ที่มา ไทยรัฐ
แม้จะได้ตัว แขกราเกซ สักเสนา กลับมาดำเนินคดีในเมืองไทย แต่วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ก็คงลืมกันไปแล้ว พวกเขาโกง แบงก์ บีบีซีธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ กันอย่างไรจนแบงก์เจ๊ง ระบบแบงก์เจ๊ง ระบบการเงินเจ๊ง
วันนี้ผมขอลอกคำอภิปรายในสภาของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง หัวหอกฝ่ายค้านในสมัยนั้น ซึ่งอภิปรายไว้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2539 นสพ.ไทยโพสต์ นำมาลงเตือนความจำ
รัฐมนตรีกลุ่ม 16 ที่ถูก นายสุเทพ ระบุไว้ในคำอภิปรายครั้งนั้นก็มี นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีช่วยคลัง และรัฐมนตรีกลุ่ม 16 คนอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้ง นายเกริก- เกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายเอกชัย อธิคมนันทะ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ นายราเกซ สักเสนา ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่
มาอ่านคำอภิปรายของนายสุเทพกันครับ เขาโกงแบงก์บีบีซีกันอย่างไร
"คนเหล่านี้เขาทำกันอย่างไร เขาทำกันโดยไปจดทะเบียนตั้งบริษัทขึ้นตามที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาศัยชื่อบริษัทนิติบุคคลเหล่านี้ ไปขอกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด ในลักษณะที่เรียกว่า เงินกู้เบิกเกินบัญชีหรือเงินโอดี แล้วเอาเงินกู้เหล่านี้ ไปกว้านซื้อที่ดินในจังหวัดต่างๆหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย
เป็นที่ดินที่พวกเหล่านี้ไม่ได้ลงทุนเลย ไปเบิกเงินโอดีจากธนาคาร แล้วเอามากว้านซื้อที่ดิน ไร่ละพันกว่าบาท สองพันกว่าบาท แล้วเอาที่ดินนั้นไปออกเอกสารสิทธิ เพราะที่ดินส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ ใช้อิทธิฤทธิ์ใช้อำนาจ ในฐานะที่เป็นนักการเมือง กลุ่มการเมืองที่คนเขาเกรงกลัวว่า เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล
ออกเอกสารสิทธิได้แล้ว ไม่ได้สนใจหรอกครับว่า น.ส.3 ที่ออกไปนั้น ไปทับที่ดินของชาวบ้าน หรือว่าไปทับที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ คนพวกนี้เขาไม่ใส่ใจเลย เขาเอาแต่ น.ส.3 ไปให้บริษัทประเมินราคาหลักทรัพย์ ทำการตีราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วเอามาทำโครงการกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด อีกรอบหนึ่ง
กู้โอดีไปได้ก้อนหนึ่ง ไปกว้านซื้อที่ดินมาทำเอกสารสิทธิได้แล้ว เอากลับมากู้ธนาคารอีกรอบหนึ่งถึงได้เงินจำนวนมากมายมหาศาลไปหมุนกันทำธุรกิจ จนเกิดความเสียหายกับบ้านเมือง
เงินกู้ที่ได้จากการจำนองที่ดินนี้ เอาไปใช้ในตลาดหลักทรัพย์ ไปเลือกเอาบริษัทที่กิจการไม่ค่อยสู้จะดี ซื้อหุ้นเหล่านี้ เทกโอเวอร์เข้าครอบงำกิจการของบริษัทเหล่านั้น ทั้งๆที่คนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหลาย นักเล่นหุ้นทั้งหลายเขารู้ว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นเน่า หุ้นที่ไม่มีราคา หุ้นที่ไม่มีผลประกอบการดี
แต่เวลาทำเรื่องขอกู้เงิน คนพวกนี้เขาบอกกับธนาคารว่า เขาทำโครงการกู้เงินนี้เพื่อเข้าไปเทกโอเวอร์ครอบงำกิจการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เหล่านั้น แล้วจะบริหารให้มันดีขึ้น เสนอร่างกับกรรมการควบคุมตลาดหลักทรัพย์ในลักษณะเดียวกัน
กิจการที่เอาไปครอบงำซื้อหุ้นเทกโอเวอร์หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด 39,592 ล้านบาท ในจำนวนนี้ปล่อยในหมู่พวกเดียวกัน 39,592 ล้านบาท ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติตรวจสอบแล้วบอกว่า เป็นหนี้เสีย เป็นหนี้ที่ด้อยคุณภาพ 24,653 ล้านบาท ให้ กู้ไป 39,000 ล้านบาท เสียซะ 24,000 ล้านบาทเศษ"
คำอภิปรายของ นายสุเทพ จบลงแค่นี้ หลังจากนั้นเป็นการ ประชุมลับกว่าสองชั่วโมง แต่คำอภิปรายแค่นี้ก็พอจะเห็นแล้ว คนพวกนี้โกงแบงก์ บีบีซี โกงชาติกันอย่างไร สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าหลักฐานเหล่านี้นายสุเทพยังเก็บอยู่ตามวิสัยนักการเมือง
แต่วันนี้ อดีตรัฐมนตรีกลุ่ม 16 ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาล เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจให้บริหารประเทศ นายสุเทพกลับอ้าแขนรับเข้าร่วมรัฐบาล แถมยังให้คุมกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจการเมืองทั้งหมด มีอำนาจครอบงำเหนือรัฐบาลอีกต่างหาก แล้วคดีเหล่านี้จะเป็นอย่างไร แล้วเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง ว้าเหว่นะครับ ประเทศไทยของเรา.
"ลม เปลี่ยนทิศ"