ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
วันนี้ กลับมากอดมาหอมกันได้ ก็เพราะผลประโยชน์ทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์เคยล้มไม่เป็นท่า นายชวน หลีกภัย ต้องยุบสภาเพราะการแจกสปก.4-01 นั้น ส่วนหนึ่งก็มีมาจากการขุดคุ้ยของกลุ่ม 16 ด้วย
จากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะเอาคืน ล้มรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ด้วยการเปิดโปงทุจริตในธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ ที่โยงใยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม 16 เช่นกัน
นักการเมืองกลุ่ม 16 ที่ตกเป็นเป้าหมายการอภิปรายในครั้งนั้น
ถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะดูได้ ว่ามีใครบ้าง
หลังศาลแคนาดาส่งตัวนายราเกซ สักเสนา ที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตบอสใหญ่บีบีซี กลับมาดำเนินคดีในเมืองไทย
เงื่อนงำ ความเกี่ยวโยงจนทำให้บีบีซีพังพินาศ ก็ต้องได้รับการสะสางพร้อมๆ กัน
นายอภิสิทธิ์จะต้องมีมาตรฐานเดียว ใช้กฎหมายดำเนินการ แบบไม่ลูบหน้าปะจมูก
จะเอาตัวรอดไปวันๆ เพียงเพื่อจะอยู่เป็นรัฐบาลต่อ คงจะไม่ได้
ที่บอกว่าต้องดูตามข้อเท็จจริง และให้สอบสวนขยายผลกันไปนั้น ก็ต้องมีผลในทางปฏิบัติด้วย
ไม่ใช่ยักคิ้วหลิ่วตาให้กระบอกเสียงออกมาพูดว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซง
จะต้องไม่มีศรีธนญชัยหน้าไหน ออกมาตีความคำว่า"แทรกแซง"กับ"การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ละเว้น"เป็นคำเดียวกัน
สำหรับนายสุเทพ ซึ่งมีข้อมูล รู้ดี รู้ลึกถึงเส้นสนกลในว่าใครฟาดเงินบีบีซีบ้าง ก็จะต้องกล้าลุยล่าตัวจับกุมคนที่ร่วมกันยักยอกเงินธนาคารมาลงโทษให้ได้
คนผิดจะต้องถูกดำเนินการแบบเดียวกับนายเกริกเกียรติ นายราเกซ ตลอดจนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ในคดีนี้
ข้ออ้างที่บอกว่าได้ทำหน้าที่ในสภาอย่างสมบูรณ์แล้วในขณะนั้น ในขณะนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตน พร้อมกับโยนให้เป็นหน้าที่ของตำรวจนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่น่าจะรับฟังได้
ก็ในเมื่อนายสุเทพ ที่ตอนนี้ได้เป็นรัฐบาล มีตำแหน่งเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ดูแลทั้งทหารตำรวจ
โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จู่ๆ ก็มาปัดความรับผิดชอบ บอกไม่ใช่หน้าที่ได้อย่างไร
ยกเว้นแต่จะเห็นว่าถ้าหากดำเนินการไปแล้ว จะทำให้คนที่เคยเป็นศัตรู แต่ตอนนี้เป็นไม้ค้ำยันให้รัฐบาลเดือดร้อน
ถ้าหากนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน หรือได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ท่าทีแบบนี้ ไม่มีทางได้เห็นกันอย่างแน่นอน!!