WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 9, 2010

การชุมนุม คู่ขนาน สนามกีฬาเวสน์ ราชดำเนิน การชุมนุม พันธมิตร

ที่มา ข่าวสด



การปรากฏขึ้นของเวทีคู่ขนานไม่ว่าจะเป็นที่สนามกีฬาเวสน์ ดินแดง ไม่ว่าจะเป็นที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม

น่าศึกษาอย่างเป็นพิเศษ

น่าศึกษาตรงที่แม้ที่สนามกีฬาเวสน์ ดินแดง จะมี พล.ต. จำลอง ศรีเมือง กับ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ เป็นตัวหลัก

คล้ายกับที่หน้าทำเนียบรัฐบาลจะมี นายวีระ สมความคิด เป็นตัวหลัก

แต่บุคคลซึ่งยืนเรียงเคียงกับเงาร่าง นายวีระ สมความคิด ยังมี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยังมี นายเทียนพุทธ พุฒิพงษ์อโศก

อย่าลืมว่า นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของสันติอโศก

อย่าลืมว่า นายเทียนพุทธ พุฒิพงษ์อโศก เป็น ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี สันติอโศก

ยิ่งกว่านั้น กำลังด้านหลักยังเป็นคนของ "กองทัพธรรม"

ต้องยอมรับว่าที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสามารถชุมนุมยืดเยื้อไม่ว่าก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคม 2551

กำลังพื้นฐาน คือ กำลังจากสันติอโศก

กำลังอื่นๆ อาจมาตอนค่ำกลับไปนอนบ้านตอนดึก แต่กำลังจากกองทัพธรรมแห่งสันติอโศก สามารถปักหลักอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ยืนหยัด กล้าหาญ มั่นคง แน่วแน่ ไม่แปรเปลี่ยน

ตรงนี้เองที่ทำให้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเกรงใจ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และรวมถึง "พ่อท่าน" อย่างเป็นพิเศษ

เมื่อเอ่ยถึง "พ่อท่าน" ย่อมหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจาก ท่านโพธิรักษ์

จึงไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมที่สนามกีฬาเวสน์ ดินแดง จึงไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและย้ายไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ก็ไม่แตกต่างกัน

เพียงแต่แยกกันเดินเพื่อรวมกันตีเท่านั้นเอง

มีความเชื่อลึกๆ ระหว่างรัฐบาลและแกนนำการเคลื่อนไหวในวันที่ 7 สิงหาคมว่า การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเดียวกัน

เป็นเป้าหมายอยู่ที่กัมพูชาอันถือว่าเป็นศัตรูร่วม

กระนั้น ข้อเรียกร้องที่นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยกเลิกบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา หรือที่เรียกว่า เอ็มโอยู 2543 และไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลักดันวัด บ้าน ร้านค้าของชาวกัมพูชา ออกไปจากพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร

มากด้วยความละเอียดอ่อน

เป็นความละเอียดอ่อนที่บันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชาหรือที่เรียกว่าเอ็มโอยู 2543 นั้นเกิดขึ้นในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย

เป็นความละเอียดอ่อนที่พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเรียกว่า "พื้นที่ทับซ้อน"

เป็นพื้นที่ทับซ้อนซึ่งกัมพูชาก็ถือว่าเป็นของเขา เป็นพื้นที่ทับซ้อนซึ่งไทยก็ถือว่าเป็นพื้นที่ของไทย เพียงแต่ตอนนี้มีบ้าน ร้านและคนกัมพูชาเข้าไปอยู่เท่านั้นเอง

นี่ย่อมเป็น "เผือกร้อน" ในมือของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ



ที่ว่าเป็น "เผือกร้อน" เพราะมิได้เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยจะลงมือทำได้เพียงฝ่ายเดียว

ตรงกันข้าม เมื่อไปบันทึกความเข้าใจร่วมไทย-กัมพูชาก็ต้องฟังทางฝ่ายกัมพูชาด้วย เมื่อมีบ้าน ร้าน วัดซึ่งคนกัมพูชาอาศัยอยู่ก็ต้องหารือร่วมกับกัมพูชาด้วย

คำถามอยู่ที่ว่าฝ่ายไทยพร้อมจะเจรจากับกัมพูชาหรือไม่