ที่มา บางกอกทูเดย์
สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงต้องประคับประคองเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น ท่ามกลางการจับตาจากภาครัฐ ที่หวังจะหาทุกวิถีทางเพื่อนำสันติสุขมาสู่ปลายด้ามขวาน หลังนายกฯ นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ สัญชาติไทยอย่าง “เดอะเนชั่น”ถึงการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า...ควรให้สิทธิการปกครองตนเองในบางระดับแก่ประชาชนในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ผู้คนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมในเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวเช่นกันพร้อมระบุว่า...เขาจะหารือถึงแผนการสำหรับเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ติดต่อกับมาเลเซีย เมื่อเขาพานายกรัฐมนตรีนาจิบเดินทางเยือนพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือไทย-มาเลเซียประจำปีในเดือน ธ.ค.นี้ก่อนหน้านี้ นายนาจิบ ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นของไทย ซึ่งตีพิมพ์ในฉบับวันจันทร์ (26 ต.ค.) ว่า...ประเทศไทยควรที่จะให้สิทธิปกครองตนเอง “บางรูปแบบ” แก่ดินแดนดังกล่าวที่มีผู้คนเสียชีวิตไปกว่า 3,800 คนนับแต่ที่ความรุนแรงซึ่งมุ่งหมายที่จะแบ่งแยกดินแดนปะทุขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ.2004นายกฯ อภิสิทธิ์ ได้พูดถึงความเห็นนี้ว่า “นั่นเป็นวิธีการที่ถูกต้อง” และ “รัฐบาลของผมกำลังทำงานเพื่อทำให้กลายเป็นจริงขึ้นมา โดยในต้นเดือน ธ.ค.นี้ผมและนายกฯ มาเลเซียก็จะไปเยือนพื้นที่ภาคใต้ด้วย”เช้าวันที่ 2 พ.ย. ภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรี คือการเปิดบ้านพิษณุโลก เพื่อหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงแทน “สุเทพเทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงที่มีอาการป่วยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ก็สยบข่าวลือ “เกาเหลา” กับ“รองสุเทพ” ที่ไม่พอใจที่จะนำ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาช่วยงานงานนี้เลยกระทบชิ่งไปถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ที่ต้องเลื่อนออกไปก่อนหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รองสุเทพ ยืนยันว่า วันที่2 พ.ย.จะเริ่มประชุม ก.ตร.ได้ ส่วนงานนี้จะเป็นเกมป่วยการเมืองหรือไม่ รองสุเทพฯ น่าจะเป็นคนที่รู้ดีกว่าใครๆส่วนการหารือที่บ้านพิษณุโลก ครั้งนี้ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) วีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศพร้อมด้วย ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี ราว 40 นาทีหลังการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า...เป็นการหารือเพื่อรับฟัง
ความเห็นของ “ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ”ซึ่งมีบทบาทเป็นตัวแทนภาคประชาชนในการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ หลังการรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่รวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละหมู่บ้านในพื้นที่ซึ่งการแก้ปัญหาความไม่สงบอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีพร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธถึงการหารือกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เข้าพบนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชา และการเตรียมเดินทางไปประเทศสหภาพพม่าและมาเลเซียส่วนกรณีการใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 4 อำเภอ จ.สงขลา นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้พูดคุยกับทุกฝ่ายแล้วเพื่อปรับลดอำนาจเจ้าหน้าที่จริงอีกด้านหนึ่ง...สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังตำรวจทหารและฝ่ายพลเรือน ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะเช้าวันที่ 2 พ.ย. เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เลือกใช้สำหรับออกสร้างสถานการณ์ที่จังหวัดปัตตานี โรงเรียนกว่า 300 โรง เปิดเรียนตามปกติโดยช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ทหารได้นำเครื่อง GT200 ตรวจหาวัตถุต้องสงสัยบริเวณโรงเรียนและโดยรอบอย่างละเอียดส่วนตามเส้นทาง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังยืนประจำจุดตลอดเส้นทางที่นักเรียนและครูจะต้องเดินทางผ่านสำหรับโรงเรียนในพื้นที่สีแดง ได้นำรถ V150 ติดอาวุธนำขบวนและปิดท้าย รับ-ส่งถึงโรงเรียน ควบคู่กับการเฝ้าระวังทางเฮลิคอปเตอร์เช่นเดียวกับที่ จ.ยะลา มีกำลังทหาร ตำรวจเข้มงวดดูแลความปลอดภัยครู นักเรียนตลอดเส้นทางส่วนครูที่อย่นู อกพื้นที่มชี ุดทหารค้มุครองดแู ลความปลอดภัยระหว่างเดินทางจนถึงโรงเรียน โดยมีการเตรียมพร้อมตรวจหาวัตถุต้องสงสัยโดยรอบบริเวณโรงเรียนก่อนเปิดเทอมด้วยสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงต้องประคับประคองเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น ท่ามกลางการจับตาจากภาครัฐที่หวังจะหาทุกวิถีทางเพื่อนำสันติสุขมาสู่ปลายด้ามขวานงานนี้จึงเห็น นายกฯ อภิสิทธิ์ เดินเกมดับไฟใต้ ท่ามกลางไฟใต้และไฟการเมืองที่กำลังร้อนแรง!