โดย คำมา คนเมือง
12 สิงหาคม 2553
เพื่อนพี่น้อง ญาติมิตร คนเสื้อแดงเชียงใหม่ ทุกๆท่าน
ขณะนี้เมฆหมอกร้ายที่ปกคลุมประเทศไทยอยู่ทั่วแผ่นดินนี้ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่บ้านเรา ในนาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันแผ่ขยายครอบคลุมกดทับอยู่ในจิตใจของเราและของท่านทั้งหลาย จนเกิดความหวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
ความจริงที่เห็นกันอยู่เต็มสองหูสองตา ที่ว่าพวกเราคนเสื้อแดงผู้รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย อยากเห็นประเทศชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง สร้างสรรค์สังคมให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข สืบทอดกันไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
พวกเราได้ออกจากบ้านจากเรือนไปไกลถึงกรุงเทพฯ ไปเพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้ได้รับรู้รับทราบว่าพวกเราต้องการความเป็นธรรม โดยขอให้เริ่มต้นที่การเลือกตั้งกันใหม่ เพื่อที่จะได้รัฐบาลที่มีความชอบธรรม เข้ามาบริหารบ้านเมืองโดยผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชนโดยตรง
เพื่อสร้างความสมานฉันท์โดยเป็นการตัดสินใจของประชาชน ไม่ใช่การเป็นรัฐบาลที่มาจากการปล้นอำนาจของประชาชน โดยการช่วยเหลือจากเหล่านายทหารที่ทำการรัฐประหารล้มประชาธิปไตยมาก่อนหน้า
ซึ่งการมาเป็นรัฐบาลครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็คือวิธีของการร่วมมือกับทหารในการปฏิวัติเงียบนั่นเอง
และเมื่อเราคนเสื้อแดงทั่วประเทศพากันไปเพื่อเรียกร้องหาประชาธิปไตย เรียกร้องหาความเป็นธรรมและความยุติธรรมในสังคม ประชาชนคนเสื้อแดงเรากลับได้รับกระสุนปืนและการเข่นฆ่าสังหารอย่างโหดเหี้ยมจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชิดชูคำขวัญว่าเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย นายกฯชูคำขวัญว่าประชาชนต้องมาก่อน
แต่เมื่อเราเป็นประชาชนคนเสื้อแดงสิ่งที่เราได้รับก่อนก็คือความตายจากห่ากระสุนและแก็สน้ำตา จากการเข่นฆ่าสังหารอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณีจากทหารที่รับคำสั่งจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ คนเสื้อแดงเราถูกฆ่าไปตามข่าวเกือบร้อยศพ แต่ที่ไม่เป็นข่าวจะมีอีกมากมายขนาดไหน
แกนนำที่ถูกจับกุมโดยถูกกลั่นแกล้งให้ได้รับความอับอายใส่ร้ายด้วยข้อหาผู้ก่อการร้าย คนเสื้อแดงหลายร้อยคนถูกจองจำโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือดูแลตามกฎหมาย
และกับคนเสื้อแดงที่หนีไปอาศัยวัดปทุมฯเพื่อหลบภัย ก็ต้องหนีตายจากการไล่ล่าสังหารจากฆาตกรมือปืนในเครื่องแบบ ที่สืบค้นไล่ล่าหาคนจากบัตรประชาชนที่ยึดไป จนถึงกับต้องหนีตายเข้าป่าไปมากมาย บางคนต้องหนีตายไปอยู่ถึงต่างประเทศ
นอกจากทั้งความตาย ทั้งถูกจับกุม ทั้งถูกไล่ล่าแล้ว คนเสื้อแดงที่หลงเหลือทั้งหมดยังถูกกดดันด้วยกฎหมายสารเลวในนาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มันเอามาใช้บังคับต่อพวกเราให้หวาดกลัว
เพื่อนพี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลาย เพื่อเพื่อนของเราที่ต้องตายไปอย่างน่าเวทนา เพื่อเพื่อนของเรา แกนนำของเรา ที่ถูกจองจำอย่างน่าอดสูและสิ้นหวัง เพื่อเพื่อนของเราที่บ้านแตกสาแหรกขาด ครอบครัวอกสั่นขวัญแขวน ต้องทิ้งบ้านทิ้งเรือนหนีตายเข้าป่า ต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติสารพัด ขาดทั้งความสุขในชีวิต ขาดทั้งหยูกยาอาหาร
และเพื่อเพื่อนของเราที่ต้องหนีตายไปอาศัยอยู่กับพี่น้องต่างประเทศ เราจะมามัวหวาดกลัวเช่นนี้อีกไม่ได้แล้ว หากเราคนเสื้อแดงยังหลบลี้หนีหน้า ชะตากรรมของเพื่อนตายของเราจะยิ่งเลวร้ายลงไปขนาดไหน
ความอยุติธรรมที่คนเสื้อแดงได้รับนี้เราจะประกาศความจริงที่เกิดขึ้นให้โลกรับรู้ได้อย่างไรกัน ถ้าหากเรายังเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขส่วนตัว ลืมเลือนความทุกข์ระทมที่เราได้ต่อสู้อย่างยากลำบากร่วมกันมา
เราต้องออกมารวมตัวกันใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยอำนาจของประชาชน จงอย่าได้เกรงกลัวต่อการข่มขู่ของปีศาจที่มันใช้อำนาจเถื่อนมาบีบบังคับ อย่างเช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันจะใช้ได้ก็แต่คนที่กลัวมัน
และในขณะนี้เราก็ได้เห็นตัวอย่างแล้วว่าคนที่ไม่กลัวมัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ไม่ต่างกับผีที่ไม่เคยมีตัวตน ตัวอย่างเช่นพวกเดียวกันกับเราคนเสื้อแดง คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” ที่ออกมานำเป็นตัวอย่างให้พวกเราเห็นถึงความกล้า ออกมาต่อสู้กับอำนาจเถื่อนจนมันไม่อาจทำอะไรกับเขาได้
เพราะเขาใช้คาถาสันติวิธีและความกล้าหาญนำหน้า หรือแม้แต่กลุ่มพันธมิตรก็ไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายอันใดในวันที่พวกเขาออกมาประท้วงปิดถนนที่กรุงเทพฯ เพราะพวกเขาไม่กลัวอำนาจเถื่อน พ.ร.ก ฉุกเฉิน คงมีแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ต้องกลัวพวกเขา นี่ก็เพราะพันธมิตรใช้คาถาจำนวนคนมากเข้าต่อสู้
ความตายมีจริง ความทุกข์ระทมมีจริง การต่อสู้ก็เป็นความจริงเช่นกัน นี่ไม่ใช่การละเล่น แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ก็มีแต่พวกเราคนเสื้อแดงผู้รักความเป็นธรรมและรักประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะพลิกฟื้นกอบกู้สถานการณ์และชัยชนะให้มาอยู่กับคนเสื้อแดง โปรดมาช่วยกันแสดงพลังของจิตใจที่ยิ่งใหญ่ และที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ “ อย่าทิ้งเพื่อนของเราทุกคน ”
……………………..oIo…………………….
และจากแนวคิดของ แกนนอนแดงทั้งแผ่นดิน
“ บก.ลายจุด ” คุณสมบัติ บุญงามอนงค์
ที่ออกมาทำกิจกรรม ตั้งคำถามกับ จนท.ที่กระทำการท้าทายอำนาจของประชาชน
โดยการเดินทาง และทำกิจกรรมไปทั่วประเทศ
เพื่อที่จะบอกกับคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินว่า
สิ่งที่เสื้อแดงต้องเร่งรีบผลิตในตอนนี้คือ "กำลังใจ"
การ ต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย มีความจำเป็นจะต้องยกระดับ
โดยอย่างแรก คือ ความคิด ของตัวเอง เพราะถ้าความคิดตัวเองไม่เปลี่ยน
การเรียกร้องจะนิ่งอยู่กับที่และด้อยลงในที่สุด
เพื่อนเราที่โดนขัง เพื่อนเราที่หลบหนี เพื่อนเราที่เสียชีวิต และเพื่อนเราที่บาดเจ็บ
เขายังรอ และหวังใน “ เพื่อนที่เหลืออยู่ ”
กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงจะจัดกิจกรรมสัญจรอย่างเป็นทางการครั้งที่ 1 โดยเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่เนื่องจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจ.เชียงใหม่ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมาก ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
การจัดกิจกรรมสัญจรจึงเป็นการเชิญชวนพี่น้องให้มาช่วยกันท่องเที่ยวและอุด หนุนสินค้าของคนเชียงใหม่ โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นภายใต้ชื่อ “แดงท่องเหนือ ช็อปหมู่เฮา” ในวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค. ที่บริเวณถนนคนเดิน ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป
……………………..oIo…………………..….
นี่คือยุคสมัยของเรา
·
เราร้องเพลงการต่อสู้ในอดีต
ปัจจุบันเราหน้าซีดยิ่งกว่านั้น
ร้องเพลงการต่อสู้ไปทำไมกัน
เมื่อความจริงเราหงอสั่นเผด็จการ
·
อดีตว่าหนักหนาแสนสาหัส
อำนาจรัฐแผ่ปีกไปอย่างไพศาล
ครั้นเหลียวมองปัจจุบันยิ่งสามานย์
กองทัพไทยฆ่าชาวบ้านประจานโลก
·
ร้องเพลงการต่อสู้ไปทำไมเพื่อน ?
ร้องแล้วเบือนซับหน้าน้ำตาโศก
ร้องในคอเงียบรอวิปโยค
ต่อขานโชคชะตาข้าชะตากรรม
·
บทเพลงแห่งสายธารการกดขี่
กระฎุมพีเหนือชั้นวันยันค่ำ
ประชาซากรากหญ้าตาดำดำ
ไฉนเลยกล้าต่อคำต่อกลลวง
·
ร้องเพลงการต่อสู้ไปทำไมวะ!
เห็นฆาตกรจะจะปล่อยละล่วง
อนาคตประเทศไท้ไทยทั้งปวง
นี่แหละช่วงชีวิตสมัยเรา
·
เถิดร้องเพลงการต่อสู้เต็มพลัง
ร้องอย่างมีความหวังฝังทุกข์เศร้า
ร้องแล้วเร่งมือรุดฉุดลากเอา
ไดโนเสาร์ออกจากเขตประเทศไทย
·
นี่แหละช่วงชีวิตสมัยเรา
เก็บบทเพลงคร่ำเก่าเข้ากรุไว้
แล้วเริ่มร้องบรรเลงเพลงบทใหม่
*นี่คือยุคสมัยของพวกเรา !?
·
มาร่วมร้องบรรเลงเพลงแห่งชัย
“ เพราะนี่คือยุคสมัยของพวกเรา!!”
อรุณรุ่ง สัตย์สวี
* ชื่อเพลงๆหนึ่งของวงสุดสะแนน “ นี่คือยุคสมัยของเรา ” ที่มา ไทยอีนิวส์
……………………..oIo…….……………….