ที่มา มติชน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่รัฐสภา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงว่า ได้ทำจดหมายถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้พิจารณาตอบข้อซักถามกรณีที่ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลหักทรัพย์ จึงขอคำตอบจากนายธาริตใน 6 ข้อ คือ 1.คดีดังกล่าวนอกจากเป็นความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมายอื่นอีก ทางดีเอสไอ พิจารณาด้วยหรือไม่ 2.ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องใครบ้าง ในความผิดฐานใดและมาตราใดของกฎหมายบ้าง 3.ที่สั่งไม่ฟ้องเพราะเหตุใด น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า 4.กรณีดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีความเห็นว่าเป็นความผิด และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด(อสส.) พิจารณา ก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ไปแล้ว ดีเอสไอได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างไรบ้างหรือไม่ 5.คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนครบถ้วนรอบด้านหรือไม่ และ 6.ในฐานะที่นายธาริตเป็นอธิบดีดีเอสไอ และหัวหน้าพนักงานงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีความเห็นทางคดีสั่งไม่ฟ้องใช่หรือไม่อยากให้ตอบคำถามทั้ง 6 ข้อเพื่อความกระจ่าง ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีพรรค พท.ตั้ง 6 ประเด็นคำถามถึงกรณีสั่งไม่ฟ้องบริษัททีพีไอ โพลีนฯว่า ตนยังไม่ได้รับจดหมายลงทะเบียนกรณี 6 ประเด็นคำถามของพรรคเพื่อไทย จึงขอรอจนกว่าจะได้เห็นรายละเอียดในเนื้อหาของจดหมาย จากนั้นจึงจะอธิบายและให้คำตอบได้เป็นรายคำถาม ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีไซฟ่อนเงินบริษัททีพีไอ ฑลีนฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนชุดเดิมมุ่งสอบสวนในประเด็นปลายทางคือ ต้องสงสัยว่าเงินถูกโอนไปให้คนใกล้ชิดพรรค ปชป.และแยกส่วนคดีส่งสำนวนพร้อมหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองให้กกต. ไปตั้งแต่ต้น ขณะที่คดีความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นความผิดหลักและเป็นต้นทางของเรื่อง การสอบสวนของพนักงานสอบสวนชุดเดิมไม่มีความคืบหน้า เมื่อตนได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดใหม่ จึงเข้าไปตรวจสอบหลักฐานทางบัญชี พบว่ามีการจ้างงานบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัดจริง มีการลงรับทางบัญชี พยานหลักฐานในคดีฟังไม่ได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯจึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และเสนออธิบดีดีเอสไอ ซึ่งก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องตามพนักงานสอบสวน ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรค พท. และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงคดียุบพรรค ปชป. ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โทรศัพท์ไปหานายประจวบ สังข์ขาว พยานปากสำคัญในคดีนี้ ตนจะบอกเบอร์โทรในวันถามกระทู้ด้วย พฤติกรรมของนายพีระพันธุ์เป็นมดลอบกัด นอกจากนี้ดีเอสไอ ยังนำข้อมูลเรื่องพยานที่อยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน นำไปมอบให้กับทีมกฎหมายพรรค ปชป.ในการซักค้านคดียุบพรรคด้วย เมื่อถามว่า ทราบข้อมูลการโทรข่มขู่นายประจวบหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า จะข่มขู่หรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เป็นหน้าที่อะไรของนายพีระพันธุ์ เพราะนายพีระพันธุ์ไม่ได้เป็นทีมกฎหมายหรือเกี่ยวข้องใดๆ กับนายประจวบ แล้วนายพีระพันธุ์โทรไปในฐานะอะไร ไม่แน่ใจว่าคำให้การของนายประจวบหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่นายประจวบเคยให้การกับดีเอสไอและ กกต. โดยมีการบันทึกวิดีโอหมดแล้ว ดังนั้นหากนายประจวบกลับคำให้การ ก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพรระบุว่านายพีระพันธุ์ โทรศัพท์ติดต่อกับนายประจวบ สังข์ขาว ว่า “ไม่ทราบเลยครับ พรรคชัดเจนอยู่แล้ว ผมประชุมกับคณะทำงานด้านกฎหมาย เราก็สู้ไป โดยเอาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงให้ดีที่สุด” นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรค ปชป. กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดียุบพรรคในการไต่สวนนัดที่ 2 ว่า ต้องรอดูคำให้การของพยานฝ่าย กกต. ชุดที่ 2 จำนวน 5 ปากว่าจะออกมาอย่างไร จากนั้นทีมกฎหมายจะประชุมเพื่อเตรียมแก้คำให้การ แนวทางการต่อสู้มีหลากหลาย ในจำนวนนี้จะใช้แนวทางเดียวกับการไต่สวนนัดแรกด้วยการให้ทนายของพรรคซักค้าน โดยมุ่งทำลายน้ำหนักและลดความน่าเชื่อถือของพยานฝ่ายโจทก์ ถือเป็นแนวทั่วไปอยู่แล้ว นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า หากพบว่าพยานฝ่ายโจทก์เป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค ปชป. และยังสร้างข้อมูลเท็จขึ้นมา ความน่าเชื่อถือจะน้อยลง ส่วนที่พรรค ปชป.คัดค้านการให้พยานชุดที่ 2 ร่วมรับฟังการไต่สวนนั้น คิดว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกกต. น่าจะเข้าใจข้อกฎหมายว่าถ้าให้พยานปากหลังฟังพยานปากแรกเบิกความ บุคคลที่ถูกอ้างเป็นพยานปากหลังย่อมต้องเบิกความให้สอดคล้องกับพยานปากแรก ทำให้คิดอยู่เหมือนกันว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ “เท่าที่ทีมกฎหมายของพรรคประเมิน พยานปากสุดท้ายของ กกต. จะขึ้นให้การในวันที่ 6 กันยายน หากพรรคสืบพยานต่ออีก 1 เดือน ก็น่าจะจบที่ 6 ตุลาคม จากนั้นก็ขอแถลงปิดคดีอีก 1 เดือนก็ประมาณ 6 พฤศจิกายน จึงคาดการณ์ว่าศาลน่าจะตัดสินได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
เพื่อไทย
Thursday, August 12, 2010
"จตุพร" ปูด "พีระพันธุ์" โทรหา "ประจวบ" ถามโทรไปในฐานะอะไร เพื่อไทยรุกทำหนังสือจี้ "ธาริต" แจงไม่สั่งฟ้อง
"จตุพร" ปูดพีระพันธุ์โทรหา "ประจวบ" พยานปากเอกคดียุบพรรค ปชป. แฉดีเอสไอ ส่งข้อมูลพยานในโครงการคุ้มครองให้ทีมกฎหมายประชาธิปัตย์ซักค้านคดี พท.ทำหนังสือจี้ธาริต แจง 6 ข้อเหตุสั่งไม่ฟ้อง "ทีพีไอ พลีน" "นิพิฏฐ์" ข้องใจ กกต. ส่งพยานชุดสองฟังคำบอกเล่ามาให้การ คาดศาล รธน.