ที่มา ประชาไท
ครม.ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม 5 จังหวัด ให้ กทม.หยุด 17-18 พ.ค.นี้ ปณิธานระบุไม่เคยเรียกร้องให้องค์กรใดแทรกแซงกิจการภายใน ด้าน ศอฉ.ประกาศคุมธุรกรรมการเงินบุคคล-นิติบุคคล 100 บัญชีรายชื่อ
(16 พ.ค.) เวลา 18.30 น. นายปณิธาน วัฒนายากร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบประกาศ พรก.ฉุกเฉินเพิ่มเติมใน 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี มหาสารคราม ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู สกลนคร
เรื่องที่สอง ครม.มีมติอนุมัติให้วันที่ 17-18 พ.ค.เป็นวันหยุดราชการในท้องที่กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นายปณิธาน กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันปฏิบัติการด้านความมั่นคงในพื้นที่ราชประสงค์ เนื่องจากมีสถานการณ์การชุมนุมที่ขัดกับกฎหมาย ไม่ได้เป็นการคุกคามหรือใช้อาวุธต่อประชาชน ไม่มีเหตุผลใดในการเรียกร้องให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลเรียกร้องให้กลุ่มชุมนุมยุติการกระทำดังกล่าว เรียกร้องให้กลุ่มแกนนำมอบตัวและสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ยุติการกระทำทั้งหมดและหยุดยิง ที่อาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัย
เขากล่าวด้วยว่า แผนปรองดองยังอยู่ ไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านี้ เมื่อบ้านเมืองสงบจะพิจารณาการเลือกตั้งต่อไป ส่วนการเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามานั้น รัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยไม่เคยเรียกร้องให้องค์กรใดมาแทรกแซงกิจการภายใน แต่ก็เป็นห่วงใยเช่นเดียวกับองค์กรอื่น
ศอฉ.ประกาศคุมธุรกรรมทางการเงินบุคคลและนิติบุคคลกว่า 100 บัญชีรายชื่อ
ศอฉ.มีคำสั่งห้ามให้ดำเนินการทางการเงินประกอบด้วยสถาบันทางการเงินตามกฎหมาย ธนาคารที่มีการจัดตั้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย ตลอดจนนิติบุคคลที่รับทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมทางเงิน โดยมีรายชื่อรวม 106 บัญชี
ในจำนวนดังกล่าวเป็นนิติบุคคล 13 ราย โดยมีชื่อของพ.ต.ท.ทักษิณและเครือญาติอยู่ด้วย รวมถึงรายชื่อในพรรคไทยรักไทยและพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลหรือเสธ.แดงรวมอยู่ด้วย