WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, November 6, 2009

บีบีซี – กลุ่ม 16 ปชป. ทิ้งเรื่องทำลายชาติ?

ที่มา บางกอกทูเดย์

อย่าไปมองว่ากรณี “บีบีซี” เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนายราเกซ เท่านั้นแต่เรื่องนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รากฐานทางเศรษฐกิจของไทยทรุดหนักถึงขั้นพังทลายไปในปี 2540 เลยทีเดียวทั้งนี้เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการฉ้อฉลเงินจำนวนนับแสนล้านบาท แล้วรัฐบาลประชาธิปัตย์จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับเรื่องนี้อย่างงั้นหรือ?เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า...กรณีบีบีซีนั้น มีการปล่อยสินเชื่อกระจุกตัวหลายหมื่นล้าน ให้กับกลุ่มนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองบางกลุ่มที่เป็นรัฐบาลอยู่ในสมัยนั้นซึ่งเรียกขานกันว่า “กลุ่ม 16”โดยมีหลายคนเป็นรัฐมนตรีในชุดของรัฐบาล บรรหาร ศิลปอาชาด้วยวิธีการที่อาจจะกล่าวได้ว่าผิดกฎหมายอย่างแนบเนียนเช่น ให้วงเงินโอดีโดยไม่มีหลักทรัพย์คํ้าประกันให้เงินกู้เกินกว่าหลักทรัพย์ หรือนำเอาหลักทรัพย์คุณภาพต่ำมากเู้งินตีราค้าที่ดินสูงเกินจริงนับสิบเท่านำเอาที่สาธารณะหรือป่าสงวนมาออกเอกสารสิทธิชนิดน.ส.3 หรอื น.ส.3ก.แล้วมา้ค้าํประกันเงินกู้นับพันนับหมื่นล้้านกลุ่มนักธุรกิจนักการเมืองดังกล่าวนำเงินที่ได้มาไปทำการเก็งกำไร ปั่นราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทำเงินให้กับพวกของตนนับร้อยนับพันล้านบาทแต่เกิดความเสียหายขึ้นกับ บีบีซี เกือบแปดหมื่นล้านบาท จนในที่สุด...บีบีซีก็ล้มครืนลง และนำพาเอาสถาบันการเงินแห่งอื่นๆ พลอยล้มลงไปด้วยจนเกิดกลายเป็น “โรคต้มยำกุ้ง” ซึ่งไม่เพียงทำให้ประเทศไทยเสียหายเท่านั้นแต่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกสั่นสะเทือนไปด้วยที่จริงในวันนั้นพรรคประชาธิปัตย์โดย “สุเุทพ เทือกสุบรรณ”ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล บรรหาร ศิลปอาชาโดยวางนํ้าหนักในเรื่องที่ กลุ่ม 16 เกี่ยวข้องกับการฉ้อฉลทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบีบีซี และได้มีการแสดงหลักฐานหลายอย่างในเรื่องที่นักการเมืองในฟากรัฐบาลบรรหารไปรับเงินจากบีบีซีโดยมีต้นขั้วเช็คเป็นจำนวนเงิน 75 ล้านบาทใบหนึ่ง และเช็คธนาคารแหลมทองลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2539 จำนวน20 ล้านบาทอีกใบหนึ่งเพื่อแลกกับการไม่เอาเรื่องกับบีบีซี...แล้ว สุเทพ เทือกสุบรรณยังกล่าววาทะโด่งดังในตอนนั้นด้วยว่า...หาก “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยจะจับนักการเมืองรัฐบาลนั้นเข้าคุกภายในสองเดือนมาในวันนี้ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายก

รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงภายในทำไมไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับบรรดานักการเมืองที่ทำลายชาติบ้านเมืองเหล่านั้นเล่าครับ ทั้งๆ ที่อายุความยังไม่หมดสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็รู้รายละเอียดทุกเรื่องเป็นอย่างดีอย่าดิ้นหนีอย่างด้านๆ ว่า...ในวันนั้นทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านจึงทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ดี และหน้าที่นั้นก็จบแล้วได้ส่งเอกสารทุกอย่างให้กับประธานรัฐสภาไปแล้วหมดหน้าที่ของตนแล้ว ในวันนี้เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องผู้เสียหายในการที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปกรณีบีบีซีได้สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศต้องใช้ภาษีอากรของประเทศหลายหมื่นล้านบาทเข้าไปแก้ปัญหาและยังเป็นรากเหง้าสำคัญของการทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศพังพินาศยับเยินลงในปี 2540 ด้วยดงันนั้ ประเทศไทยและประชาชนไทยทงั้ ประเทศเปน็ ผเู้สยี หายซึ่งรัฐบาลในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหารของประเทศ จะปฏิเสธความรับผิดชอบในการดำเนินการตามกฎหมาย กับนักการเมืองและนักธุรกิจทุกคนที่สร้างความเสียหายให้กับบีบีซีดังกล่าวไม่ได้เลยแม้แต่น้อยไม่เช่นนั้น...คุณมาเป็นรัฐบาลทำไม?หรือว่า...นักการเมืองนักธุรกิจดังกล่าวในวันนี้มาเป็น รัฐบาลร่วมกับคุณ คุณก็เลยทำ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวโยนเรื่องไปให้พ้นตัว เพื่อไม่ให้รัฐบาลล้มครืนลงเพราะเรื่องนี้เรื่องบีบีซี เรื่องกลุ่ม 16 เรื่องราเกรซ คงไม่จบลงง่ายๆ อย่างที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ พรรคประชาธิปัตย์ พยายามที่จะ“ปัดสวะ” ให้พ้นตัวอย่างนี้ดอกครับท้ายที่สุดหาก พรรคประชาธิปัตย์ และ สุเทพ เทือกสุบรรณไม่ชิงเป็นฝ่ายกระทำในการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้วละก็เรื่องนี้ก็จะกลายเป็น “บูมเมอแรง” หวนกลับมาทำลายล้างพรรคประชาธิปัตย์และตัวนายสุเทพ อย่างไม่ต้องสงสัย! 