ที่มา บางกอกทูเดย์
เปิดเกมรุกที่น่าตื่นเต้นและเรียกแขกได้ดี สำหรับนโยบาย “ไทยร่มเย็นเป็นมิตรเพื่อนบ้าน” ของ “ขงเบ้งกองทัพ” พ่อใหญ่จิ๋ว พล.อ.ชวลิตยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยหนึ่งในนโยบายดังกล่าวนี้คือการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.ชวลิตมีกำหนดจะเดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย และพบปะกับ นายนาจิบราซัก ผู้นำมาเลย์ ในช่วงกลางเดือนพ.ย.หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้นั้นหมายความว่า พ่อใหญ่จิ๋วจะมีโอกาสพบนายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซียก่อนนายกรัฐมนตรีของไทย “อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ” ที่มีกำหนดการจะพบกันในเดือน ธ.ค.ถ้ามองตามหลักยุทธวิธี ถือเป็นการชิงพื้นที่ในประเทศอาเซียน ที่พรรคเพื่อไทยวางแผนมาอย่างดี ผ่านการเชื่อมต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรี อย่างพล.อ.ชวลิต
ซึ่งดูเหมือนเวลานี้ทุกอย่างกำลังลงตัว หลังจากประสบความสำเร็จจากการเดินทางพบ สมเด็จฯ ฮุน เซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จนเขย่าเวทีประชุมอาเซียนมาแล้วเช่นเดียวกับนโยบายดับไฟใต้ที่“บิ๊กจิ๋ว” ชูขึ้นมา เหมือนเป็นการ“ตบหน้า” รัฐบาลที่กำลังผลาญงบประมาณหลายแสนล้านบาทเพื่อดับไฟใต้“พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางนครปัตตานี ที่มีลักษณะคล้ายกับนครเชียงใหม่ คือให้มีการออกพระราชบัญญัติให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเอง โดยให้เกียรติกับประชาชนในพื้นที่ แต่ยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายไทยส่วนรายละเอียดขึ้นอยู่กับรัฐบาล”ประธานพรรคเพื่อไทย ระบุขณะเดียวกัน“พ่อใหญ่จิ๋ว”ยังแสดงให้เห็นว่าความเป็นโซ่ข้อกลาง ยังจะช่วยให้การทำงานในพื้นที่ภาคใต้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยการแสดงสปิริตส่งเทียบเชิญพรรคการเมืองหลายพรรคลงพื้นที่ด้วยแต่ที่ เซอร์ไพรส์ เห็นจะเป็นการส่งเทียบเชิญ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.และประธานคมช. พร้อมด้วยแกนนำพรรคมาตุภูมิซึ่งถือเป็นขุนพลจากด้ามขวาน ลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาด้วย “ได้เชิญทุกท่านทั้ง พล.อ.สนธิ, นายเด่น โต๊ะมีนา อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.ปัตตานีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธิ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคมาตุภูมิ นายแวมาฮาดี แวดาโอะส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน และนายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาสพรรคประชาธิปัตย์ โดยการลงพื้นที่ก็เพื่อจะไปฟังความเห็นจากองค์กรภาคประชาสังคมที่ประกอบด้วยภาคส่วนต่างๆ ซึ่งได้ติดต่อและทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว” พล.อ.ชวลิต กล่าวขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และประธานที่ปรึกษาพรรคมาตุภูมิกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต เชิญให้ร่วมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า...พล.อ.ชวลิต ได้ให้คนส่งหนังสือมาแต่คงไม่เดินทางไปด้วย เพราะไม่เหมาะสมเนื่องจาก พล.อ.ชวลิต เป็นประธานพรรคเพื่อไทย และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นแนวร่วมกับพรรคเพื่อไทยคำแถลงของพล.อ.ชวลิตเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้วยการตั้ง “นครปัตตานี” ถูกตอบโต้จากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อย่างรุนแรงโดย นายเจ๊ะอามิง กล่าวว่า จะไม่ร่วมคณะลงพื้นที่กับ พล.อ.ชวลิต ด้วยอย่างแน่นอนเพราะ พล.อ.ชวลิต ไม่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้มาจากความผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร และคิดว่า พล.อ.ชวลิต ไม่ต้องไปรับฟังอะไรในพื้นที่แล้ว แต่ต้องทบทวนตัวเองว่าทำอะไรผิดพลาดไปบ้างโดยเฉพาะเหตุการณ์ตากใบ อยากทราบว่า พล.อ.ชวลิต จะรับผิดชอบหรือไม่ส่วนแนวคิดเรื่องการตั้งนครปัตตานีนั้นนายเจ๊ะอามิง กล่าวว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัด และเทศบาลทั่วประเทศก็ดำเนินการอยู่แล้ว และเป็นการปกครองตนเองในระดับหนึ่งด้วยจึงไม่มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะต้องเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมาอีกพล.อ.ชวลิต ได้ตอบคำถาม นักข่าวที่ถามเช้าวันที่ 3 พ.ย.ก่อนลงพื้นที่ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีแนวคิดจัดตั้งนครปัตตานีเป็นกบฏ ว่า“กบฏอย่างไร ซึ่งหากเป็นกบฏก็แย่ซิแนวคิดนี้เป็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายไทย รัฐธรรมนูญไทยจะไปเป็นกบฏได้อย่างไร”นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต ได้ย้อนสื่อมวลชนว่าใครเป็นคนพูดว่าแนวคิดจัดตั้งนครปัตตานีเป็นกบฏผู้สื่อข่าวจึงได้บอกไปว่า นายเทพไทเสนพงษ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรีพล.อ.ชวลิต จึงบอกว่า “คุณเทพไทมีชื่อว่าพญา แต่ถ้าสื่อมวลชนอยากรู้ต่อจะเล่าให้ฟัง” สื่อมวลชน จึงได้บอกไปว่าให้เล่าให้ฟังเลย พล.อ.ชวลิต จึงบอกว่า“พญา......อย่าเพิ่งเล่า อย่าเพิ่งเล่าแต่คนนี้เป็นคนน่ารัก แต่แกเป็นพญาจริงๆ”นักข่าวถามต่ออีกว่า นายกรัฐมนตรีเรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวเพื่อรับมือ พล.อ.ชวลิตพ่อใหญ่จิ๋ว บอกว่า “รับมือพล.อ.ชวลิต อย่ามารับเลยรับไม่ไหวหรอก”ดูบท “บู๊และบุ๋น” ของเซียนการเมือง อย่าง “พ่อใหญ่จิ๋ว” ต้องบอกว่างานนี้มันส์แน่นอน เพราะ พ่อใหญ่รีเทิร์น ขนาดนี้ ถามเป็นลูกอีสานต้องบอกว่า “พ่อใหญ่โสตาย” ลุยเต็มที่