ที่มา ข่าวสด
สัมภาษณ์พิเศษ
นายธงทอง จันทรางศุ ถือเป็นบุคคลอเนกประสงค์ที่ทำงานได้กับรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย
เข้ามารับตำแหน่งโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แทนชุดเก่าที่ถูกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กถล่มจนเละ เรื่องแถลงแจ้งเตือนภัยมั่วจนเรตติ้งรัฐบาลติดลบ
โชว์ฟอร์มเรียกความเชื่อมั่นได้ไม่นาน ล่าสุดครม.มีมติแต่งตั้งเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หวังเป็นมือประสานกับหน่วยงานราชการต่างๆ
ย้อนหลังเส้นทางราชการ ไม่ว่ารัฐบาลจะนำโดยพรรคการเมือง หรือกลุ่มบุคคลจากอำนาจนอกระบบ
นายธงทองมักได้รับความไว้วางใจ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญเสมอ
กับตำแหน่งใหม่ปลัดสำนักนายกฯ
เข้ามาทำงานให้กับศปภ.ในตำแหน่งโฆษกศปภ.ได้ไม่นาน ระหว่างนั้นเข้าใจว่าผู้ใหญ่หลายคนปรึกษากันว่าตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ เป็นเหมือนข้อต่อระหว่างการทำงาน
หากดูอำนาจหน้าที่จะพบว่าเรื่องฟื้นฟูเยียวยาและงานด้านประสานงานกับกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เป็นหน้าที่สำคัญของสำนักปลัดฯ ทุกคนเห็นว่างานศปภ.ไม่ได้จบแค่น้ำลด การเปลี่ยนข้าราชการให้เหมาะกับงานเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลพิจารณาเสมอมา
ผมมาอยู่ที่ศปภ.สักพักมีผู้ใหญ่มาบอกว่า กำลังพิจารณาอยากให้มาทำงานต่อเนื่อง อีกทั้งปีหน้าจะมีงานสำคัญของบ้านเมืองหลายงาน ผู้ใหญ่คิดว่าผมน่าจะมีประสบการณ์มาช่วยเสริมการทำงานได้
ทราบล่วงหน้าก่อนเรื่องจะเข้าครม. 3-4 วัน โดยมีผู้ใหญ่มาบอกก่อนแล้ว
การปรับตัวทำงานกับรัฐบาลนี้
งานในตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ เป็นงานข้าราชการประจำ ไม่ว่ารัฐบาลใดก็แล้วแต่ วันนี้เป็นรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ วันข้างหน้าอาจอยู่ได้อีกนาน หรือจะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
แต่หลักที่คนเป็นข้าราชการประจำอย่างผมต้องยึดถือคือ การปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีมโนธรรม ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตาม หน้าที่ของข้าราชการประจำคือการร่วมทำงาน นำนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภามาขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ
ผมไม่กังวลที่เข้ามารับตำแหน่ง งานของสำนักงานปลัดฯ ไม่ใช่งานปฏิบัติแต่เป็นงานประสาน การปรับตัวไม่ต้องปรับมาก ไม่น่าหนักใจ หากเรามีหลักอยู่แล้วว่าข้าราชการประจำต้องทำอะไร
เราทำอย่างนี้มาตลอดชีวิต เคยทำงานในมหาวิทยาลัย ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ตำแหน่งสุดท้ายคือคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ แล้วมาเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม 7 ปี ซึ่งทดสอบการเป็นข้าราชการประจำของตัวเอง
ช่วงเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้ทำงานกับรัฐบาลพรรคใดพรรคหนึ่ง ปลัดกระทรวงที่ผมทำงานด้วยคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นนายจรัญ ภักดีธนากุล และนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ก่อนย้ายมาอยู่สภาการศึกษา ซึ่งทำงานกับรัฐมนตรีหลายคนเช่นกัน
ประสบการณ์ในกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงศึกษาธิการ เป็นบทเรียนหรือบททดสอบว่าผมสามารถยึดมั่นอยู่ในความเป็นข้าราชการมืออาชีพได้
ยึดหลักใดในการทำงานต่างรัฐบาล
ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ฝืนต่อมโนธรรม และความเชื่อ แต่ผมก็ต้องเคารพต่อนโยบายและการสั่งการของรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชน ผมเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อในระบบสภา
เมื่อแต่ละรัฐบาลมีวิธีการทำงานแตกต่างกันไป ผมจึงต้องปรับสไตล์การทำงานเช่นกัน ต้องเข้าใจธรรมชาติของการทำงานร่วมกัน ถ้าเราแม่นหลักวิชาการ ไม่ผิดกฎหมาย ก็จะทำหน้าที่ข้าราชการมืออาชีพได้โดยไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร
อะไรที่ทำให้ผู้มีอำนาจไว้วางใจ
หากให้ประเมินตัวเอง ผมมีทักษะการสื่อสารในขั้นที่ไม่ขี้เหร่ ด้วยเหตุที่เคยเป็นครูมา 21 ปี หน้าที่ของครูคือทำความยากให้เป็นความง่าย หยิบประเด็นที่สำคัญมานำเสนอเพื่อความเข้าใจของผู้รับข้อมูลข่าวสาร
ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านนี้มาร่วมทีม อีกทั้งนิสัยส่วนตัวไม่ชอบทะเลาะกับใคร ผมจึงพยายามที่สุดที่จะไม่อาฆาตกับใคร คิดว่าทุกคนมีเหตุผล มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน จึงต้องเคารพในตัวตนแต่ละคน
นอกจากหน้าที่ประจำแล้ว หลายรัฐบาลไว้วางใจให้ผมทำงานพิเศษ เมื่อรัฐบาลนี้มอบหมายให้เป็นปลัดสำนักนายกฯ ก็จะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อรัฐบาล แต่เพื่อความสบายใจของผมที่เป็นข้าราชการประจำ ที่เมื่อพ้นหน้าที่ไปแล้วจะได้ย้อนกลับมาดูว่าทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดย มีหลักที่ยึดถือมาตลอดชีวิต
หากวันหนึ่งมีคนมาทำหน้าที่แทน ผมก็จะสบายใจอย่างยิ่ง ถ้ายังไม่เกษียณ ก็จะมีความรับผิดชอบน้อยลง ได้ไปทำงานที่รักคือสอนหนังสือ ผมพร้อมจะไป พักไปเขียนหนังสือซึ่งมีความสุข หาข้าวกินอร่อยก่อนจะหมดแรง
ย้อนถึงการรับหน้าที่โฆษกศปภ.
ก่อนเข้ามาทำงานที่ศปภ. หน้าที่ของผมคือข้าราชการประจำในตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา ทำงานด้านนโยบายการศึกษา แต่เมื่อเกิดอุทกภัยมีการตั้งศปภ. จึงระดมกำลังจากทุกหน่วยงานโดยไม่ต้องนึกถึงระบบ ระเบียบ ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกัน
โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นผอ.ศปภ. และเพื่อนๆ ในกระทรวงมาช่วยงานอยู่มาก โดยเฉพาะงานด้านเลขานุการ
สำหรับผม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคนโทร.หา บอกว่าหากน้องๆ ในกระทรวงยุติธรรมได้ผมมาร่วมทีม น่าจะทำให้งานเอกสารถูกต้องคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งผมไม่ขัดข้องอะไร ถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ก็ยินดี
หลังจากมาช่วยงานด้านเอกสารได้ไม่นาน นายกฯ เข้ามาพูดกับผมโดยตรงว่า อยากให้มาช่วยทำหน้าที่เป็นโฆษกช่วยสื่อสารเรื่องราวของศปภ. ผมในฐานะข้าราชการประจำก็รับปฏิบัติ เพราะเป็นตำแหน่งเฉพาะกิจ
ศปภ.น่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นหรือไม่
ไม่ใช่เฉพาะศปภ. การทำงานอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นโดยฉุกละหุกในระยะเริ่มต้น คงไม่มีความลงตัวที่พอดี ศปภ.เป็นหน่วยงานที่เกิดขึ้นกะทันหัน การจัดโครงสร้างองค์กรก็จัดขึ้นฉับพลัน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปศปภ.ทบทวนว่าต้องทำอย่างไร เรื่องของการให้ข้อมูลข่าวสารก็คงอยู่ในเหตุผลเดียวกันว่าเป็นการเปลี่ยนการ ทำงานให้เข้ากับเหตุการณ์ หากประชาชนไม่มั่นใจกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับในช่วงแรก คงเป็นโจทย์ที่ศปภ.ต้องมาหาคำตอบว่าทำอย่างไรประชาชนจึงจะมั่นใจมากขึ้น
เรื่องตัวบุคคลอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ผมเห็นใจคุณวิม รุ่งวัฒนจินดา ซึ่งทำหน้าที่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาแต่แรก
แต่ ผมอายุมากกว่า ประสบการณ์ยืนอยู่หน้าจอโทรทัศน์ในบทบาทต่างๆ เกือบครบ ก็เป็นธรรมดาที่คนแก่วัดแก่พรรษาอย่างผมจะมีประสบการณ์ที่สามารถทำให้ ประชาชนไว้วางใจเชื่อถือ แต่ผมก็หาข้อมูลและตรวจสอบก่อนนำเสนออย่างสม่ำเสมอ
แม้ผมพูดไม่มากแต่ประเด็นจะน้อยและชัด เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ
ความสนใจทำงานการเมือง
ไม่อยากเล่นการเมืองเลย เคยมีเพื่อนบอกว่าหากผมอยากรู้ประวัติตัวเองในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ให้ไปลงเล่นการเมือง อาจฟังดูแปลก แต่เพราะมีคนมาขุดประวัติ ซึ่งผมมองว่าการเมืองเป็นเกมที่โหดร้ายเกินไปสำหรับผม
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง คิดว่ายังสามารถทำประโยชน์ให้กับคนอื่นได้ในมิติอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องไปทำงานด้านการเมือง ผมมีต้นทุนทางข้อมูลข่าวสารที่สะสมจากการอ่านหนังสือและพบปะผู้คน
งานเขียนหนังสือเป็นงานที่ผมรัก ซึ่งงานตรงนี้ไม่ต้องมีนาย ลำพังเกษียณแล้วบำนาญก็พอกิน ไม่เดือดร้อนอะไร ผมเติบโตมากับหนังสือเพราะแม่เขียนหนังสือ ตอนนี้อยากเขียนแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีเวลา
แต่หากเกษียณแล้วใครมาชวนไปเขียนคอลัมน์ ผมจะไปทันที