WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 11, 2010

ประเทศไทย “สยามเมืองยิ้ม”?

ที่มา thaifreenews


โดย Porsche


Read more from Uncategorized

เมื่อไม่นานมานี้ Chatham House องค์กรระหว่างที่ไม่แสวงหาผลกำไรและมีชื่อเสียงระดับโลก
ได้ออกเอกสารเกี่ยว กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยความยาว 19หน้า
ซึ่งทางทีมงานของเราได้แปลบทนำเป็นเป็นภาษาไทยมาให้คนไทยได้อ่านกัน มีรายละเอียดดังนี้

ประเทศไทยเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม”
แต่จากเหตุการณ์ความรุนแรงและความไม่สงบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ได้สั่นคลอนภาพลักษณ์ของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศท่องเที่ยวและศูนย์ กลางธุรกิจ
แม้ในปัจจุบันถนนผู้คนในกรุงเทพมหานครได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ
แต่ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาความขัดแย้งได้พัฒนาไปไกลกว่าความขัดแย้งเรื่อง “สี” ที่เกิดขึ้น
ระหว่างเสื้อแดงและเสื้อเหลือง
แต่กลายเป็นเรื่องของความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างกลุ่มอำมาตย์หัวอนุรักษ์ นิยม
ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจเก่า เช่น ผู้ที่มีสายสัมพันธ์ในวัง กองทัพ นักธุรกิจ
และประชาชนที่รู้สึกว่าตนเองได้รับการปฏิบิติเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง

การปราบปรามในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ที่ผ่านมา ถือเป็นชัยของกลุ่มอำนาจเก่า
แต่เป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยราคาที่แพงมหาศาลอย่างชีวิตของประชาชน
และอาคารที่ ถูกเผาทำลายในกรุงเทพมหานคร แม้เหตุการณ์จะสิ้นสุดลง
แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด
เพราะการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม มีการคุกคามสื่อ
และฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล เป็นเหตุให้ประชาชนบางกลุ่ม
หันมาสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
และกลุ่มผู้สนับสนุนได้เปลี่ยนกลุ่มคนเมือง
และชาวชนบทในประเทศไทยให้ กลายเป็นพลังขับเคลื่อนทางการเมือง

จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ก้าวผ่านทักษิณ
และกลายเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทยแทน
การเคลื่อนไหวได้พัฒนาไปสู่ประเด็นของความขัดแย้งทางแนวความคิด
ระหว่างกลุ่ม อำนาจเก่าผู้ซึ่งพยายามต่อสู้เพื่อที่จะรักษาสถานภาพของกลุ่มตน
และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมที่เกิดขึ้นจากกลุ่มคนรักทักษิณ อย่างไรก็ตาม
การที่ทักษิณมีบทบาทสำคัญในกลุ่มผู้ชุมนุม
โดยต้องการจะเรียกคืนทรัพท์สิน
และอำนาจทางการเมืองของตนคืน เป็นการอุปสรรคต่อการพัฒนาความการชุมนุมไปสู่
การเรียกร้องประชาธิปไตยและ ความเป็นธรรม
แต่เราไม่สามารถกล่าวโทษทักษิณว่าเป็นสาเหตุของความไร้เสถียรภาพที่กำลัง เกิดขึ้น
ในขณะนี้ได้ทั้งหมด การเพิกเฉยต่อสาเหตุแท้จริงที่เป็นต้นเหตุของการประท้วงนี้
และความจำเป็นที่ จะต้องแก้ปัญหานี้โดการปฏิรูปโดยกลุ่มอำนาจเก่า
ทำให้ความแตกแยกทางชนชั้นเลวร้ายขึ้น ทักษิณ
และกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณจึงยกช่องว่างทางการเมืองตรงนี้มาเล่น งานกลุ่มอำนาจเก่า

การปฏิรูปการเมือง สังคมและเศรษฐกิจที่จริงจัง รวมถึงมีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว คือ
โอกาสที่ดีที่สุดของกลุ่มอำนาจเก่าที่จะรักษาสถานภาพของตนเอง
การที่รัฐบาลสัญญาจะแก้ปัญหาความเป็นธรรมในสังคม ปฏิรูปการเมือง
และตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นกลางขึ้นมาสอบสวนกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้น นั้น
ดูไม่มีความจริงใจ
เพราะรัฐบาลยังใช้กำลังทหารในการแก้ไขปัญหา ปิดกั้นคุกคามสื่อของฝ่ายตรงข้าม
และไม่มีความพยายามจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
กลุ่มคนเสื้อแดงแสดงความไม่เห็นด้วยกับแผนการปรองดองของรัฐบาล
เนื่องจากไม่ มีความจริงใจและลำเอียง ประชาคมโลกควรพิจารณาบทบาท
ในการช่วยเชื่อมต่อความแตกแยกนี้ แม้อาจจะไม่สามารถกระทำได้โดยทันที
เพราะความเปราะบางของสถานการณ์ในปัจจุบัน
แต่มิตรประเทศที่สำคัญอย่าง อเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร
และออสเตรเลียควรจะหาโอกาสที่จะหว่านล้อมผู้นำประเทศไทย
ในเห็นถึงประโยชน์ ของการปฏิรูปประเทศในอนาคต
เพราะหากปราศจากการปฏิรูปแล้ว อนาคตของประเทศดูเหมือนจะสิ้นหวัง
สภาวะทางเศรษฐกิจและสถานภาพในภูมิภาคของประเทศไทยมีแต่จะเสื่อมถอย
และประเทศตะวันตกอาจจะสูญเสียมิตรประเทศที่ครั้งหนึ่ง
เคยมีความมั่นคงและ เสถียรภาพในภูมิภาค


http://robertamsterdam.com/thai/?p=276