ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : ละครชีวิต
โดย ลวดหนาม
เมื่อหลายวันก่อน อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการ และอดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของนายกษิต ภิรมย์
อ.ชาญวิทย์ กล่าวในงานเสวนา "ความสัมพันธ์ไทย/สยาม-กัมพูชา : ปัญหาปราสาทเขาพระวิหารกับการทูตไทย" ว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่า นายกษิต ภิรมย์ จะทำให้เกิดปัญหาตามมา เพราะเข้ามาโดยมีวาระทางการเมืองซ่อนเร้น
การที่นายกษิตออกมาพูดถึงกรณีปราสาทเขาพระวิหารก่อนหน้านี้ เป็นการหวังผลทางการเมืองที่ต้องการเอาชนะระบอบทักษิณ แต่ผลที่ได้คือก่อให้เกิดความร้าวฉานทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ
วันนั้นมีผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกษิตเปลี่ยนท่าทีประนีประนอม และหันมาสร้างความสัมพันธ์ขึ้นใหม่จะทำให้สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาดีขึ้นหรือไม่ อ.ชาญวิทย์ ตอบว่า เป็นไปได้ยาก เพราะอีกฝ่ายก็คงไม่เล่นด้วย
การที่นายอภิสิทธิ์เลือกนายกษิตเป็นรัฐมนตรีในครั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด และเชื่อว่าน่าจะมีเรื่องของโควตาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ามาเกี่ยวข้อง จากนี้ไปรัฐบาลอาจเลือกที่จะใช้วิธีนิ่งเฉย เพื่อให้กระแสต่อต้านดังกล่าวค่อยๆ หายไปจากความคิดของคนในสังคม
นอกจากเรื่องปราสาทเขาพระวิหารแล้ว นายกษิตยังมีเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่อง เช่น การจัดการประชุมอาเซียนซัมมิต
นายกษิตจะโดนฝ่ายค้านโจมตีในการประชุมรัฐสภาพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน ระหว่างวันที่ 26-27 มกราคมนี้
กรอบการอภิปรายมี 3 ประเด็น คือ
1.ความเป็นมาของข้อตกลงอาเซียนที่ประเทศอื่นเขาเห็นชอบหมดแล้ว เหลือแต่ประเทศไทยที่ต้องนำเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
2. การจัดประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานอาเซียน และมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นเลขาธิการอาเซียนด้วย ถือเป็นหน้าตาของประเทศไทย และ
3.สาระในข้อตกลงและสัญญารวม 43 ฉบับ ถ้ามีการประกาศใช้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยมาก
งานใหญ่ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนั้น ต้องถือว่า “เปาะบางมาก” เพราะรัฐบาลจะถูกมองว่าไม่มีความชอบธรรมในการเข้ามารับตำแหน่งเพราะไม่ได้รับความเห็นชอบจากคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ
ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตสิงคโปร์ สถานทูตพม่าและในวันที่ 26 มกราคม กลุ่มคนเสื้อแดง จะเดินทางไปสถานทูตฟิลิปปินส์และบรูไน
ทั้งนี้เพื่อคัดค้านการจัดการประชุมอาเซียนซัมมิต และการเป็น รมว.ต่างประเทศ ของ นายกษิต ภิรมย์
ดังนั้น รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะมีเวลาเหลือไม่มากนัก!