ที่มา ไทยรัฐ
โดย หมัดเหล็ก
ความพยายามที่จะเข้ามาสะสางปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในสายตาของรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ คงเป็นของแสลงเป็นธรรมดา เพราะถ้า พล.อ.ชวลิตเกิดทำสำเร็จขึ้นมา ประชาธิปัตย์ คงหน้าแหกเป็นริ้ว
ทั้งคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและคุณถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่ดูแลปัญหาภาคใต้ เป็น ส.ส.ในพื้นที่ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภาคใต้ แต่ให้ พล.อ.ชวลิตที่อยู่พรรคการเมืองคู่แข่งมาแก้ ปัญหาจนสำเร็จ คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้เมื่อยตุ้ม
ไม่ว่าบิ๊กจิ๋วจะทำอะไรก็จะ ถูกคัดค้านโจมตีและขัดขวางทุกวิถีทาง เพราะความใจแคบของรัฐบาล ถ้ามองว่าปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาของประเทศซักนิด ก็คงไม่ ออกมาแสดงอาการป่วยถึงขนาดนี้
ไปขุดเอาเรื่องเก่าที่ไม่เป็นสาระมาโจมตีเพื่อดิสเครดิตสารพัดเรื่อง เข้าทำนองมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ว่ากันตามเนื้อผ้าใครจะรู้เรื่องภาคใต้ดีเท่ากับบิ๊กจิ๋ว ทุกกระบวนการ ทุกอุดมการณ์ บิ๊กจิ๋วรู้ลึกรู้จริง
และความนัยบางอย่างที่ พล.อ.ชวลิต ตั้งใจจะแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ หรืออย่างน้อย ก็คลี่คลายลงไปได้ในระดับหนึ่ง ต้องมองในหลายมิติ
ต้องมีจุดหมายปลายทางสำคัญ
และจุดหมายปลายทางต้องไม่ธรรมดา วันนี้ที่ พล.อ.ชวลิตลงมาในเวทีการเมืองอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่เข้าใจกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคงตัดสินใจไปนานแล้ว
ปริศนาตรงนี้ต้องขบให้แตก
ที่จั่วหัวเอาไว้ว่า รัฐตำรวจของจริง ก็เพราะว่า ตำรวจยุคนี้ ไม่เหลืออะไรเลย ศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ป่นปี้ ไม่มีเรื่องของลำดับอาวุโส ไม่มีรุ่น ไม่มีเรื่องของความรู้ความสามารถ
แล้วแต่นักการเมืองจะล้วง
ตำรวจไม่ใช่สินค้าที่จะต่อรองราคากันได้ แต่ตำรวจคือที่พึ่งของประชาชน เอาเฉพาะในพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียวก็แย่งชิงกันฝุ่นตลบ ล้วงแล้วล้วงอีก จนตั้งกันไม่ได้ โผไม่ลงตัว ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก
มีแต่ยุคนี้เท่านั้น
เรื่องของ ผบ.ตร.ไม่ต้องพูดถึง งามหน้า แก้ตัวไปข้างๆคูๆ พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้มองแค่การใช้อำนาจเข้าก้าวก่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น
แต่แสดงออกถึง วุฒิภาวะของนักบริหาร ความซื่อสัตย์ สุจริต ความเป็นธรรม ความโปร่งใส หลักนิติรัฐ หรือแม้แต่วิถีของประชาธิปไตยยังหาพิกัดไม่เจอ
มีแต่หลักกู.