรียมกำลังไว้ในที่ตั้ง และกำลังสำรองหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
เบื้องต้นกองบัญชาการตำรวจนครบาลใช้แผนกรกฎในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ ขณะที่ด้านนอกทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดเตรียมกำลัง และแผงเหล็กรั้วกั้นไว้พร้อมเพื่อตั้งเป็นจุดสกัด ไม่ให้ผู้ชุมนุมเดินทางมา เบื้องต้นกำหนดจุดสกัดไว้ 4 จุดคือ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้าลีลาศ แยก จปร.และสะพานมัฆวานรังสรรค์
'เดอะตู่'ย้ำชัดไร้'แม้ว'โฟนอิน
บรรยากาศในการชุมนุมที่ ท้องสนามหลวงในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนบางส่วนพร้อมใจกันสมเสื้อแดงทยอยเดินทางมายังจุดนัดพบท้องสนามหลวงอย่างคับคังแม้สภาพอากาศจะร้อนจัด อีกทั้งด้านเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการเตรียมเวทีปราศรัยกัน พร้อมกับตรวจสอบความ พร้อมของระเสียง ส่วนแกนนำนปช.ทั้งหมดนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายวีระ มุกสิกพงษ์ นาจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข จะเดินทางมาที่ท้องสนามหลวงในเวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
กำหนดการต่อจากนั้นจะเป็นการแสดงดนตรีบนเวทีตามปกติก่อนที่จะมีการเปิดเวทีปราศรัยอย่างเต็มรูปแบบในเวลาประมาณ 16 .00 น. จากนั้นจะส่งสัญญาณการเดินขบวนจากสนามหลวงไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 21.00 น. โดยจะใช้เส้นทางถนนราชดำเนิน เพื่อเรียกร้องรัฐบาล 3 ประการคือ1. เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ 2. เรียกร้องให้รัฐบาลปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสุดท้ายเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา
อย่างไรก็ตามนายจตุพร หนึ่งในแกนนำกล่าวย้ำว่าในการชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้จะไม่มีการต่อสายโทรศัพท์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน และจะใช้ยุทธวิธีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยเพื่อขอให้เปิดทางเพื่อเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล และจะไม่บุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล
'กรณ์' เมิน นปช.บุกยึดทำเนียบ
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่ประกาศจะเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ว่า ตนเองไม่รู้สึกกังวลต่อเรื่องดังกล่าว เพราะการแสดงออกถึงความคิดเห็นที่แตกต่างสามารถกระทำได้ เนื่องจากจะเป็นเสียงสะท้อนถึงความเข้มแข็งของประเทศ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้บริหารประเทศก่อน และขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งด้านภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคนในประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายใช้เหตุและผล เปิดใจให้กว้างต่อการรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ
แดงนครพนมถึงสนามหลวงแล้ว
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดง จ.นครพนม เดินทางไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงแล้ว แต่จำนวนมีไม่ถึง 100 คน โดยแกนนำ โดยได้รับคำตอบว่าที่ไม่สามารถเดินทางมาได้มากมายนั้น เนื่องจากระยะทางที่ไกลและค่าใช้จ่ายในการไปชุมนุมแต่ละครั้ง มีจำนวนมากประกอบกับกลุ่มเสื้อแดงบางส่วน จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ แต่เชื่อมั่นว่าจะติดตามการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก
ผู้ว่าฯกทม.ย้ำไม่แยกสีม็อบ
ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดกรุงเทพมหานคร บัญชาการเหตุการณ์การชุมนุม และมีนโยบายว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมร้องขอรถสุขา ก็จะจัดให้อย่างเพียงพอ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นม็อบสีอะไร อีกทั้งยังได้ตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่มีการรายงานว่ามีการทำลายกล้องวงจรปิดหลายจุดของกรุงเทพมหานครเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุมก็ได้