ที่มา ไทยรัฐ
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือ กกต.คัดค้านกระบวนการสอบสวนคดีเงินบริจาค ปชป. 258 ล้าน มิชอบด้วยกฎหมายละเว้นดำเนินคดีกับ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ที่ขัดคำสั่งไม่ยอมมาให้ปากคำ กลับรีบสรุปสำนวน..
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายฯ เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านกระบวนการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการของ กกต.กรณีสำนวนเงินบริจาค 258 ล้านบาท ที่มีการกล่าวหาว่าบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) บริจาคให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และกรณีเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทที่อาจมีการใช้ผิด วัตถุประสงค์
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การดำเนินการสืบสวนสอบสวนของอนุกรรมการในคดีนี้ อาจมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากได้ตัดพยานปากสำคัญออกไป คือ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ทั้งที่นายประชัยเป็นผู้ที่ถูกระบุว่า เป็นเจ้าของเงินจำนวน 258 ล้านบาท ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการได้ใช้ระยะเวลาสืบสวนสอบสวนมาเป็นเวลานาน มีการออกหนังสือเรียกให้นายประชัย มาให้ถ้อยคำหลายครั้ง แต่นายประชัย ไม่ยอมเข้าพบอนุกรรมการ แสดงให้เห็นถึงการจงใจขัดคำสั่งของ กกต.ตามมาตรา 26 (3) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นความผิดมาตรา 44 แต่แทนที่คณะอนุกรรมการจะเสนอ กกต.เพื่อใช้อำนาจกล่าวโทษนายประชัย อนุกรรมการกลับรีบสรุปสำนวนที่ไม่สมบูรณ์ และส่งเรื่องให้ กกต.วินิจฉัยในวันที่ 10 พ.ย.นี้
"การตัดพยานปากสำคัญ ย่อมมีผลกระทบต่อรูปคดี และน่าจะมิชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นการจงใจให้ความช่วยเหลือ ทำให้สำนวนอ่อนลง ดังนั้นคณะอนุกรรมการต้องร่วมกันรับผิดชอบโดยผลของกฎหมายทุกประการ" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว และขอให้ กกต.ดำเนินคดีกับนายประชัยโดยด่วย มิเช่นนั้นจะดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่