ที่มา ข่าวสด
รายงานพิเศษ
เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะใช้ขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน มีรายละเอียดดังนี้
ที่ผ่านมาบ้านเรามีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของคนในชาติมาตลอด และเริ่มรุนแรงมากขึ้นหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดมากขึ้น
ความขัดแย้งได้แบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งหลังรัฐ ประหาร รัฐบาลหวังแก้ปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง แต่แก้ไม่ถูก แก้ไม่เป็น จึงเห็นใจรัฐบาลที่มารับผิดชอบเพราะเขาอยากทำให้ดีที่สุด
แต่รัฐบาลไม่มีแนวทางที่ทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่าจะแก้ได้
เนื่องจากมุ่งเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งที่ความเป็นจริงการแก้เศรษฐกิจไม่ใช่ปัญหาหลักของชาติ หากแก้ปัญหาความขัดแย้งคนในชาติได้ การลงทุนจากภายนอกจะหมุนไปตามวงจรของมันเอง
ความขัดแย้งในชาตินั้นส่งผลถึงประเทศเพื่อนบ้าน เพราะประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในอาเซียน เป็นความหวังจากมิตรประเทศที่จะผลักดันในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่ออาเซียน ซึ่งเขารู้สึกผิดหวังเรา ดังนั้น ความสัมพันธ์เรากับเพื่อนบ้านจึงน่าห่วงใย
สาเหตุที่ออกมาชี้แจงไม่ได้มุ่งหวังกล่าวโทษนำสิ่งไม่ดี ไม่ถูกต้องมาพูด แต่หวังว่าแนวทางพรรคเพื่อไทยเพื่อจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งคนในชาติ
ขณะเดียวกัน เรื่องความขัดแย้งพื้นที่ 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามายังไม่เห็นการแก้ไขเหมือนกัน
แม้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จะเป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน แต่แก้ไม่ตรงกับปัญหา
การที่นายกฯ ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปพบนักธุรกิจ 5 จังหวัดใต้ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพูดทุกปัญหา แต่ไม่ได้กล่าวถึงความขัดแย้งคนในพื้นที่ ซึ่งน่าเสียดาย
เราบอกกับสังคมมาตลอดว่าความขัดแย้งวันนี้ไม่ใช่ของแปลกใหม่ และเรายังไม่มีรัฐบาลโดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง สิ่งนี้จึงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ดังนั้น เราจึงต้องเสนอแนวทางแก้ปัญหา
ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งในอดีตแก้มามากแล้วถึง 18 ฉบับ แต่ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติก็ยังแก้ไขไม่ได้ ทางที่ดีควรรวมพลังมาทำงานให้ประชาชนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างรัฐบาลจีน ถึงแม้เป็นคอมมิวนิสต์ แต่ให้ความสำคัญกับประชาชนก่อน จากนั้นจึงมาแก้ไขพัฒนาเรื่องการปกครอง ซึ่งต่างจากสหภาพโซเวียต สมัยประธานาธิบดีมิกฮาอิล กอร์บาชอฟ ขณะนั้นที่มัวยึดหลักระบบให้เป็นไปโดยประชาชน เพื่อประชาชน มุ่งเน้นแก้รัฐธรรมนูญ จนประเทศเกิดความเสียหาย
ที่ยกตัวอย่างเพราะไม่อยากเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกทาง การแก้ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็น แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการ จึงเป็นห่วงว่าถ้ายังเป็นเช่นนี้พี่น้องจะลุกขึ้นมาแก้
และวันนั้นเราจะเสียใจที่สุดคือการใช้ความรุนแรง
สำหรับการสร้างความเป็นธรรมในภาคใต้ไม่ใช่ เรื่องยาก ปัญหามาจากความคับแค้น เพราะการเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม หากจับจุดตรงนี้ได้ก็แก้ปัญหาได้
พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทาง "นครปัตตานี"
มีลักษณะคล้ายกับนครเชียงใหม่ คือ ให้มีการออกพระราชบัญญัติกำหนดให้ประชาชนดูแลตัวเอง โดยให้เกียรติกับประชาชนในพื้นที่ แต่ยังอยู่ภายใต้รัฐ ธรรมนูญและกฎหมายไทย ส่วนรายละเอียดขึ้นอยู่กับรัฐบาล
วันที่ 3 พ.ย.นี้ ผมจะลงไปในพื้นที่ปัตตานีเพื่อร่วมสัมมนากับภาคประชาชนและองค์กรต่างๆ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 2,000 คน
ถึงเราไม่ได้มีอำนาจ งบประมาณ หรือกำลังทหาร แต่คนในพื้นที่ยังมีน้ำใจให้กับเรา ตอบรับร่วมดำเนินงานกับเรา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาลมากกว่าเงินทอง
ส่วนนโยบายเป็นมิตรประเทศเพื่อนบ้านนั้นมีความสำคัญมาก แต่ไม่เข้าใจทำไมผู้ปกครองของเราถึงไม่เข้าใจตรงนี้ อยากให้เข้าใจคติที่ว่าสิ่งใดที่อยู่ใกล้สำคัญกว่าสิ่งที่อยู่ไกล ภายในสำคัญกว่าภายนอก
ถ้าตระหนักจุดนี้จะรู้และแก้ไขปัญหาและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ได้ เพราะประเทศเพื่อนบ้านเขาหวังว่าจะได้น้ำใจและความจริงใจจากเราโดยไม่ได้ต้องการเข้ามาฉกฉวยอะไร
เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการมาตลอด ดังนั้น ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญ และเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านมีความสำคัญสูงสุดต่อเราเช่นเดียวกัน
ล่าสุดทราบว่าผู้นำเพื่อนบ้านไม่สบายใจกับผู้ปกครองของเราเกี่ยวกับการที่ผมเดินทางไปประเทศกัมพูชา ทั้งที่มีจุดประสงค์เพื่อไปพูดคุยด้วยความจริงใจ ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ แต่ข่าวที่พูดกันนั้นกลับตรงกันข้าม
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเขารักที่ตัวพ.ต.ท. ทักษิณด้วยความจริงใจ จึงไม่เห็นมีปัญหาอะไร หรือไปกระแทกจิตใจคนบางคนได้อย่างไร
ช่วงกลางเดือนพ.ย. ผมจะเดินทางไปเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อหารือถึงการแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน เช่น เรื่องการปลูกข้าว ปลูกยางและอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
จากนั้นจะไปประเทศพม่า เวียดนาม ก่อนจะไปเยือนประเทศลาวและจีน ตามลำดับ
ยืนยันว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยมีเจตนาต้องการนำความสงบสุขมาสู่พี่น้องคนไทย ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
การลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้จะเชิญ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานที่ปรึกษาพรรคมาตุภูมิ ไปด้วยหรือไม่
เชิญทุกท่าน ทั้งพล.อ.สนธิ นายเด่น โต๊ะมีนา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายแวมะหะดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์
การลงไปครั้งนี้จะไปฟังความเห็นองค์กรประชาสังคมที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆ เราได้ติดต่อและทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว ที่ไม่ได้ลงไปก่อนหน้านี้เพราะเกรงว่าจะไปขัดขวางการทำงานรัฐบาล
แต่วันนี้ต้องขออนุญาต การแก้ปัญหาทุกอย่างไม่มีคำว่าพรรคหรือพวกมีแต่ประเทศไทยที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ
ได้เชิญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. หรือไม่
ไม่ได้เชิญ แต่ทุกคนมีสิทธิ์ลงไปได้หมด ถ้าอยู่ในห้องสัมมนาไม่ได้ อยู่ข้างนอกก็ได้
เหตุใดรัฐบาลให้ความสำคัญกับพ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าการแก้ปัญหาให้ประเทศ
ไม่ทราบจริงๆ เดี๋ยวไปถามรัฐบาลให้
นายกฯ หารือกับผบ.ทบ. และแสดงความแปลกใจกับการลงพื้นที่ของประธานพรรคเพื่อไทย
ท่านคงเป็นอย่างนั้นเอง ที่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นธรรมดา