WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, August 14, 2010

เสียงสะท้อนจาก "เฟซบุ๊ก" หลัง "สกอ." เตรียมคุมเข้มละครเวที นศ. ไม่ได้ "ห้าม" แค่ "เตือน" แต่อย่า "คิดต่าง"

ที่มา thaifreenews


โดย Porsche

อยู่ดีๆ เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องก็กลับกลายมาเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
ส่งหนังสือเวียนลงวันที่ 29 กรกฎาคม ถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ
เรื่องขอความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมทางด้านการเมืองของแกนนำนักศึกษา
มีเนื้อหาระบุว่า

"ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณี
เกี่ยวกับการพิจารณาควบคุมการจัดแสดงละครเวทีทางด้านการเมืองของแกนนำนักศึกษา
สถาบันอุดมศึกษา
เนื่องจากปัจจุบันมีแกนนำนักศึกษา จัดแสดงละครเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็นด้านการเมือง
ในลักษณะบิดเบือนสถานการณ์ทางการเมืองอันเป็นการปลุกระดมยั่วยุ
สร้างความแตกแยกในสังคม ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุความไม่สงบภายในประเทศได้นั้น

สกอ.พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
เกี่ยวข้องกับการบริหารงานภายในสถาบันอุดมศึกษา
ซึ่งเป็นอำนาจของผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมาย
หรือข้อบังคับของแต่ละสถาบันอุดมศึกษา
จึงใคร่ขอความร่วมมือในการควบคุมสอดส่องดูแลการจัดแสดงละครเวที
ให้มีความเป็นกลางทางการเมือง หลีกเลี่ยงการปลุกระดมยั่วยุ
หรือสร้างความแตกแยกในสังคมและสร้างความเข้าใจกับนักศึกษาทุกระดับ

เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดความสามัคคีในสังคมและความสงบสุขภายในประเทศต่อไป"



หนังสือเวียนดังกล่าวของ สกอ. ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์
หรือการแสดงความเป็นห่วงขึ้นอย่างหลากหลาย

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แสดงความเห็นว่า หนังสือดังกล่าวอาจนำไปสู่ปัญหาในทางปฏิบัติของบางมหาวิทยาลัย
ที่อาจตีความถ้อยคำในหนังสือไปในแง่
ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ

นายปริญญาแสดงความห่วงใยว่า
ผู้ใหญ่ไม่ควรกีดกันการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา
และการชอบพูดกันว่าเด็กสมัยนี้ไม่สนใจการเมือง
แต่ไปสนใจเรื่องบันเทิงหรือเรื่องราวไร้สาระอื่นๆ นั้น
บางทีก็อาจเกิดมาจากการที่ผู้ใหญ่มีความกลัวมากเกินไป
จนนำไปสู่การปิดกั้นการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษาในท้ายที่สุด

ด้าน นายอำนาจ เย็นสบาย รองอธิการบดีฝ่ายเครือข่ายเรียนรู้เพื่อสังคม
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ก็ตั้งข้อสังเกตในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ว่า
ถ้ารัฐบาลมีระเบียบออกมาอย่างนี้
จะคล้ายเป็นการย้อนเวลากลับไปในยุคสังคมเผด็จการครั้งอดีต
เพราะในสมัย 6 ตุลาฯ ก็มีการห้าม
และขอความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาไม่ให้นักศึกษาแสดงความเห็นทางการเมืองเช่นกัน

สอดคล้องกับอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตนักศึกษาในยุค 6 ตุลาฯ อีกคน อย่าง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ระบุว่า
การออกหนังสือเวียนของ สกอ. นำไปสู่บรรยากาศที่เหมือนกับ
ยุคก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และยุคหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
ซึ่งรัฐบาลสมัยนั้นพยายามปิดกั้นสิทธิเสรีภาพทางวิชาการของนิสิตนักศึกษา
จนทำให้เกิดความกดดัน บีบคั้น
กระทั่งความรู้สึกร่วมของสังคมปะทุออกมาในการแสดงออกรูปแบบอื่นๆ

ตามความเห็นของนายจาตุรนต์ เรื่องการแสดงละครล้อเลียนนั้น
ถือเป็นการระบายออกตามปกติของสังคมที่ไม่ค่อยจะเป็นประชาธิปไตย
ซึ่งไม่สามารถพูดความจริงได้
แต่ต้องแสดงความเห็นออกมาในแนวล้อเลียน เสียดสี
ด้วยเหตุนี้ ยิ่งรัฐบาลไปปิดกั้นหรือกดดันการล้อเลียนเสียดสีดังกล่าว
ก็จะยิ่งทำให้นิสิตนักศึกษาหันไปแสดงออกในรูปแบบอื่น
หรือมีความกล้าคิดกล้าทำ กล้าเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น

ส่วนนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่าง
นายภัทรนันท์ ลิ้มอุดมพร ได้แสดงความเห็นว่า การส่งหนังสือเวียนดังกล่าว
หากมองในมุมของรัฐ
ก็ถือเป็นการออกคำสั่งควบคุมไม่ให้บุคคลแสดงออกทางความคิดผ่านงานศิลปะ
อย่างการแสดงละครเวที
ซึ่งอาจถูกรัฐมองว่ามีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม
ทั้งที่นักศึกษาเพียงแค่จะพยายามนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเมืองผ่านการแสดงละครเวที
โดยไม่มีนัยยะอื่นใดแอบแฝงอยู่

ขณะที่ น.ส.วริศรา ดำรงเวช นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
นักแสดงละครเวที เรื่อง "แสงศรัทธาเหนือลำน้ำเจ้าพระยา" ที่มีเนื้อหาสะท้อนภาพ
การเมืองไทยยุคหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475
ผ่านชีวิตตัวละครผู้หญิงหลากหลายกลุ่ม
โดยมีตัวละคร "ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์" เป็นศูนย์กลางของเรื่อง
ซึ่งท้าทายแม่บทประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่อย่างน่าสนใจ
ก็สรุปความเห็นไว้อย่างหนักแน่นว่า

การควบคุมหรือจำกัดสิทธิของนักศึกษาในเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
ยิ่งจะทำให้เด็กเกิดความต่อต้าน และอยากจะแสดงออกมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้อยู่ในแวดวงละครเวทีของนักศึกษา เชื่อกันว่า
ละครเวทีที่ทำให้มีผู้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง สกอ.
จนนำมาสู่การออกหนังสือเวียนอันถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น
น่าจะเป็นผลงานละครเรื่อง
"ดาลิต...ผู้เป็นที่รัก"
โดยนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ซึ่งจะเปิดแสดงในช่วงเดือนกันยายนนี้

ละครเวทีเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ "อตุล" ตัวแทนของมนุษย์ที่ถูกตีค่าจากสังคมอินเดีย
ในยุคก่อนว่าเป็นพวก "จัณฑาล" จนถูกข่มเหงเหยียดหยันจากผู้คนที่เชื่อว่า
ตนมีวรรณะ คุณธรรม อำนาจ ความมั่งคั่ง และความแข็งแรงสูงกว่า
อตุลตัดสินใจกล้าลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่แตกต่างจากจารีตและความเชื่อของผู้คน
ทว่าสิ่งที่ตามมา คือ
ความเกลียดชัง การแบ่งแยก ความสูญเสีย และกลับกลายเป็นความไร้ค่าเช่นเดิม

วันเวลาผันผ่านไปจนบ้านเมืองเปลี่ยนมาปกครองในระบอบ "ประชาธิปไตย"
แต่ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ยังคงอยู่
เหล่า "จัณฑาล" เลือดใหม่จะทำอย่างไร หรือต้องใช้เลือดรดพื้นดิน?



พ้นออกไปจากพื้นที่ของสื่อกระแสหลัก หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวของ สกอ.
ก็ได้ก่อให้เกิดเสียงสะท้อนกลับอย่างมากมายจากสมาชิกของชุมชนออนไลน์เฟซบุ๊กเช่นกัน
ซึ่งปรากฏทั้งในรูปแบบขำขันและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจริงจัง อาทิ

"กลัวกระทั่งละครนักศึกษา หึๆ"

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 1 - "คงไม่ต้องถามแล้วว่าวันนี้
เรากำลังมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาคิดแบบไหน ที่น่าสงสัยคือ ต่อไปจะต้องเจออะไรอีกบ้าง")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 2 - "และคาดว่าละครเวทีเรื่อง ดาลิต
ของวารสารฯ ธรรมศาสตร์ น่าจะเป็นเชื้อไฟสำคัญที่ทำให้ออกมาเต้นเร่าๆ กัน
ว่าแล้วก็ไปดูละครเวทีเรื่องนี้กันดีกว่า หมั่นไส้หนังสือเวียน ชิ")

"ถึงเพื่อนๆ น้องๆ วารสาร มธ. - ข่าวนี้เป็น "ดาลิต เอฟเฟ็กต์" หรือเปล่าเนี่ย?"

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 1 - "คิดในแง่ดีนะ..ถ้าเค้าร้อนตัว
เพราะดาลิตจริง แสดงว่าละครเราต้องดีมากๆ และเนื้อหาฉลาดสุดๆ")

"เพิ่งได้รับโทรศัพท์จาก... ว่าสรุปแล้วข่าวที่มติชนลงเรื่องละครเวทีการเมืองนั้น
เป้าหมายสำคัญในการจับตามองอยู่ที่ "ดาลิต" ของวารสาร มธ.
และละครเวทีของ ม.กรุงเทพ เรื่องหนึ่ง"

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 1 - "ทำเอาข้าพเจ้าอยากดูดาลิตเลย ฮ่าๆๆ")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 2 - "ชักอยากดูขึ้นมาเลย 555")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 3 - "ดีจัง โปรโมตให้ฟรี")

"การควบคุมการแสดงออกของนักศึกษาที่ขยายวงจากเรื่องการเมืองเป็นการแสดงละครแบบนี้คือ
ตัวอย่างว่ารัฐเดินหน้าควบคุมความคิดของสังคม
คำถามไม่ใช่อยู่ที่ระบอบปัจจุบันเลวร้ายแค่ไหน
แต่คือระบอบจะเดินหน้าเลวร้ายต่อไปอีกไกลขนาดไหนจนถึงจุดที่มืดมิดที่สุดของมัน"

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 1 - "มืดที่สุดก็หมายความว่าใกล้สว่างแล้ว
อย่ากลัวที่จะมืดกว่านี้ เพราะความสว่างมันกำลังมาเยือน")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 2 - "น่าสนใจว่าละครเวทีนักศึกษาโดนเล่นก่อนหนังสั้น
(ทั้งที่ประเด็นบางอย่างในหนังสั้นน่าจะไปไกลและเล่นแรงกว่า) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ
1.ละครเวทีดูเป็นกิจกรรมที่แมสกว่าในสายตาของรัฐและสังคม?
2.รัฐยังติดกับความหลังเรื่องละครแขวนคอ? ฯลฯ")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 3 - "มันมาใกล้เราเข้าไปทุกทีๆ
การแสดงเสร็จก็จะต่อด้วย หนัง และ ทัศนศิลป์")

(บทสนทนาโต้ตอบกับสถานะดังกล่าว 4 - "สงสัยนี่เป็นขั้นตอนแรกของการปฏิรูปสื่อครับ...ฮา")

"ประโยคอมตะของ "ผู้ใหญ่ไทย" สไตล์คนดีศรีประเทศ "ไม่ได้ห้ามหรอกจ้ะ
แค่เตือนๆ จ้ะ (แต่อย่าทำนะมรึง คิดต่างจากกรูมรึงตาย)" "

http://info.matichon.co.th/weekly/member/wk_txt.php?srctag=MTIxMzA4NTM=