ที่มา ไทยรัฐ
อย่างนี้มีได้-เสีย
กับคิว "เดิมพันหมดหน้าตัก" ของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคนสนิท ที่ยืนเป็นฉากหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาแฉผ่านเว็บไซต์ "แนวหน้าออนไลน์" พูดกันชัดๆเลยว่า
มีการเร่ขายตำแหน่งในการจัดทำโผโยกย้ายตำรวจระดับนายพัน
"เรื่องโผตำรวจเป็นเรื่องของคนที่เสียผลประโยชน์ และมีคนมาทวงเงินคืนก็แค่นั้นเอง แล้วโยนความผิดมาให้ฝ่ายการเมือง"
และคิวนี้คงไม่ได้จบแค่พูดลอยๆ ปล่อยให้ตีกินแบบวิสัยของนักการเมือง
โดยอาการขึงขังของ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาสำทับหนักแน่น
ได้ร่างหนังสือเพื่อส่งถึงนายศิริโชคอย่างเป็นทางการ ให้นายศิริโชคส่งเอกสารหลักฐานและพยานที่เห็นว่า มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างที่นายศิริโชคได้พูดกับสื่อ เพื่อจะได้นำมาเป็นหลักฐานประกอบการสืบสวนสอบสวน
เราปล่อยให้มีการซื้อขายตำแหน่งกันอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้
เพราะฉะนั้น ถ้านายศิริโชคมีหลักฐานเอกสารต้องส่งให้เรา เราจะได้ดำเนินการ ส่วนที่นายศิริโชคระบุจะส่งเอกสารหลักฐานไปให้คณะกรรมาธิการตำรวจของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการด้วยนั้น ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของนายศิริโชค
เค้นคอกันซึ่งๆหน้า
เอาเป็นว่า จากชนวนของการยื้อยุดฉุดกระชากโผโยกย้ายนายตำรวจ รายการ "แย่งเป่าเค้ก" เคลียร์บิลที่เกมไหลมาถึงจังหวะได้-เสีย
ล้มเดิมพันระหว่างนายกฯอภิสิทธิ์ กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กระทบชิ่งไปถึงเครือข่าย "บิ๊กบราเธอร์" ของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม
ติดพันไปถึงคิว "เกหมดหน้าตัก" วัดกันระหว่าง "เทพเทือก" กับ "วอลเปเปอร์"
ใครเจ๋ง ใครอยู่
และก็เป็นอะไรที่รอลุ้นได้-เสียเหมือนกัน
ล่าสุด "เจ๊สด" นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาตีธง ส่งสัญญาณล่วงหน้า กกต.ได้ฤกษ์ลงมติฟันคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้
โดยเงื่อนปมวัดดวงได้-เสีย
ทางหนึ่ง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เหรัญญิกพรรคในขณะนั้น ยืนยันในการให้ถ้อยคำกับคณะอนุกรรมการฯว่า ไม่มีการรับเงินจำนวนดังกล่าว
แต่จากปากคำของนายประจวบ สังข์ขาว อดีตผู้บริหารบริษัทเมซไซอะฯ พยานปากสำคัญ ได้ยืนยันต่อคณะอนุกรรมการฯว่า เงินที่บริษัทเมซไซอะฯได้จากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ได้โอนให้กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายคนจริง
ข้อเท็จจริงสวนทางอย่างสิ้นเชิง
กกต.จะเชื่อใคร
แต่ก่อนอื่นใด โดยวิสัยของนักเลือกตั้งจมูกไว ยังไงก็ต้องเผื่อทางหนีทีไล่ แว่วๆว่ามีนายหน้าของคนประชาธิปัตย์ไปจดทะเบียนพรรคสำรองอะไหล่ไว้แล้ว
เสียวสันหลังวาบเหมือนกัน
และก็ให้บังเอิญโดยจังหวะได้-เสียของประชาธิปัตย์ที่ไหลมาบรรจบ หลายคิวสุมมาพร้อมๆกัน มันก็เป็นอะไรที่เซียนเลือกตั้งด้วยกัน
พอจับทิศทางลมได้
สังเกตอาการเคลื่อนไหวของบรรดาตัวจริงเสียงจริงพรรคร่วมรัฐบาลที่ต่อสายนัดกันถี่ยิบในช่วงหลังๆ ต่างฝ่ายต่างอ่านสถานการณ์ ถ้าจะเกิดเหตุที่รัฐบาลลากไปไม่ถึงสิ้นปี
น่าจะเป็นแกนนำอย่างประชาธิปัตย์ที่สะดุดล้มเอง
ที่แน่ๆ เริ่มออกตัวกันแต่หัววันแล้ว โดยยุทธศาสตร์ "แตะมือเหยียบตีนสู้" เปิดดีลในหมู่เซียนเลือกตั้งยี่ห้อ "พินิจ จารุสมบัติ-สุวัจน์ ลิปตพัลลภ-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ-ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-เนวิน ชิดชอบ-สมศักดิ์ เทพสุทิน-อนุทิน ชาญวีรกูล"
แพ็กเกมเจาะอีสาน
ล้มกระดานก็ลงสนามได้เลย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน