ที่มา ไทยรัฐ
อภิสิทธิ์
ฟอร์มเข้าฝักอย่างนี้ "โดนเปลี่ยนตัวออก" ก็แปลกแล้ว
แต่นั่นหมายถึงในเกมฟุตบอลที่ล่าสุด "มาร์คคี่" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โชว์ลีลาดาวซัลโว ทำแฮททริก เหมาคนเดียว 3 ประตูรวด ในเกมดวลแข้งกับทีมรวมสมาชิกวุฒิสภา
ตำแหน่ง "ศูนย์หน้าตัวเป้า" ยากที่ใครจะเบียดแย่งได้
อย่างไรก็ตาม ในอารมณ์คนละเรื่องกับสนามการเมือง เกมชิงอำนาจประเทศไทย ที่มีคนคอยจังหวะดักเตะสกัด จ้องล้มโต๊ะนายกฯอภิสิทธิ์
ชนิดที่เผลอเมื่อไหร่ โดนเบียดตกเก้าอี้ง่ายๆ
ที่แน่ๆโดยกระแส ณ คาบนี้ ถ้าหลุดวงโคจรเมื่อไหร่ ก็เป็นอะไรที่รู้กัน โดยยี่ห้อประชาธิปัตย์ แทบจะปิดโอกาส "อภิสิทธิ์" รีเทิร์นกลับมาเบิ้ลเก้าอี้รอบสอง
ตามเกมที่บีบให้เล่นประคอง
ภายใต้เงื่อนไขห้วงเวลาพิเศษที่รู้กันภายใน แม้แต่การปรับ ครม.ตามโปรแกรมที่วางคิวให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เข้ามาเสียบเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ แทนนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่จะลดชั้นไปนั่งเก้าอี้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแค่คิวลอยๆ
ช็อตไฮไลต์ ยังปรับ ครม.ไม่ได้ โดยเงื่อนไขบังคับ ก็ไม่ต้องพูดถึงคิวอื่นก็ยากขยับ
ตามจังหวะการเมืองแล้ว "อภิสิทธิ์" ยังมีพื้นที่ มีเวลาให้โชว์ลีลาลากเลื้อย ประคองลูกไปได้อีกพักใหญ่
แม้จะมีเรื่องให้ตื่นเต้นระทึกใจ
กับคิวที่กองทัพเสื้อแดงส่งสัญญาณป่วนขั้นรุนแรง ประกาศดีเดย์ชุมนุมใหญ่แบบลากยาว ปักหลักรบยืดเยื้อ ตั้งธงไล่รัฐบาลประชาธิปัตย์ให้ได้ก่อนสิ้นปี
นอกจากบทขู่ขึงขังๆของทีมงาน "สามเกลอ" โหมโรงเรียกคนดู
ก็ยังไม่มีลางบอกเหตุอะไรที่จะถึงขั้นเกิดเหตุพลิกผัน
ที่แน่ๆกับอาการขยับของ พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เตรียมชงแผนงานตามแนวนโยบายเสนอที่ประชุมพรรคเพื่อไทย
โดยมีเรื่องการต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารเป็นเรื่องหลักอยู่ด้วย
กลุ่มทหารเฒ่าเพื่อนนายใหญ่ เทกแอ็กชั่น ตื่นตัวกับแผนป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารกันตั้งแต่หัววัน
โดยอาการที่สะท้อนว่า ฝ่าย เสธ.ของ "นายใหญ่" ระแวงยุทธการ "ล้มกระดาน" แหยงฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยส่งซิกทหารปฏิวัติ
ปิดเกมนักเลือกตั้งไม่ให้ลงสนาม
และนั่นก็หมายถึง "ฟาวล์" กระแสพรรคเพื่อไทยที่กำลังแรงวันแรงคืน ถึงขนาดเชื่อขนมกินได้ เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็เข้าป้าย
ไม่ได้ลงสนามก็เปล่าประโยชน์
โดยเกมมันถึงต้องมีแผนสอง ยุทธศาสตร์สำรองอยู่ที่การซุ่มฝึกกำลังกองทัพแดง พร้อมยุทธการแดงทั้งแผ่นดิน เพื่อลุยสู้กับทหาร
ไพ่ใบสุดท้ายที่จะวัดดวงกับเกมปฏิวัติ
ทั้งหมดทั้งปวง ตามจังหวะเกมที่เล่นยาก "นายใหญ่" เปิดฉากโหมโรงล้มโต๊ะรัฐบาล ก็ต้องระวังเข้าทางพวกจ้องปฏิวัติ ล้มกระดาน
งานนี้จึงเป็นอะไรที่อ่านกันตามเชิงแล้ว ยังไงก็ต้องประคองจังหวะ
อย่างที่เห็นๆ เดี๋ยวก็รุกขู่เผด็จศึก เปิดเกมโลกล้อมประเทศไทย ทำท่าจะมาปักหลักบัญชาการที่ประเทศกัมพูชา เดี๋ยวก็แย็บแล้วถอย ยืนยันปักหลักอยู่ดูไบ เปิดช่องทางส่งสารตรงกับกองเชียร์ ทั้งโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ส่งข้อความเอสเอ็มเอส เปิดทีวี 100 ช่อง
เด้งเชือก เล่นกระแสไปพลางๆ
และก็ยังมีเวลายึกยัก กับคิวของ "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญย-รัตกลิน อดีตประธาน คมช. ที่ยังเล่นบทพระเอกลิเกรำป้อไปป้อมา หาวิกปักหลักไม่ได้
โยนหิน จะเข้ามาเสียบหัวค่ายมาตุภูมิหลายรอบ แล้วก็เงียบหาย
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายทาง
ที่แน่ๆถ้าปักหลักเปิดวิกกันจริงๆ "บิ๊กบัง" ตกปากรับเก้าอี้หัวหน้าค่ายมาตุภูมิเมื่อไหร่ ก็จะเป็นอะไรที่ตัดสินใจง่าย กับคิวของ "บิ๊กผิว" พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่รอคั่วอยู่เหมือนกัน ก็คงหอบหิ้วลูกทีมสายอีสานไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
เพราะยี่ห้อ "บิ๊กบัง" ขายได้แค่ 3 จังหวัดชายแดนใต้.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน