ที่มา ประชาทรรศน์
'ณัฐวุฒิ-จตุพร' ปรอทแตก!! ด่าสีกากีถ่อยยิงปืนขู่คนเสื้อแดงเชียงใหม่ ปูด!! มีไอ้โม่งสั่งการอยู่เบื้องหลัง จี้ ‘เทพเทือก’ แจงเหตุ อ้างมีสิทธิขับไล่-ไม่ละเมิดกฎหมาย ด้าน ผบก.ภ.5 ยัน จนท.มีเหตุผล ชี้ไร้เจตนาทำร้าย-ข่มขู่ผู้ชุมนุม ขณะที่ ‘มาร์ค’ จี้คุมเข้มม็อบเสื้อแดง หวั่นเหตุบานปลาย
จากกรณีที่ม็อบเสื้อแดงเชียงใหม่ รวมตัวกันไปปิดล้อมประตูทางเข้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะที่เดินทางมาร่วมงาน'ราตรีอ่างแก้ว' เนื่องในวันสถาปนาครบ 45 ปีเมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) จนทำให้สถานการณ์เกิดความตึงเครียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังอารักขา ขณะเดียวกันได้มีรถเก๋งออดี้ดำฝ่าด่านแผงเหล็กกั้น เจ้าหน้าที่จึงยิงยางรถแตก เพื่อสกัดกันวุ่นวายนั้น
วันนี้ (25 ม.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้แถลงเรียกร้องให้นายสุเทพ ออกชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน เนื่องจากเชื่อว่าต้องมีผู้ใหญ่ เป็นผู้สั่งการ ส่วนการขับไล่ รองนายกรัฐมนตรี เทพ ของคนเสื้อแดงนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่ามีสิทธิ์ทำได้ เพราะไม่ละเมิดกฎหมาย
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า คนเสื้อแดงได้ประกาศชัดเจนว่าไม่ยอมรับรัฐบาลชุดปัจจุบันตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้นกรณีที่นายสุเทพ เดินทางเข้าไปในพื้นที่ภาคเหนือ ก็เป็นเรื่องปกติที่ชาวบ้านจะแสดงความไม่ต้อนรับ
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ยิงปืนใส่ล้อรถของคนเสื้อแดงนั้น รัฐบาลจะต้องใช้มาตรฐานการสอบสวนเดียวกับเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 เพราะเหตุการณ์วันนั้น ตำรวจแค่ตั้งประทับปืนแต่ยังไม่ได้ยิง จนมีการตั้งข้อหาและเผยแพร่ว่า ตำรวจฆ่าประชาชน ดังนั้นการใช้อาวุธปืนและกระสุนจริงของกรณีนี้ จึงมีคำถามตามมาว่า คำสั่งที่ศาลปกครองที่มีมาตรการให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนั้นได้นำมาใช้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทบทวน ว่าได้รับคำสั่งจากใครหรือไม่
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ขณะที่เป็นฝ่ายค้านยังมีการต่อสู้เพื่อเหตุการณ์ที่เป็นลักษณะเช่นนี้ เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องออกมารับผิดชอบในกรณีดังกล่าวด้วย หากไม่ทบทวนก็จะมีกรณีตัวอย่างให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเรื่องนี้คนที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคือนายสุเทพ ว่าได้สั่งการอะไรไป หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สั่งการเอง ซึ่งคนดังกล่าวเป็นใคร มีการสอบสวนหรือไม่ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องออกมาชี้แจงกับประชาชน
ผบก.ภ.5 ยันจนท.ไร้เจตนาทำร้าย-ข่มขู่ผู้ชุมนุม
ด้านพล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาร 5 ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ยืนยันเจ้าหน้าที่ที่คุมม็อบคนเสื้อแดงเมื่อวานนี้ไม่มีการพกพาอาวุธ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวได้ฝ่าด่านตำรวจมา 2 ด่าน เพื่อพุ่งตรงไปยังจุดที่ตำรวจนำแผงเหล็กปิดกั้นถนน จนทำให้ตำรวจตัดสินใจชักอาวุธปืนยิงเข้าที่ล้อหลังด้านซ้ายจนยางแตกและหยุด ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นเห็นว่า ตำรวจคงมีเหตุผลเพียงแค่ต้องการหยุดรถคันดังกล่าวเท่านั้น และมั่นใจคงไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือข่มขู่ผู้ชุมนุมแต่อย่างใด และขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบหาสาเหตุแล้วคาดภายใน 3-5 วันจะรู้ผล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหน้าที่เลือกปฎิบัติหรือไม่ เนื่องจากตอนที่กลุ่มพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เคลื่อนไหวบุกปิดล้อมสถานที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ใช้เพียงแต่โล่ในคุมม็อบเท่านั้น แต่เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกลับยิงปืนข่มขู่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาร 5 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกัน ยืนยันไม่ได้เลือกปฎิบัติ ซึ่งไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงหากชุมนุมตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็จะไม่ใช้ความรุนแรง พร้อมเปิดทางให้ชุมนุม ส่วนกรณีที่ว่ามีการยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อสลายการชุมนุมนั้น พล.ต.ท.สถาพร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ตนยังไม่ได้รับรายงาน
นอกจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาร 5 กล่าวอีกด้วยว่า ตนอยากให้ประชาชนและสื่อมวลชน เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากทุกวันนี้ไม่ว่าตำรวจจะปฎิบัติหน้าที่ในทางใด ก็จะมีการถูกตำหนิและโจมตีอยู่ตลอดเวลา
'มาร์ค'ร้องเสื้อแดงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกม.
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ว่า หากเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยก็สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ดูแลไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพความเห็นและการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีแนวทางไม่ตรงกับตนเองด้วย ซึ่งวิธีการที่รัฐบาลจะใช้แก้ปัญหาคือการพูดคุยกับประชาชนด้วยข้อเท็จจริงและในขณะนี้ถือว่ารัฐบาลได้ดำเนินการคืบหน้ามาตามลำดับ