ที่มา บางกอกทูเดย์
คนไทยจำนวนไม่น้อยคงไม่รู้จักคำว่า “อีแพลม”แต่คนที่เป็นเซียนหมากรุกต้องรู้จักคำๆ นี้ ถ้าตอบว่าอีแพลม คือ ตัวหมากรุกไทยตัวหนึ่ง คนที่เล่นหมากรุกเป็นใหม่ๆ อาจจะเถียงว่าไม่มี อีแพลมเป็นตัวหมากรุกแน่นอน เพราะตัวหมากรุกไทยนั้นมีแค่ขุน 1 ตัว ซึ่งมีฤทธิ์มากที่สุด สามารถเดินและกินตัวอื่นได้รอบตัวเรือ 2 ตัว ที่มีฤทธิ์รองลงมา สามารถเดินและกินตัวอื่นในทางยาวและทางขวางได้ไกลม้า 2 ตัว ที่มีฤทธิ์ถัดมา ที่สามารถเดินทางกระโดดไปกินตัวอื่นได้โคน 2 ตัว กินตัวอื่นได้เฉพาะด้านหน้า และทางข้างของด้านหน้าและด้านหลังเม็ด 1 ตัว ที่กินได้เฉพาะทางข้างสุดท้าย คือ เบี้ยที่มีฤทธิ์น้อยที่สุดอีก 8 ตัว ที่เดินหน้า
ได้อย่างเดียวนี่คือการจัดกำลังทัพของหมากรุกไทย แล้วไหนล่ะอีแพลมปกติการเล่นหมากรุกนั้น แพ้ชนะกันที่ขุนถูกรุกแล้วไม่มีทางเดินต่อที่เรียกว่าจน ถ้ารุกโดยเรือก็ถือว่าง่ายเกินไปเพราะวางแผนไม่สลับซับซ้อน เนื่องจากทางเดินของเรือเป็นทางยาวด้านหน้าและด้านข้างปกตินักหมากรุกระดับเซียนเขาจะไม่ใช้
เรือรุกให้จน ถือว่าไม่มีฝีมือ ถ้ารุกโดยม้า โดยโคน โดยเม็ด แล้วจน ถือว่ามีฝีมือระดับเซียนมากขึ้นเป็นลำดับแต่ถ้ารุกโดยอีแพลม ถือว่านักหมากรุกคนนั้นเป็นโคตรเซียนแล้วตัวไหนล่ะ อีแพลม ก็คือเบี้ยนี่เอง แต่จะเป็นอีแพลมขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อเบี้ยตัวนั้นถูกเดินไปถึงตาหงายเบี้ยให้กลายเป็นเม็ดและเป็นตาเดียวกับการรุกขุน จนขุนจนกลางกระดาน ไปไหนไม่รอด เป็นการสอดแพลมเข้ามาทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ สามารถกำจัดขุนที่มีฤทธิ์ที่สุดโดยฝีมือทหารเลวตัวหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นอีแพลมก็คือทหารเลวนั่นเองหมากการเมืองไทยที่เล่นกันมานานหลายปี ใช้เบี้ยใช้เม็ด ใช้โคน ใช้ม้า ใช้เรือ ใช้ขุน ต่อสู้กันเลือดตกยางออกกันมาแล้วหลายยกกำลังเข้มข้นทุกขณะ การต่อสู้ที่ผ่านมาดูเหมือนเรือที่เดินไปสื่อสารระยะไกลจะถูกใช้มากเป็นพิเศษ และขณะนี้ก็ดูเหมือนกำลังถูกใช้เดินถี่ขึ้นๆ ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังไม่มีฝ่ายใดสามารถเดินเบี้ยให้กลายเป็นอีแพลม เข้าตาหงายกลายเป็นเม็ดพิชิตขุนให้จนกลางกระดานได้เสียทีถึงวันนี้มีสัญญาณชัดว่าเบี้ยถูกขยับถี่ขึ้นตามเรือแล้ว เหลือแค่เพียงจะเดินไปเป็นอีแพลมได้แค่ไหนเท่านั้นนับจากวันนี้เป็นต้นไปน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง ■