WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, May 16, 2010

"ณัฐวุฒิ"แถลงมติแกนนำ ขอให้รบ.หยุดยิง พร้อมเข้าสู่แผนปรองดองให้ UNเป็นตัวกลาง "จตุพร"ขอพึ่งพระบารมี

ที่มา มติชน


นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช. ) แถลงเมื่อเย็นวันที่ 16 พฤษภาคมว่า แกนนำ นปช.มีมติขออให้รัฐบาลหยุดยิง แล้วให้กำลังทหารถอยห่างออกจากแนวเผชิญหน้า ระหว่างทหารกับประชาชน หลังจากรัฐบาลประกาศหยุดยิงแล้ว นปช.ก็พร้อมยุติการชุมนุมและเข้าสู่การเจรจาโดยสันติวิธีโดยทันที และขอให้สหประชาชาติ(ยูเอ็น)มาเป็นตัวกลาง ในการประสานงานเรื่องเรื่องแผนปรองดอง เนื่องจากขณะนี้ไม่มีองค์กรในประเทศเป็นที่ไว้วางใจได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 15.00 น. นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมนำตัว นางนารี แสงประเสริฐศรี มารดาของนายมานะ แสงประเสริฐศรี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพป่อเต็กตึ๊ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่ย่านบ่อนไก่ขณะลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุมาแสดงตัวด้วย

นายจตุพรกล่าวว่า นปช.ขอแสดงความเสียใจ และเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมากกว่า 24 ราย นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ผู้เสียชีวิตเป็นประชาชน การที่นายกฯ ให้ทหารติดอาวุธถือเป็นเหตุผลในการสั่งฆ่า และทราบว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ขอเตือนว่าการประกาศทุกครั้งไม่สามารถยับยั้งประชาชนไม่ให้ออกมาได้ หนำซ้ำจะทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมา ซึ่งการเสียชีวิตของนายมานะถือว่าอยู่ในชะตากรรมเดียวกับพวกตนที่ไม่รู้ว่าวันใดจะถูกสไนเปอร์ตัดสิน

นายจตุพรกล่าวว่า การที่นายกฯ อ้างเรื่องสถาบันแล้วมาเป็นเหตุฆ่ามนุษย์ เพื่อนร่วมชาติ ถือเป็นความเลวร้าย ถ้าต้องการฆ่าพวกตนก็ขอให้มา แต่อย่าแอบอ้างสถาบัน วันนี้ถ้ามีการสั่งฆ่าประชาชนหนึ่งคนเท่ากับว่านายอภิสิทธิ์ได้เพิ่มศัตรูที่เป็นญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตอีกมาก และไม่ว่านายอภิสิทธ์จะประกาศเคอร์ฟิว กฎอัยการศึกอีกสักกี่ครั้งก็ไม่สามารถ หยุดประชาชนได้ ตราบใดที่นายอภิสิทธิ์ ยังไม่หยุดฆ่า พวกตนก็จะอยู่ที่นี่ ยอมรับความตายอยู่ที่ราชประสงค์ทุกคน ถ้าจะออกไปก็ต้องเป็นร่างไร้วิญญาณ

“ถ้ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวในผู้ชุมนุมจริง 3 วันที่ผ่านมาก็ต้องมีทหารบาดเจ็บหรือเสียชีวิตบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่มีทหารเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ดังนั้น การกล่าวอ้างว่ากลุ่มผู้ชุมนุมติดอาวุธและก่อการร้ายจึงไม่เป็นความจริง น่าเสียใจที่สุดคือ นายอภิสิทธิ์อธิบายทุกอย่างว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสถาบัน เพื่อมาใช้เป็นข้ออ้างในการฆ่ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด เพราะมีทหารหลายคนมาบอกว่าเป็นอย่างนี้ ทหารจึงต้องทำ ซึ่งการดำรงอยู่ของการเป็นนายกฯ ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนในชาติ หากยิ่งฆ่าก็เป็นการ เพิ่มศัตรูที่เป็นญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตขึ้นอีก เหมือนเช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 20 พฤษภาคม 2535 หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เรียกคู่ขัดแย้งมาหยุดยั้งความตายในวันนั้น ไม่รู้จะมีกี่พันศพ วันนี้ก็เช่นกัน พวกตนเป็นพสกนิกร ก็ขอพึ่งพระบารมีพระองค์ เพราะเราไม่มีที่พึ่งจริงๆ และหากทหารยังไม่หยุดการยิงประเทศไทยก็จะเหมือนประเทศรวันดา และอีกหลายๆ ประเทศที่เกิดสงครามกลางเมืองล้างเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้ การที่กองทัพยังมีการใช้อาวุธเอ็ม 79 และโยนความผิดให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นไม่เป็นความจริง เพราะในคลังแสงทุกหน่วยของกองทัพยังมีอาวุธดังกล่าวอยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้อพยพเด็กและสตรีไปไว้ในวัดปทุมวนาราม เพื่อความปลอดภัยนั้น เรื่องนี้ต้องไปบอกทหารให้หยุดยิง เพราะคนที่ตายคือพวกตน ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐทหารไม่ยิงใส่พวกเขาก็ไม่มีใครตาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เพราะเหตุใดจึงขอพึ่งพระบารมี นายจตุพรกล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ รวมถึงตนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นนี้ เพราะเวลานี้คนไทยเห็นว่าพระบารมีเป็นที่พึ่งสุดท้าย และเชื่อว่าแนวทางนี้จะไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท มีแต่จะเพิ่มพระบารมี เพราะหากปล่อยให้มีการฆ่าประชาชนจะเป็นการเพิ่มความระคายเคืองมากกว่า

เมื่อถามว่า การที่มีมวลชนปะทะกันกับทหารโดยไม่มีแกนนำ ได้มีการหารือเพื่อดึงมวลชนมวลชนกลับหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า การรวมตัวที่ไร้แกนนำก็จะก่อให้เกิดความวุ่นวายเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ดังนั้น แกนนำที่อยู่รอบนอกได้ทำหน้าที่ตั้งเวทีขึ้นมาเพื่อรวบรวมมวลชนให้กลับมารวมตัว กัน เช่น คลองเตย ที่มีนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นายวรชัย เหมะ รวมทั้งบริเวณอื่นๆ เช่น บ่อนไก่ และดินแดง ส่วนการที่คนเสื้อแดงก่อเหตุเผายางเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐนั้น เห็นว่าเป็นการกระทำหลังจากมีการยิงอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ผู้ชุมนุมต้องป้องกันตัวเองเพื่อให้ควันไฟเป็นเกราะกำบัง เพราะอาวุธของรัฐบาลคือปืนสไนเปอร์ และที่สำคัญเรื่องเผายางรถยนต์เป็นสิ่งเล็กน้อยดีกว่าเผาตึก สาเหตุหลักเพราะเขาไม่สามารถเข้าพื้นที่ร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ได้จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

เวลา 14.00 น. วันที่ 16 พ.ค. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า ในพื้นที่ชุมนุมได้มีกลุ่มวัยรุ่น 2-3 คน ซึ่งไม่ใช่ผู้ชุมนุมฉีดพ่นสเปรย์บนพื้นถนนและกำแพงด้วยข้อความที่ไม่บังควร บริเวณด้านแยกปทุมวัน โดยการ์ดพยายามจับกุมตัวแต่ไม่สามารถกุมตัวได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากจับกุมได้จะนำตัวมาสอบสวนอีกครั้งนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าการกระทำลักษณะดังกล่าวของ นปช.แน่นอน โดยตนมองว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้มีการใช้รูปแบบเดียวกับเหตุการณ์ในปี 2519


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลจะมีการประกาศเคอร์ฟิว และอาจใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ หากผู้ชุมนุมคนใดต้องการเดินทางกลับบ้าน สามารถตัดสินใจได้โดยอิสระ จะไม่มีการ์ดของนปช.เข้าไปขัดขวาง แต่หากต้องการปักหลักต่อสู้ร่วมกันด้วยมือเปล่า และสันติวิธีก็มีสิทธิเสรีภาพเช่นกัน


"ขอให้ผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาร่วมชุมนุม หากตัดสินใจจะออกจากที่ชุมนุมก็ขอให้ออกไปทันที แต่พวกผมจะนั่งอยู่ที่นี้ ไม่มีการให้เด็ก หรือสตรีมาห้อมล้อมไว้เหมือนเช่นพันธมิตร ดังนั้น ขออย่ารีรอ การนำบุตรหลานออกไปจากพื้นที่ถือเป็นอิสระของพวกท่าน แต่หากประสงค์จะร่วมบรรยากาศการต่อสู้ ก็ขอให้เตรียมนำบุตรหลานไปอยู่ที่ในปลอดภัย เช่นวัดปทุมวนาราม ซึ่งเปิดเป็นเขตอภัยทานเอาไว้แล้ว"นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า แกนนำ นปช.จะมีการหารือกันในเวลาประมาณ 14.00 น.เพื่อกำหนดท่าทีต่อการประกาศเคอร์ฟิวของทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) และจะมีการแถลงหลังทาทีต่อไป


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่ายรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ได้นำสตรีรายหนึ่งขึ้นไปบนเวทีอ้างว่า ถูกทหารทำร้าย และยึดเงินไป 2,500 บาท ขณะที่กำลังเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุมเพื่อนำของมาขายตามปกติแต่ในระหว่างที่จะเข้ามา ได้ถูกทหารห้ามเอาไว้ แล้วเรียกให้ขึ้นรถจักรยายนต์ไปที่ซอยหมอเหล็ง แล้วลงมือตรวจกระเป๋ายึดเอาบัตรประชาชนอ้างว่า จะนำไปคีย์คอมพิวเตอร์ พร้อมยึดเงินจำนวน นอกจากนี้ยังมีการทุบตีทำร้าย และก่อนปล่อยตัวได้ขอให้กราบเท้าทหารดังกล่าว


เมื่อมาถึงการชี้แจงตรงนี้ นายณัฐวุฒิได้กล่าวปราศรัยปลุกระดมว่านี้คือการกระทำของทหาร จากนั้นได้ปราศรัยอย่างต่อเนื่อง เรียกร้องให้สื่อมวลชนทั่วโลกเห็นพฤติกรรมทำร้ายประชาชน


นอกจากนี้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. ได้นำสื่อมวลชนตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่ง ศอฉ.ระบุว่ามีการสะสมอาวุธร้ายแรง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกจัดให้เป็นสถานที่พักผ่อนของแกนนำ นปช.เท่านั้น


เมื่อเวลา 14.30 น. แยกราชประสงค์ ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมประสบปัญหาการลำเลียงอาหารเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม โดยเสบียงอาหารที่เหลืออยู่น้อยลง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่บริเวณพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มนปช. แม้ว่าการใช้น้ำยังเป็นปกติ แต่พบว่า มีมลภาวะจากของเสียและสิ่งปฏิกูล สะท้อนถึงปัญหาสุขอนามัยของผู้ชุมนุม โดยแกนนำประกาศไม่ให้ผู้ชุมนุมทิ้งขยะบริเวณหน้าโรงพยาบาลตำรวจเพราะจะเป็นการเพิ่มปัญหาสิ่งปฏิกูลให้มากขึ้น