WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 9, 2010

ฤดูการซื้อขายตัว ส.ส.?

ที่มา ไทยรัฐ


บทบรรณาธิการ

ไม่ทราบว่าคนไทยส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร? เมื่อมีการเปิดโปงเรื่องการซื้อและขายตัว ส.ส. ในขณะที่ฤดูการเลือกตั้งกำลังก้าวเข้ามา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้รับคำบอกเล่าจาก ส.ส.บางคน ระบุว่า มีพรรคบางพรรคเสนอขอซื้อตัว ส.ส.พรรคอื่น เป็นเงินถึง 50 ล้านบาท โดยจ่ายมัดจำไว้ก่อน 20 ล้านบาท และค้างไว้ 30 ล้านบาท

คนไทยที่ได้ฟังข่าวการซื้อขายตัว ส.ส.ในตลาดการเมือง บางคนอาจจะคัดค้านไม่เห็นด้วย บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางคนอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การย้ายพรรคของ ส.ส.เป็นเรื่องธรรมดา และวิถีทางการเมืองอาจจะเป็นความจริง แต่เป็นเรื่องธรรมดาแต่เฉพาะนัก การเมืองไทย ซึ่งเปลี่ยนพรรคทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่ "ชายสามโบสถ์"

การย้ายพรรค หรือการ "ดูด" ส.ส.จากพรรคอื่น อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเมืองไทย และเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติมาช้านาน แม้แต่ในยุคสมัยที่อ้างว่าพรรคการเมืองได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมาก จนชนะเลือกตั้งท่วมท้น และจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียว แต่ก็ไม่ใช่ชัยชนะที่เป็นไปตามธรรมชาติ เบื้องหลังของชัยชนะคือ การ "ดูด" ส.ส.พรรคอื่น และบีบให้พรรคอื่นยุบพรรคเพื่อรวมกับพรรคของตน

แต่การเปิดโปงว่าในยุคสมัยปัจจุบัน มีการกว้านซื้อ ส.ส.ถึงหัวละ 50 ล้านบาท ชาวบ้านหรือนักการเมืองอาจเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความเห็นอย่างไร? ในฐานะองค์กรอิสระ ผู้มีอำนาจกำกับดูแลและตรวจสอบรายรับและรายจ่ายของพรรค และดูแลการเลือกตั้งให้ สุจริตและเที่ยงธรรม กกต.อาจจะบอกว่าการซื้อขาย ส.ส.ไม่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ กกต.

แต่การซื้อและขายตัวของ ส.ส. ต้องเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ กกต.ไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อ ส.ส.หรือผู้สมัคร ส.ส.ขายตัวได้เงินมาถึง 50 ล้านบาท เขาจะต้องทุ่มเงินซื้อเสียงอย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อให้ชนะเลือกตั้งและเป็น ส.ส.ต่อไป ส่วนพรรคการเมืองที่กล้าทุ่มเงินซื้อ ส.ส.ถึงหัวละ 50 ล้านบาท ก็จะต้องใช้อำนาจหน้าที่ โกงเงินงบประมาณแผ่นดิน หรือรีดไถพ่อค้านักธุรกิจ โดยเอาสัมปทานของรัฐเข้าแลก

ในการแสดงปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย พูดจากประสบการณ์การเมืองกว่า 40 ปี ว่า "ในสภามากกว่า ครึ่งมาจากการซื้อเสียง" และการทุจริตโกงกินก็ตามมา ในอดีต เคยมีข่าวอื้อฉาวเรื่อง ส.ส. ขายตัว แต่ก็เป็นเพียงการยกมือแลกเงินไม่มากนัก แต่ ส.ส.บางคนก็ถูกลงโทษด้วยการจารึกชื่อประจานบนหนังสุนัข บางคนถูกขับออกจากพรรค

การซื้อและขายตัวของ ส.ส. เป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส่งเสริมการซื้อเสียง การทุจริตโกงกินของนักการเมือง และทำลายระบอบประชาธิปไตย หัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค ที่ซื้อตัว ส.ส.นับสิบๆล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนและรู้เห็นเป็นใจในการซื้อเสียง และทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในด้านอื่นๆ จึงไม่ควรโวยวายถ้าพรรคโดนยุบ และกรรมการพรรคโดนใบแดง.