WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 29, 2009

บทเรียน กัมพูชา คำพูด กับ การลงมือทำ รัฐบาล "อภิสิทธิ์"

ที่มา ข่าวสด

หักทองขวาง


หากฟังจากปากของ นายกษิต ภิรมย์ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาก็ราบรื่นเหมือนกับยืนอยู่บนยอดเขา

เพราะ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ก็รับปาก

เพราะ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็รับปาก

การเดินทางไปเยือนกัมพูชาของ นายกษิต ภิรมย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

งดงามเหมือนกับการบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคม 2551

งดงามเหมือนกับการบุกเข้ายึดสนามบินดอนเมืองแล้วรุกคืบไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551

เป็นความงดงามบนพื้นฐานแห่ง อาหารอร่อย ดนตรีเพราะ

กระนั้น หากพิจารณาจากการเดินทางเข้ายื่นหนังสือของเครือข่ายประชาชนชาวไทยต่อนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2552 เน้นประเด็นลงไปยังสถานะของปราสาทพระวิหารอันเป็นมรดก

ก็ไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าจะสามารถประเมินความสำเร็จในการไปเยือนกัมพูชาของ นายกษิต ภิรมย์ ว่าเป็นอย่างไร



น่าสนใจก็ตรงที่ข้อเสนอซึ่งเครือข่ายประชาชนชาวไทยยื่นต่อนายกรัฐมนตรี

(1) อย่าขึ้นทะเบียนร่วมกับกัมพูชาไม่ว่ากรณีใดๆ หากการปักหลักเขตแดนของ 2 ประเทศบริเวณปราสาทพระวิหารยังไม่แล้วเสร็จ

(2) ห้ามหน่วยราชการใดๆ ให้ความร่วมมือ หรือจัดหาเอกสารแผนบริหารจัดการบริหารปราสาทพระวิหารเพื่อส่งมอบให้กัมพูชา คือ

2.1 เขตอนุรักษ์ (Buffer Zone)

2.2 แผนพัฒนา (Development Zone)

2.3 แผนบริหารจัดการ (Management Plan) ตามมติคณะกรรมการมรดกโลก

(3) ขอให้หลีกเลี่ยงการเจรจาใดๆ ที่เข้าข่ายตามข้อ (2)

(4) ให้ปลด นายปองพล อดิเรกสาร คณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย ออกจากตำแหน่ง

(5) เสนอคณะกรรมการมรดกโลกสากลผ่านองค์กรยูเนสโกเพื่อพิจารณาระงับและเพิกถอนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

น่าสนใจก็ตรงกับที่พรรคประชาธิปัตย์และ นายกษิต ภิรมย์ ก็เคยตั้งประเด็นเอาไว้



ถึงอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ และ นายกษิต ภิรมย์ ก็มิอาจหลีกพ้นไปจากสิ่งที่ตนเคยกระทำเคยเคลื่อนไหวในกาลอดีต

ไม่ว่าจะเป็นอดีตซึ่งพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในฐานะฝ่ายค้าน

ไม่ว่าจะเป็นอดีตซึ่ง นายกษิต ภิรมย์ เคยขึ้นปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

หรือที่ นายกษิต ภิรมย์ เคยเสนอความเห็นผ่านสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์

เป็นอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์และ นายกษิต ภิรมย์ เห็นตรงกันว่า ปราสาทพระวิหาร เป็นของไทย

บรรยากาศที่ปรากฏเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 เป็นบรรยากาศแห่งแนวคิดชาตินิยม เป็นบรรยากาศอย่างเดียวกับที่ปรากฏผ่านคำปราศรัยและแถลงการณ์ของรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

เลือดรักชาติระอุร้อน แสดงความพร้อมกระทั่งจะทวงคืนเอาปราสาทพระวิหารคืนมาจากกัมพูชา

ตรงนี้เองที่เครือข่ายประชาชนสำแดงออกอย่างสอดรับกับความรู้สึกในอดีต

อดีตแห่งความร้อนแรงไม่ว่าของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าของ นายกษิต ภิรมย์ เช่นนี้อย่าคิดว่าจะจางหายไปจากความรู้สึกของคนไทย และความรู้สึกของกัมพูชา



อย่าลืมเป็นอันขาดของเอกภาพระหว่างคำพูดกับการกระทำ เพราะหากลืมก็เท่ากับพล่อยพูด

เมื่อเป็นฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์เคยพูดอย่างไร เมื่อปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายกษิต ภิรมย์ แสดงอารมณ์และความต้องการทางการเมืองเยี่ยงไร

เมื่อท่านพูด ประชาชนจะฟัง เมื่อท่านลงมือทำตามที่พูด ประชาชนจะเชื่อถือ