WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, August 13, 2010

เจาะเบื้องหลัง เพื่อไทย ปรับฮวงจุ้ยหนี จากตึก "พายัพ" กลับตึก "พจมาน" ล้างอัปมงคล



อาคารคับแคบ หรือ ฮวงจุ้ย ไม่ดีกันแน่ ?

เตรียมย้ายรัง อีกครั้ง

อาคารไอเอฟซีที ของคุณหญิงอ้อ ตั้งอยู่บนถนนเพชร(บุรีตัดใหม่)

เร็วๆ วันนี้ พรรคเพื่อไทย จะย้ายออกจากถนนพระราม 4 กลับไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จากสำนักงานของ"พายัพ ชินวัตร" กลับไปอาคาร ไอเอฟซีที ของ คุณหญิงอ้อ เบื้องหลังการย้ายรัง คืออะไร "ประชาชาติธุรกิจ"มีเบื้องหลังมานำเสนอท่านผู้อ่าน ดังนี้

....................
อีกไม่เกิน 15 วัน พรรคเพื่อไทยจะย้ายที่ทำการพรรค ปรับฮวงจุ้ยใหม่...อีกครั้ง

โดยย้ายจาก อาคารบีบีบิวดิ้ง ย่านถนนพระราม 4 ที่มีอดีตเจ้าของชื่อ "พายัพ ชินวัตร"

กลับไปอยู่ทีอาคารไอเอฟซีที. หรือชื่อใหม่คืออาคารโอเอไอ. ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่เคยมีเจ้าของชื่อ "พจมาน ชินวัตร" อดีตที่ทำการพรรคพลังประชาชน และพรรคไทยรักไทย

เหตุผลในการย้าย อย่างเป็นทางการคือ อาคารเดิมคับแคบ-ไม่สะดวก

ข้อมูลจากกรมบังคับคดีและศาลล้มละลายกลาง ระบุว่า บริษัทในเครือของ"พายัพ"ในอาคารเลขที่ 626 ถนนพระราม 4 หรือ อาคารพรรคเพื่อไทย ถูกศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หลายบริษัท !!!


เหตุผลตามหลัก "ฮวงจุ้ย" ที่กรรมการบริหารพรรคบางคนพูดเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจคือ ที่ทำการพรรคใหม่ มีชื่อ "เพชร" เป็นชื่อถนน(เพชบุรีตัดใหม่ ) ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่า มีความแข็งแกร่ง

แต่เหตุผลที่ถกเถียง-ปรึกษาหารือกันในบรรดาคณะผู้บริหารพรรคคือ "ฮวงจุ้ย" และผู้มีอำนาจจริงในพรรค ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า "ฮวงจุ้ย" ที่ตึกไอเอฟซีที.เก่าดีกว่า

อีกประเด็นที่เป็นน้ำหนักในการย้ายพรรคคือย้ายออกจาก "ความอัปมงคล" ในตึกเก่า เพราะที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรม 7 วัน 7 ความเจ็บปวด ได้มีการแสดงนิทรรศการ "เหมือนจริง" มีเลือดจริง สีเสียงปืนคล้ายเสียงยิงจริงๆ และมีภาพคนตายที่อุจาดตา เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีการ "ติดโบสีดำ" ทั่วทั้งพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางเข้าอาคาร-บันใด-หน้าลิฟต์ และบรรไดเลื่อน ทำให้เกิดความอัปมงคล และเกิดอาการหลอน และตามความเชื่อของ "เจ้าของตึก" ที่เห็นว่า "สีดำ-โบดำ" เป็นความอัปมงคล ทำให้เกิดความมัวหมอง มีแต่ความตกต่ำ ทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่รุ่งเรือง

วาระการย้ายพรรค-ปรับฮวงจุ้ย ออกจากความอัปมงคล จึงเกิดขึ้น พร้อมๆกับการปรับหัวหน้า "ก๊ก" หัวหน้า "มุ้ง" ต่างๆ ใหม่อีกครั้ง และหากมีการเจรจาลงตัว ก็จะมีการปรับ-เปลี่ยน "หัว" หมายเลขหนึ่ง ของพรรคอีกครั้ง

นอกจากจะปรับฮวงจุ้ย-พรรคเพื่อไทย อาจเปลี่ยนหัวหน้าพรรคด้วย

ทางหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาทางโหราศาสตร์ ทางหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาคณิตศาสตร์การเมือง ที่เคยมีสมการว่า "เพื่อไทยแม้ชนะเลือกตั้ง ก็ไม่อาจเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล"

ดังนั้น การรีแบรนด์ ปรับเปลี่ยนทั้งที่ตั้ง-ทั้งหัวหน้า-ทั้งหัวหน้าก๊ก อาจทำให้พรรคเพื่อไทยไฉไล กว่าเก่า

อย่างน้อยก็มีการเปิดตัว "พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร" เตรียมลงรับสมัคร ส.ส.ในจังหวัดราชบุรี เพื่อเชื่อมไปยังหัว-ตัวจริง ที่รอจังหวะ-เวลา ที่เป็นฤกษ์งามยามดี

ชื่อ "พล.อ.ชัยสิทธิ์" แม้เคยถูกปฏิเสธจาก "นายหญิง" แต่การกลับมาเปิดตัวรอบใหม่ ภายใต้การสนับสนุนหน้าฉาก ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พ.อ.อภิวันท์ วิริยชัย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ ทีมภาคกลาง อาทิ ไชยยา สะสมทรัพย์ อาจทำให้คนเบื้องหลัง-จากต่างประเทศเห็นประโยชน์

พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร-ศึกษาข้อมูลพื้นที่ไว้ล่วงหน้า-ประกาศบนเวทีปราศรัยในพื้นที่ราชบุรี ว่า คนในราชบุรีไม่ได้รับการเหลียวแล จากส.ส.ในพื้นที่ ปล่อยให้ชาวบ้านอยู่ตามยถากรรม

"ไม่ได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับการทำการเกษตร ทั้งๆที่ราชบุรีมีของดีหลายอย่าง เป็นเมือง เศรษฐีตัวยง ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า ของตก ไม่ต้องเก็บ"

"ส่วนตัว มาคิดว่าบั้นปลายชีวิตจะช่วยเหลือประเทศชาติอย่างไร และเห็นว่า ส.ส. ราชบุรีในอดีตไม่ได้มีวิสัยทัศน์ ที่จะนำความเจริญ มาสู่ท้องถิ่น"

"วันก่อนผมไปสวนผึ้ง ก็เห็นว่าเป็นสถานที่มีศักยภาพควรพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะบรรยากาศเหมือนปากช่อง อากาศเย็น แต่ตอนนี้มีป้ายขนาดใหญ่ ติดอยู่ทำให้เสียบรรยากาศ นอกจากนั้น หากมีโครงการเปิดด่านแม่สอด, สระแก้ว ถ้าเจาะไปทวาย ใครๆ ก็ต้องผ่านราชบุรี ดังนั้น ต้องเลือกเราเป็นรัฐบาล"

ในฐานะคนจากตระกูล "ชินวัตร" ต้องส่งสัญญาณให้ชาวบ้าน และเจ้าของพรรค ได้รับทราบ การลงพื้นที่-ทำหน้าที่ทวงอำนาจคืน "พล.อ.ชัยสิทธิ์" จึงต้องปราศรัยไฟต์บังคับถึง "ทักษิณ"

"หลวงปู่โต ทำนายว่า สมัยนี้เป็นถิ่นกาขาว เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ใครทำชั่วได้รับการสรรเสริญ ใครทำดี เขาไม่ยกย่องและกลับให้ไปอยู่ต่างประเทศ" พล.อ.ชัยสิทธิ์-อุปมาอุปมัย

ท่ามกลางกระแสการดูด ส.ส. ออกจากพรรคเพื่อไทย การตักปลาจากบ่อเพื่อน ย้ายจากพรรคใหญ่ไปอยู่พรรคใหม่ และอยู่ในขั้วของรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนตัว-เปลี่ยนหัวหน้าพรรค-สลับหัวหน้าก๊ก ปรับโครงสร้างพรรคของเพื่อไทย

กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 1 ใน 13 คน ซึ่งถูกจัดให้เป็น "ทีมซี-แถวสาม" เป็นตัวสำรองเกือบทุกแมตต์ ในการแข่งขัน วิเคราะห์ ว่า "ราคาการย้ายพรรค ช่วงนี้ยังไม่พุ่งติดเพดาน แต่จะพุ่งทะลุเพดาน ช่วงก่อนการเลือกตั้ง"

และถ้าใครไม่แคร์กระแส และราคาการต่อรองกับหัวคะแนน และการโหวตในพื้นที่ ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจไปร่วมงานกับภูมิใจไทย

การปั่นราคา ซื้อ-ขายตัวของ ส.ส. ถึงจะมีความหวือหวาจากระดับราคา 20 ล้านบาท พุ่งเป็น 50 ล้านบาท แต่การต่อรองนี้จะค่อยๆ หายไปจากกระดานการซื้อ-ขาย เพราะคนในพรรคเพื่อไทย ยังมีความเชื่อว่า "หากไม่ใช่พวกทักษิณ ก็จะสอบตก"

ข้อวิเคราะห์ของ คนวงใน-เพื่อไทย บอกว่า "หมัดเด็ดไม้ตาย ของการ ย้ายพรรค จึงไม่ได้อยู่ในจังหวะเวลาขณะนี้ ที่ยังไม่มีการประกาศวันเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกตั้งจากสาเหตุการครบวาระ หรือยุบพรรค-ยุบสภา แต่เงื่อนไขที่น่าสนใจคือ หาก ส.ส. ปัจจุบันและ ว่าที่ผู้สมัคร ในอนาคต ยังแสดงความภักดี เป็นสมาชิกพรรค ภายใต้ร่มเงากลุ่มก๊วนของ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ในสังกัดเสื้อแดง-นปช.ก็มีโอกาสได้เป็น ส.ส.มากกว่า"

สมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงประกาศล่วงหน้าว่า หากใครย้ายพรรค ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ให้เตรียมพบกับ คีย์เวิร์ดในการหาเสียงจากฝ่ายเพื่อไทยว่า "เป็นพวกทรยศ หักหลัง"

การย้ายที่ทำการพรรค-ปรับฮวงจุ้ย ทางหนึ่ง มีกรรมการบริหารพรรค บอกว่าอาจเกี่ยวข้องกับการคดียุบพรรคเพื่อไทย

เหตุผล-ความเป็นไปได้ของคนแถวสาม-ทีมซี-ตัวสำรอง ในเพื่อไทย วิเคราะห์ "ยุบเพื่อไทย" ด้วย 2 เหตุผล

เหตุที่ 1 ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น ก่อนหรือหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมา การยุบแต่ละพรรคที่ผ่านมานั้น มุ่งหวังที่จะเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของบรรดาบุคคลระดับกรรมการบริหารพรรค ให้หมดคุณสมบัติพื้นฐานของการมีสิทธิทางการเมืองอื่นๆ ตามมา ในแง่นี้ จึงไม่ได้อยู่บนสมมุตติฐานว่า การยุบพรรคเป็นไปเพื่อ ต้องการทำลายล้างสถาบันพรรคการเมือง มากเท่ากับการจำกัดบทบาทกลุ่มบุคคล ไม่ให้มีบทบาทหน้าฉาก ทางการเมือง ออกไป 5 ปี

เมื่อพิจารณาจากแนวความคิดเช่นนี้ บวกกับข้อเท็จจริง จากรายชื่อของกรรมการบริหารพรรคในปัจจุบัน ซึ่ง ไม่มีใครที่มีบทบาทให้เห็นเด่นชัดพอที่จะถูกกำจัดออกฟไป พรรคเพื่อไทยจึงไม่น่าถูกยุบด้วยเหตุไม่มีเป้าต้องถูกทำลายในระดับกรรมการบริหารพรรค

เหตุที่ 2 คือ จังหวะที่พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ มีความเป็นไปได้อีกครั้ง ในช่วงหลังเลือกตั้ง ที่บรรดาผู้สมัครทั้งอดีต ส.ส. และ ผู้สมัครหน้าใหม่ ผ่านด่านได้เข้ามาเป็น ชุบตัวเข้าสภา ได้เป็น ส.ส.เรียบร้อย ปัญหาเรื่องสังกัดพรรคไหน อันเป็นจุดขายในการหาเสียง เริ่มหมดความสำคัญลงไป ความเป็นพรรคเพื่อไทย ก็อาจต้องถูกยุบไป โดยความต้องการสลายความเป็นพรรคการเมืองมากกว่าสลายกลุ่มบุคคลผู้เป็นกรรมการบริหารพรรค

"เพราะ หากถึงวันนั้น ภาพของส.ส. ที่แตกกระจาย เป็นผึ้งแตกรัง ย่อมบินไปซบพรรคขนาดกลาง หรือพรรคขนาดใหญ่ฝ่ายตรงข้าม โดย ไม่ต้องแคร์ ข้อครหา ทรยศทักษิณ อีกต่อไป"

การปรับฮวงจุ้ย-หนีความอัปมงคล-ดับข่าวการย้ายพรรค ปรับโครงสร้างพรรค เปลี่ยนตัวหัวหน้าก๊ก หาตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ อาจทำให้พรรคเพื่อไทย ได้รับข่าว "มงคล" เพิ่มขึ้นบ้าง