ที่มา ประชาไท
และ “ภาคประชาชน” ผู้ที่เลือกข้างมานานนมแล้ว คอยร่วมผสมโรง!
“น้ำท่วม” เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วทุกภาคส่วนก็ควรร่วมด้วยช่วยกันในการรับมือแก้ไขปัญหา คุณยิ่งลักษณ์เองหลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วก็แทบจะไม่มีเวลาหยุดหายใจหายคอเลยจนถึง วินาทีนี้
จึงนับเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ …. มากกว่าจะมาด่าทอกัน
อันที่จริง การบริหารมหาอุทกภัยครั้งนี้น่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่น หากทุกฝักฝ่ายยกเอาเรื่อง “การเมือง” ออกไปก่อน แต่การณ์ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ดังที่ทราบกันอยู่
ท่านผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ซึ่งสังกัดพรรคฝ่ายค้าน เปิดฉากด้วยการกล่าวหาว่ามวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลบ่าเข้าท่วมเขตดอนเมืองนั้น เป็นก้อนน้ำของทุ่งรังสิตจังหวัดปทุมธานี (ถ้าไม่มีมวลน้ำก้อนนี้เขตดอนเมืองก็คงไม่ท่วมอะไรทำนองนี้ …) จากนั้นการประสานงานกันของ กทม. กับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ก็ออกลักษณะ “ประสานงา” กันเป็นส่วนใหญ่
แค่นี้ … คนกรุงเทพฯ ก็คงพอจะเดาออกถึงชะตากรรมที่พวกตนต้องประสบ
ยิ่ง “กทม.” เดินสวนทางกับ “ศปภ.” จนถึงขนาดต้อง “ทำหนังสือลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร” แทนการพูดคุยกัน
ความวิบัติก็จึงยิ่งบานปลายขยายใหญ่ขึ้น
หน่วยงานที่ดูจะผนึกกำลังกันได้ดีกลายเป็นรัฐบาลกับกองทัพ ทั้งที่ฐานเสียงของนายกฯ คือคู่ปรปักษ์ของอดีตแกนนำ คมช. ซึ่งกำลังนี้ยังคงเจิดแสงจ้าอยู่ในทุกโครงสร้างของกำลังพลด้วยซ้ำ
ภาพ ผบ.ทบ. ยืนเคียงข้างนายกฯ มีให้เห็นบ่อยครั้ง และการทำงานก็สอดรับกันดี การที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความเห็นว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกพระราชบัญญัติฉุกเฉิน เพราะอำนาจอะไรก็ไปสั่ง “น้ำ” ไม่ได้นั้นเล่นเอาเหล่าฮาร์ดคอร์ถึงกับต้องผิดหวังไปตามๆ กัน!
มวลน้ำที่มากผิดปรกติเช่นนี้ อย่าว่าแต่นายกฯ ปูที่เพิ่งจะเข้ามารับงานยังไม่ถึงเดือนดีเลย ลองสมมติให้อดีตนายกฯ ชายอก 3 ศอก ที่ผ่านๆ มาไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดมารับมือแทน ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ดีไปกว่าที่ท่านนายกฯ กำลังทำอยู่ในเพลานี้
ผู้ที่เอาแต่ก่นด่าจึงกลายเป็นพวก “มือไม่พาย เอาปากราน้ำ” ดังที่เขาว่าๆ กัน และรังแต่จะเป็น บูมเบอแรงตีกลับไปยังแสกหน้าของตนเอง
คุณสมบัติอันโดดเด่นของนายกฯ ปูที่ยังคงรักษาเอาไว้ได้อย่าง “คงเส้น คงวา” คือความ “นิ่ง” และ “ไม่ตอบโต้” ต่อคำปรามาสใดๆ เป็นประหนึ่ง “ภูเขา ศิลา แท่งทึบที่ไม่สะเทือนเพราะแรงลมที่พุ่งมาปะทะ” กับเป็น “บัณฑิตที่ไม่หวั่นไหวต่อเสียงสรรเสริญและนินทา”
ก็ขอเป็นกำลังใจ … ให้รักษาคุณสมบัติพิเศษข้อนี้ไว้นานๆ นะครับ
ประเด็นที่ยังมีการพูดถึงกันน้อยมากกลับเป็นเรื่องของ “ต้นเหตุ” อันทำให้เกิด “มวลน้ำก้อนใหญ่” ที่มากผิดปรกติเช่นนี้ พวกเราต้องไม่ลืมว่านี่เป็นกรณีที่ไม่เคยมีใครได้พบเห็นมาก่อนในชีวิต ซึ่งจู่ๆ ก็มีน้ำขนาดมหึมาไหลท่วมเข้าเมืองใหญ่ทั่วลุ่มเจ้าพระยา กวาดตั้งแต่นครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา ยันกรุงเทพมหานครและเมืองปริมณฑลทั้งหมด
“ต้นเหตุ” ต้องมีการสืบสวนให้ชัดเจนว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค หรือทางยุทธศาสตร์ของหน่วยงานใด ซึ่งคงตามตัวกันได้ไม่ยากเพื่อจะได้หาทางป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเรื่องเช่น นี้ขึ้นอีก
ก็หวังว่าจะได้มีการสรุปผลออกมาให้ประชาชนได้ทราบในที่สุด
ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับสื่อยักษ์ใหญ่บางฉบับที่บอกให้นายกฯ โยนผ้าขาวและกล่าวหาว่าคุณยิ่งลักษณ์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและ ประชาชน อันที่จริงเราก็ไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีมาเพียงเพื่อจะแก้ปัญหาน้ำท่วมนี้ แต่เพียงอย่างเดียวดอก หากยังมีภารกิจอื่นๆ อีก อาทิเช่น การวางวิสัยทัศน์ของชาติประเทศในระยะยาว การพัฒนารากฐานทางเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี ฯลฯ ซึ่งนายกฯ ยังไม่มีโอกาสได้แสดงฝีไม้ลายมือให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
เรื่อง “น้ำท่วม” นายกฯ ปูอาจจะสอบตกในสายตาของใครบางคน แต่ผู้เขียนก็ได้มองเห็นถึงความทุ่มเทพยายามเป็นอันมาก ท่านอาจเปรียบได้กับ “กัลบกมือใหม่” ในคำพังเพยจีนสำเนียงแต้จิ๋วที่ว่า
“ซิงที้เถ่าซือ หง่อเตียะไก่โฮ้ว”
ซึ่งแปลความได้ว่า …. “กัลบกมือใหม่ เจอลูกค้ารายแรกเป็นไอ้คางเครา”!
เอาไว้ให้คุณปูสอบตกเรื่องที่ใหญ่กว่านี้แล้วค่อยมาบอกให้โยนผ้ายอมแพ้ จะดีกว่าไหม ?