WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, November 18, 2011

คำให้การของไก่อู

ที่มา มติชน


โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2554)

พระ ราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งตามตัวเลขจะมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 2.6 หมื่นคน ในจำนวนนี้จะมีคนชื่อทักษิณด้วยหรือไม่

ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองกันต่อไป

ยังต้องโต้แย้งกันไปอีกหลายยก

แต่สำหรับอดีตนายกฯอีกคน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งอดีตรองนายกฯคู่บารมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับคดีสำคัญ

คดีที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคมปี 2553

กำลังร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อ พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รับโอนสำนวนคดี 16 คดีจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมาสรุปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

โดยเป็น 16 สำนวน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้เอาไว้เบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร

กำลังเร่งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องอย่างขะมักเขม้น

กระทั่งถึงคิวพยานปากสำคัญ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ซึ่งในขณะเกิดเหตุ ดำรงตำแหน่งโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ ศอฉ.

ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ความสำคัญของพยานปากนี้สำหรับพนักงานสอบสวน ถือเป็นพยานที่จะให้รายละเอียดสายการบังคับบัญชา ขั้นตอนการสั่งการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตามข่าวบอกว่า ครั้นถึงเวลาเข้าให้การก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

เพราะ พ.อ.สรรเสริญได้ให้รายละเอียดอย่างชัดเจน

เน้นๆ เลยว่า โดยระบบของกองทัพ โดยอำนาจของกองทัพ โดยภารกิจของกองทัพ จะไม่สามารถสั่งให้ทหารนำอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาปฏิบัติการในใจกลางกรุงเทพ มหานครได้

ดังนั้นที่ทหารลากปืน ลากรถถัง รถหุ้มเกราะ ออกมาเต็มถนนไปหมดนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการสั่งการของกองทัพแต่อย่างใดทั้งสิ้น

แล้วใครสั่ง แล้วอำนาจอะไรมากำหนดให้ทหารเข้ามาปฏิบัติการกลางเมืองหลวงเช่นนั้นได้

คำให้การของโฆษก ศอฉ.ระบุว่า ไม่ใช่คำสั่งของกองทัพ แต่เป็นคำสั่งของ ศอฉ.

แล้ว ศอฉ.มาจากไหน

พ.อ.สรรเสริญให้การว่า ศอฉ.เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นมาด้วยลายเซ็นของคนชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ

ด้วยอำนาจของ ศอฉ.นี่เอง ที่สั่งการให้ทหารพร้อมอาวุธเข้ามาปฏิบัติการกระชับพื้นที่

ดังนั้น ทั้งหลายทั้งปวงที่ทหารเข้ามาปฏิบัติการ ล้วนเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาแห่ง ศอฉ.

รายละเอียดคำให้การคงจะมีอะไรมากมายกว่านี้

แต่ที่หลุดรอดเป็นข่าวออกมา เน้นให้เห็นว่า ผู้แทนของทหารเข้าให้การในแง่สายการสั่งการชัดเจนแล้ว

มัดแน่นไปที่ผู้มีอำนาจสั่งการ ในศอฉ.

ผลในทางคดี ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้สั่งการได้ชัดเจนขึ้น

แต่อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาด เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอำนาจการเมือง

ในยุคหนึ่งอำนาจการเมืองใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งการให้ทหารเข้าปะทะกับม็อบ เปื้อนเลือดไปตามๆ กัน

ในยุคปัจจุบัน อำนาจการเมืองไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มอบหมายให้ทหารเข้าปะทะกับน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชน

เต็มไปด้วยเสียงชื่นชมจากสังคม