ที่มา Thai E-News
บันทึกของสมปอง-ในขบวนคนดี ข้าพเจ้าจะเป็นคนดีที่สุด ข้าพเจ้าไม่กล้าสั่งสอนใคร แต่ข้าพเจ้าคือจะเป็น และจะทำ เช่น เมื่อวันวานข้าพเจ้าปฏิวัติ ทำมันได้ถึง 2 กะละมัง (ภาพ:จากภาพยนตร์เรื่อง"ฟ้าใสใจชื่นบาน)
โดย วันลา วันลิไล
3 พฤศจิกายน 2552
ดอน กีโฮเต้ ก็คือ อลองโซ กีฮานา คนแก่คนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเป็นอัศวินผู้อภิบาลความดี และจะต่อสู้กับความชั่วร้าย
ส่วน สมปอง ลูกชายชาวไร่อ้อยคนหนึ่งก็คิดว่า เขาคือทายาทที่จะนำการปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ แน่นอนเขาจะเป็นคนดีที่สุดของบ้านเมืองนี้ . . . . .
15. สมปอง Man of Tanaowasri
15.1 ฟ้าไม่มืดมาก ตะวันเพิ่งจะลับเหลี่ยมเขาไปหยกๆ เหลือแต่แสงสีส้ม ๆแสด ๆ ซีด ๆ ราดอยู่ตามขอบฟ้าต่ำ คนเหน็ดเหนื่อยพอกินอิ่มก็คึกคักขึ้น
เสียงขึ้นกลองตึงตังดังแข่งกับเสียงจั๊กจั่น บางคนเริ่มร้องเพลงรำวง ในครัวสงบ ไฟในเตาค่อย ๆ มอดดับ ยังแต่ความร้อนอุ่น ๆ ของกองขี้เถ้าพอจะช่วยย่างกางเกงที่อาจจะแห้งไม่ทันใส่ในวันรุ่งขึ้น
อากาศยามเย็นน่าครื้นเครงเช่นนี้มีเพียง สมปองคนเดียวเท่านั้นที่ยังล้างชามอยู่ในครัว เขาเติมน้ำลงในกะละมังขี้เถ้าจนเต็ม เอาผ้าขี้ริ้วจากปลายขากางเกงใครก็ไม่รู้ ชุบน้ำปนขี้เถ้าขัดลงบนหม้อและกระทะ ท่าทางทำงานอย่างมีรสชาด
อาการขัดหม้อดูเหมือนกับวาทยากรหน้าวงซิมโฟนี ช่างเรียบไหลต่อเนื่องและมีจังหวะที่พร่างพราย
สมปอง(คงจะเป็นน้องของสมชายอีกที)เป็นคนดีในสายตาของทุก ๆ คน ในขณะที่หลายคนกินอิ่มแล้วไปตีกลอง ร้องเพลง เขาจะเช็ดโต๊ะอาหารอยู่เงียบ ๆ แล้วลงไปล้างชามและหม้อไหอยู่คนเดียว มีพักต้องเป็นเวรพี่เลี้ยง(คนทำครัว) ทุกวันเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าฝนจะตก, แดดจะออก, พายุจะโหม หรือสายน้ำจะคลั่ง
ในวันที่ยืดยาว สมปองทำงานหนักไม่แพ้อดีตชาวไร่ชาวนา ยามกินก็เพียงข้าวปนมันกับผักต้มน้ำเปล่าในเกลือแกง ยามถ่ายก็สามารถนั่งเรียงแถวหน้ากระดานปล่อยลงหลุมพร้อมกันกับคนอื่น
ด้วยหน้าตาคมสันและรูปร่างสมส่วนทะมัดทะแมง เขาจึงเป็นกำลังหลักเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่งานไร่ไปจนถึงเต้นรำและเล่นละคร ในด้านหลัก กล่าวสำหรับสถานการณ์สู้รบตบมือ งานหนักเท่านั้นจึงจะเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้า ผู้ที่เดินตามแนวทางทั่วไปนี้ต้องเรียกร้องตนเองอย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ และสมปองก็เป็นลูกที่ดีเลิศคนหนึ่ง
ฟ้ามืดนานแล้ว หลายคนเข้านอนเก็บความอ่อนเพลียซ่อนเอาไว้ สมปองนั่งอยู่ที่โรงพยาบาลตึกชั้นเดียวหลังคามุงจาก เขาป้ายยาแดงลงบนแผลถลอกขนาดใหญ่บนหัวเข่า รำพึงให้พยาบาลที่คิ้วขมวดย่นฟังว่าแผลสดอันยิ่งใหญ่นี้เกิดจากการฝึกฝนเพื่อที่จะรับช่วงการนำงานปฏิวัติอันมีเกียรติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ กับสถานการณ์ยากลำบากพวกเรามีแต่ต้อง ด้านหนึ่ง อดทน อีกด้าน
หนึ่ง ถนอมรักษาสุขภาพตัวเอง
ว่าแล้วสมปองก็ราดยาแดงทั้งขวดลงบนแผล
15.2 ฟ้ามืดมาก มองไม่เห็นกระทั่งทางเดินทรายขาวที่เคยเรือง ๆ พอแสงไต้ว็อมแวมมาหยุดตรงหน้าโรงพยาบาล ใครคนหนึ่งโยนไก่ตัวหนึ่งลงบนพื้น
“ไก่ใช่ไหม โอ” สมปองถามขึ้น
"ทำไงตาย ?" เขาก้มตัวลงหยิบไก่ขึ้นมาส่องดูกับไฟตะเกียง
ไก่ตัวนั้นคอพับติดกับปีกเนื้อตัวเลอะขี้โคลน เมื่อจับคอหงายขึ้นก็เห็นรอยเชือดเป็นทางยาว แผลลึกเข้าไปบาดหลอดลมขาดออกจากกันมีเลือดติดกรัง สมปองวางไก่ลง จุ๊ปาก 2-3 ที พร้อมกับเอานิ้วชี้ปาดที่คอตัวเอง
“อย่างนี้ไม่ตายจะอยู่ไหวหรือ !” แล้วก็ซี้ดปากอีกที
หลังจากทุกคนกลับไปนอน สมปองย่องกลับที่นอนตนเอง หยิบสมุดบันทึกออกมาเขียนขยุกขยิกแล้วเก็บไว้ใต้หมอนดังเดิม
15.3 ฟ้าไม่มืดมาก แต่ใจของสมปองกลับมืดและหดหู่ลงกว่าเดิม ด้วยแรงกระทบจากความแตกแยก เพื่อนนักศึกษาส่วนหนึ่งกลับบ้านไปแล้ว ทำให้เขาเริ่มขาดความเชื่อมั่นและนับถือตนเอง
ขณะที่นั่งล้างจานจู่ ๆ ก็ร้องไห้คร่ำครวญ และวิ่งไล่เตะเพื่อน ๆ รอบข้างด้วยความรู้สึกว่า ทุกคนทำร้ายเขา ต่างยัดเยียดภาระหน้าที่อันหนักหน่วงให้ หวังให้เขาสืบทอดการชี้นำ แต่แล้วก็กลับทอดทิ้งไป ทำให้เขาไม่อาจบรรลุภาระหน้าที่ได้ จะกลับไปไร่อ้อยที่บ้านก็เกรงว่าแม่และพี่น้องไม่ยอมรับ ไหนจะแปลกแยกกับผู้คนและถิ่นฐานอาศัย ไหนจะภาระกิจที่คั่งค้างจะมอบหมายให้ใครรับช่วงอีก
สมปองมีอาการหนักขึ้น เขาว้าวุ่นมากและไม่เป็นสุขจนต้องหาทางส่งกลับบ้านในเวลาต่อมา เมื่อเขาจากไปแล้วมีคนพบสมุดบันทึกที่เขียนด้วยลายมือสับสน ตัวหนังสือโต ๆ และขีดฆ่าเลอะเทอะ ในนั้นมีอยู่ตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า
ข้าพเจ้า คิด นึก หวังไว้ว่า
ในขบวนคนดี
ข้าพเจ้าจะเป็นคนดีที่สุด
ข้าพเจ้าไม่กล้าสั่งสอนใคร
แต่ข้าพเจ้าคือจะเป็น และจะทำ
เช่น เมื่อวันวานข้าพเจ้าปฏิวัติ
ทำมันได้ถึง 2 กะละมัง
15.4 สมปองเป็นเพื่อนที่ผมรักคนหนึ่ง เขาชื่นชมเพลงที่ผมแต่งมากที่สุด และบอกใครต่อใครว่า ผมแต่งเพลงทุกเพลงเพื่อเขาคนเดียว
อีก 4 ปีต่อมาเราได้พบกันอีกโดยบังเอิญที่สมุทรปราการ ผมดีใจที่เห็นเขาปกติดี จึงชวนเขาไปดูหนังเรื่อง Star Wars : The Empire Strike Back ที่หน้าโรงหนังมีตู้เพลงให้วัยรุ่นหยอดเหรียญฟังเพลง “Subaru” ภาคภาษาไทย ซึ่งร้องโดย ดอน สอนระเบียบ
ในขณะนั่งรถเมล์กลับบ้าน สมปองพูดคุยกับผมอย่างสนุกสนานและบอกว่าหนังที่ดูนั่นเป็นเรื่องของเขา และเพลงนั้นก็มีคนร้องเพื่อเขา
ต่อมาเมื่อผมได้ดูละครเรื่อง ดอน กีโฮเต้ Man of La Mancha หรือ อัศวิน(เพี้ยน)ผู้ใฝ่ฝันแห่งลามันชา ซึ่งประพันธ์โดย มิเกล เดอ เซรบานเตส ชาวสเปน ทำให้นึกถึงเขา และนึกถึงทุกครั้งที่หยิบวีดีโอเรื่องนี้มาดู
แท้จริง ดอน กีโฮเต้ ก็คือ อลองโซ กีฮานา คนแก่คนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเป็นอัศวินผู้อภิบาลความดี และจะต่อสู้กับความชั่วร้าย
ส่วน สมปอง ลูกชายชาวไร่อ้อยคนหนึ่งก็คิดว่า เขาคือทายาทที่จะนำการปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ แน่นอนเขาจะเป็นคนดีที่สุดของบ้านเมืองนี้ . . . . .
ดอน สมปอง Man of Tanaowasri ของผม
*******
บันทึกทั้งหมดในตอนที่ผ่านมา:บันทึกอดีตสหายเดือนตุลา:ตะวันตกที่ตะนาวศรี