ที่มา บางกอกทูเดย์
ต้นตอของเหตุแห่งความยุ่งยากทั้งหลายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 2-3 ปีหลังนั้นมาจากอะไร?คำถามนี้นำไปสู่คำตอบที่แตกแยกกันหลายประเด็น หลายความคิดเพราะว่าถ้าเริ่มจากคำตอบว่า...ทั้งหมดเกิดจากการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549ก็ยังจะมีคนโยงกลับไปไม่รู้จบว่าที่ต้องปฏิวัติวันนั้น เนื่องมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้นหรือ?เพราะประชาธิปไตยต้องแลกมาด้วยการปฏิวัตินั้น ถูกต้องแล้วหรือ?ทำไมประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ เขาเปลี่ยนแปลงการปกครองกันด้วยวิธีประชาธิปไตยได้เรื่องนี้ก็กลับกลายเป็นเรื่องวนเวียนไม่รู้จักจบสิ้นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็อ้างกับคนทั้งโลกได้ว่า เขาเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยแล้วถูกปฏิวัติยึดอำนาจ เขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากอำนาจปฏิวัติคนทั้งโลกจะเห็นว่าระหว่างประชาธิปไตยกับการปฏิวัติ มันไม่มีทางเดินร่วมกันได้เลยในโลกปัจจุบันเมื่อประเทศมหาอำนาจทางประชาธิปไตยของโลกอย่างสหรัฐอเมริกายังส่ง “ทูตประชาธิปไตย” ฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ มาหารัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เมืองไทยแล้วบอกว่าการสร้างสมานฉันท์เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยคงอยู่ได้ เกิดจากความสมานฉันท์ของพรรค
ฝ่ายรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ กับพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยนั่นคือการแสดงออกชัดเจนว่าพวกเขาอยากเห็นประชาธิปไตยดำรงคงอยู่ต่อไปอย่างถาวรในประเทศไทยทั้งหมดนี้คือการย้ำว่า...ต้นตอของเหตุแห่งความยุ่งยากทั้งปวงของประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามาจากการปฏิวัติ เมื่อ 19 กันยายน 2549ฉะนั้น การแก้ปัญหาทั้งหลายของบ้านเรา ต้องมองข้ามฝ่ายข้ามสีที่มีมาและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้ต้องมองข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องมองข้ามฝ่ายตรงข้ามทักษิณ และต้องมองข้ามทุกฝ่ายไปให้ได้ถ้าหากทุกคนมองข้ามปัญหาบุคคล แล้วเอาการปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 เป็นตัวตั้ง แล้วร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาโดยการเอาประชาธิปไตยแลกกับเผด็จการจากการปฏิวัติกลับคืนมาให้ได้เมื่อนั้นเราจะหลีกเลี่ยงให้ประเทศพ้นจากวิกฤติที่อาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้นี่ต่างหากคือทางออกที่ควรเลือกและต้องเลือก ■