ที่มา ไทยรัฐ
คนพวกที่ชอบนินทาว่าร้ายอะไรๆไปเรื่อย ไม่ว่าเรื่องที่นินทาจะมีเหตุผลหรือไม่ สมัยรัชกาลที่ 4 ทรงรำคาญ ทรงเรียกคนพวกนี้ว่า...พันธุ์ปากพล่อยครับ
สมัยนี้คำว่าพันธุ์หายไป แต่ปากพล่อยยังใช้กันอยู่
ในหนังสือภาษาไทยวันละคำ ฉบับรวมเล่ม อาจารย์
กาญจนา นาคสกุล อธิบายสำนวนที่เกี่ยวกับปากเอาไว้หลายคำด้วยกัน
ปากหอยปากปู แต่เดิมมีความหมายว่า ไม่พูดไม่จา หรือ จำต้องนิ่งเฉย ไม่กล้าพูดอะไร เปรียบเหมือนปากหอยปากปูซึ่งหุบนิ่งอยู่
ปัจจุบันใช้ "ปากหอยปากปู" ในความหมาย...ชอบพูดซุบซิบนินทาผู้อื่น
(คนพวกที่มักถูกบอกว่าเป็นพวกปากหอยปากปู ก็น่าจะเป็นพวกสื่อหนังสือพิมพ์นี่แหละครับ)
แต่ถ้าพวกสื่อจะพูดเองบ้าง ก็คงต้องใช้ว่า "ปากเป็นชัก-ยนต์" มีความหมายว่า พูดไม่หยุด เปรียบเทียบลักษณะของปากในขณะที่พูดเหมือนการเชิดหุ่น แปลความได้ว่า พูดจาว่ากล่าวสั่งสอนไม่รู้จบ
"เช่นเรื่องคอรัปชัน ก็พูดกันอยู่นั่นแหละ แต่ไม่ว่าโครงการไหน รัฐบาลไหน ก็ต้องมีเรื่องให้ใช้ปากเป็นชักยนต์ทุกที"
เมื่อฟังท่านผู้นำ หรือท่านผู้ตามแถลงผลงานยืดยาว... บางเรื่องทำให้นึกถึงสำนวนปากว่าตาขยิบ ปากท่านก็ว่า
เรื่องใดที่มีปัญหาประชาชนตั้งข้อสงสัย อย่างเรื่องรถเมล์ 4 พันคัน ก็ต้องทบทวนกันก่อน
แต่บังเอิญเรื่องนั้นเป็นเรื่องของพรรคร่วม พอมาเป็นเรื่องของรัฐบาลทำเอง อย่างเรื่องชุมชนพอเพียง สุ้มเสียงที่ทักเข้ามา
ทำให้นึกถึงคำว่า ปากว่าตาขยิบ ที่หมายความว่า พูดอย่างหนึ่ง แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง
ความจริง สำนวนที่เหมาะกับเรื่องนี้น่าจะใช้ว่าแต่ เขาอิเหนาเป็นเอง
อีกสำนวน ปากหวานก้นเปรี้ยว อาจารย์กาญจนาบอกว่า สำนวนเก่าใช้ว่า หัวหวานก้นเปรี้ยว เปรียบกับมะม่วงซึ่งส่วนหัวมีรสหวาน แต่ก้นจะเปรี้ยว
บางคนเปรียบกับการหมักน้ำตาลในกระบอกไม้ไผ่ ส่วนที่อยู่ปากจะมีรสหวาน
ส่วนที่อยู่ก้นจะออกเปรี้ยว
สมัยนี้ ความหมายของสำนวนปากหวานก้นเปรี้ยวเปลี่ยนไปเป็นพูดจาอ่อนหวานแต่ไม่มีความจริงใจ
สำนวนที่รุนแรงที่สุดก็คือ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ
เวลาพูดก็พูดแสดงความปรารถนาดี ทำให้ผู้ฟังตายใจหลงเชื่อว่าจริง แต่ภายในใจนั้นมุ่งร้าย หรือมุ่งทำลาย
มีประโยคตัวอย่าง "คนที่ปากร้ายใจดีไม่น่ากลัวหรอก แต่พวกปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอนี่ซิน่ากลัวที่สุด"
ผมไม่ค่อยแน่ใจสำนวนนี้จะใช้กับผู้นำรัฐบาลที่ปากหวาน จนชาวบ้านเผลอก็ล้วงกระเป๋าขึ้นภาษีน้ำมันลิตรหนึ่ง ล้วงเอาไปตั้งเกือบ 13 บาท...ได้หรือเปล่า?
โถ! พอถูกทักก็ออกตัวว่าจะลดให้ลิตรละ 2 บาท ลดแล้วยังทวงบุญคุณ แถมส่วนที่แอบล้วงเอาไปเป็นแรมเดือนแรมปีไม่มีพูดถึงซักคำ.
กิเลน ประลองเชิง