ที่มา thaifreenews
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
หนึ่งคำถามกับหนึ่งคำตอบ ที่คนไทยหลายๆ คนมักถามว่า "ทำไมคุณถึงรักทักษิณ"
น้องอุ๋งอิ๋ง น้องเอม น้องโอ๊ค เรียกทักษิณ ชินวัตรว่า "พ่อ"
แต่คนไทยอีกหลายล้านคนเรียกทักษิณว่า "นายก" แถมให้นายกทักษิณ
เป็นนายกในดวง ซะด้วย
กับคำถามที่ว่า "ทำไมคุณถึงรักทักษิณ"
โดย UDD เกียกกาย6669
"ทักษิณ "เป็นเพียงประกายไฟ ที่ส่องสว่างให้ชนชั้นรากหญ้าได้มองเห็นว่า
" ความเท่าเทียม" นั้นเป็นอย่างไร ? ที่ผ่านมาเกือบจะร้อยปี
ชนชั้นรากหญ้าก็ยังหล้าหลังถูกจัดไว้เป็นกลุ่มคน"ที่ต้องรอรับการช่วยเหลือ"
สังคมชนชั้นดูถูกว่าเป็น "ภาระสังคม"
ฝนแล้งก็ต้องร้องขอ หนาวไปก็ต้องร้องขอ พืชผลไม่ได้ราคาก็ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอนไปทำมาหากินต่างถิ่น ทอดทิ้งครอบครัวไว้กับพ่อแก่แม่เฒ่าที่เฝ้ารอคอยอยู่ "บ้านนอก" ลูกหลานได้เรียนหนังสือบ้าง ไม่ได้เรียนหนังสือบ้าง
การอบรมสั่งสอนบุตรหลาน ขาดตกบกพร่องเพราะพ่อแม่ต้องทำมาหากินสายตัวแทบขาดอดมื้อกินมื้อ
ผลที่มองเห็นและสัมผัสได้ ในช่วงเกือบร้อยปีที่ผ่านมา คือ
คนกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้มีโอกาสและแย่งชิงฉกฉวยโอกาสเอาเปรียบเสมอ เช่น
กลุ่มอำมาตย์ กลุ่มที่เป็นใหญ่เป็นโตในวงราชการ กลุ่มพ่อค้านายทุน ฯลฯ
ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งด้อยโอกาสตลอดกาล เพราะเส้นสายไม่มีการส่งเสริมการเรียนการศึกษาน้อย ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย ให้การช่วยเหลือกันเป็นรายปี
(การช่วยเหลือกันเป็นเป็นรายปีแต่ละครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่ดี ดีแต่ไม่ยั่งยืน)
ไม่ได้สอนให้คนคิดเป็นไม่ให้โอกาสชนชั้นรากหญ้าเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตนเอง
วางแผนชีวิต ไม่กระตุ้นให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นมนูษย์ที่เท่าเทียมกันในสังคม "ทักษิณ" เป็นคนแรกที่บอกว่าคนจนก็มีสิทธิ์ เช่น
เดินเข้าโรงพยาบาล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีค่าหมอค่ายา
ด้วยการให้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ในปัจจุบันพัฒนาขึ้นคนรอดตายก็เพราะบัตรทอง 30 บาทก็มากมาย ลูกหลานคนไม่มีเงินสามารถเดินทางไปเรียนเมืองกรุงจนถึงเมืองนอกได้ด้วยสารพัดโครงการสำหรับเด็กวัยเรียน
พ่อแม่ไม่ต้องเดินทางจากบ้าน ไปทำมาหากินที่อื่น เพราะมีโครงการส่งเสริมอาชีพให้ สามารถเข้าถึงทุนทำมาหากินได้ผ่านสถาบันการเงินของรัฐที่ทุ่มลงไปให้ เช่นกองทุนหมู่บ้านฯลฯ นี่คือตัวอย่างความภาคภูมิใจ ที่เราก็สามารถทำงานทำเงินได้เอง ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากกองคาราวานของรัฐ ที่จะมาเมื่อถึงวาระต่างๆ เช่น
เมื่อแล้ง เมื่อหนาว เมื่อหิว "หลุดพ้นจากการกลุ่มที่เป็นภาระของสังคม" นี่คือตัวอย่างส่วนน้อยที่พอนึกได้ และนี่เป็นเหตุให้ชนชั้นรากหญ้า รักและเทอดทูนทักษิณ
จนเกิดความระส่ำระสายในหมู่ชนชั้นอีกชั้นหนึ่งการทำลายล้างทักษิณจึงเกิดขึ้น
แต่การที่จะลบล้างความรักความศัทธาที่เขา(และเรา)มีต่อ "ทักษิณ" ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะนี่คือความรู้สึกที่รับรู้ได้ด้วยหัวใจ
"ของชนชั้นที่ถูกมองอย่างดูหมิ่นมาตลอด" เขามีการรับรู้อย่างทั่วถึง ด้วยสารพัดสื่อที่ท่านทักษิณมอบให้คือ "ติดอาวุธทางปัญญาให้ สอนให้คิดเป็น ปากท้องอิ่ม
ลูกหลานมีความเจริญมองเห็นอนาคตไม่มีใครทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนอีกต่อไป"
ครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ยากนะที่จะทำลายความรู้สึกดีๆเหล่านี้ที่พวกเรามีต่อท่านทักษิณให้หมดสิ้นไปจากใจคนรากหญ้าในเร็ววันนอกจาก "ฆ่าเราให้ตาย"
แต่ท่านฆ่าเราหนึ่งเราจะเกิดอีกแสน ทุกอย่างนี้ ท่านเข้าใจหรือไม่ว่าเกิดอะไรขั้นกับชนชั้นไพร่อย่างเรา เราคิดได้แล้วว่า ความเท่าเทียมกันคืออะไร?
ความภาคภูมิใจของความเป็นมนูษย์คืออะไร? "ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้เราจะได้มาด้วยความเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น "ระบบมิใช่คนที่จุดประกายความคิดนี้ให้แก่เรา และไม่เกี่ยวกับว่าท่านทักษิณจะมีเงินหรือไม่มี เพราะเราไม่ได้ใช้เงินของเขา เรามาชุมนุมมีแต่เสียเงินเอง แต่เรายินดี เพราะหัวใจมันเรียกร้องความเป็นธรรม ความยุติธรรม ความเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
"สิ่งที่เราได้จากท่านทักษิณ" คือ ความคิดอย่างที่กล่าวมานี้ต่างหาก ยากนะที่จะลืมชายคนนี้ที่ชื่อ"ทักษิณ ชินวัตร" ที่เราเรียกได้เต็มปากว่านายกในดวง
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่