ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ คอลัมน์ที่13
ข่าวการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงยังดำเนินต่อเนื่อง
ถึงขนาดที่พรรคประชาธิปัตย์ผู้รับผิดชอบโดยตรงต้องจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงตามความต้องการของประชาชน และคุณภาพของสินค้าที่ไม่สมราคา
เช่น เครื่องผลิตปุ๋ยชีวภาพ ตู้น้ำหยอดเหรียญ เสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์
ที่มีข่าวว่ามีนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเข้า ไปเกี่ยวข้อง
โครงการชุมชนพอเพียงอยู่ในการดูแลของสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เกิดขึ้นตามมติให้จัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 และให้ดำเนินการในรูปแบบของ "โครง การเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน"
มีวัตถุประสงค์คือ
1.จัดสรรงบประมาณโดยตรงไปยังชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกชุมชนได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งงบประมาณอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
2.สนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนร่วมกันบริหารจัดการและพัฒนาศักยภาพของตนเอง
3.สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดต้นทุนและปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
4.พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติระดับชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และสร้างโอกาสในการพัฒนาหรือเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจในระดับฐานราก
ชุมชนที่ประสงค์จะขอรับการจัดสรรงบประมาณตามโครง การ จะต้องเป็นชุมชนตามประกาศครั้งล่าสุดของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2550 รวม 79,427 ชุมชน
โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกโครงการคือ
การดำเนินโครงการต้องมีความยั่งยืน มีผลต่อเนื่อง และมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
1.เป็นโครงการที่รองรับผู้ด้อยโอกาสและผู้ว่างงาน ให้สามารถพัฒนาไปสู่ความพอกิน พออยู่ พอใช้ ตามเป้าหมายขั้นต้นของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2.เป็นโครงการที่สนับสนุนและส่งเสริมการลดต้นทุนและปัจจัยในการผลิตด้านต่างๆ เช่น การเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำมาหาเลี้ยงชีพ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาสในอาชีพ
3.เป็นโครงการที่สนับสนุนและส่งเสริมการใช้และการอนุรักษ์พลังงาน หรือพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือก
4.เป็นโครงการที่สนับสนุนและส่งเสริมการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว
และจะต้องได้รับฉันทามติจากที่ประชุมประชาคมของชุมชน และกำหนดกรอบเงินงบประมาณที่จะใช้เพื่อดำเนินการอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณยึดหลักความเป็นจริงตามจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎรของชุมชน ตามประกาศกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยชุมชนที่จะได้รับเงินโครงการแบ่งออกเป็น 7 ขนาด คือ
ประชากร 1-50 คน ได้รับเงินจำนวน 100,000 บาท
ประชากร 51-150 คน ได้รับเงินจำนวน 200,000 บาท
ประชากร 151-250 คน ได้รับเงินจำนวน 300,000 บาท
ประชากร 251-500 คน ได้รับเงินจำนวน 400,000 บาท
ประชากร 500-1,000 คน ได้รับเงินจำนวน 500,000 บาท
ประชากร 1,001-1,500 คน ได้รับเงินจำนวน 600,000 บาท
และประชากร 1,501 ขึ้นไป ได้รับเงินจำนวน 700,000 บาท
ยกเว้น ชุมชนที่ไม่ได้รับงบประมาณโครงการ SML ปี 2551 จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณเต็มจำนวน
และชุมชนที่ได้รับงบประมาณโครงการ SML ปี 2551 แล้ว จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณกึ่งหนึ่งของเกณฑ์ข้างต้น