ที่มา มติชน
เกือบเที่ยงคืนของวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2554
คงเป็นวันที่คนรักเจร็อก ที่ลุยน้ำท่วม ฝ่ารถติด รอรถตู้ที่คิวยาวเหยียดเพื่อเข้ามาที่อิมแพ็ค อารีน่า ลืมไม่ลงกันแน่นอน
กับการแสดงสดที่แสนประทับใจของ "เอ็กซ์ เจแปน" (X Japan) วงร็อกระดับตำนานของญี่ปุ่น ที่ปักหมุดการแสดงเวิร์ลทัวร์ครั้งสุดท้ายที่เมืองไทย ในชื่อ "เอ็กซ์ เจแปน 2011 เวิลด์ ทัวร์ อิน แบ็งคอค"
วงดนตรีวงนี้โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 90 ซึ่งยอดขายอัลบั้มเพลงสูงถึง 30 ล้านก๊อบปี้ อันสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นในยุคเดียวกันที่ชะงักงันจนถูกเรียกว่า เป็นทศวรรษที่หายไปของญี่ปุ่น (Lost Decade) พวกเขาอยู่ด้วยกันมา 15 ปี แล้วก็ต้องประกาศข่าวร้ายเมื่อปี พ.ศ.2540 พวกเขาบอกกับแฟนเพลงว่า ถึงเวลาที่ต้องยุบวง
และปีรุ่งขึ้น เอ็กซ์ เจแปน ได้สูญเสีย ฮิเดะ มือกีตาร์ของวงอย่างไม่มีวันกลับ
...จากความเศร้าของสมาชิกในวง กลายเป็นความทรงจำที่วันหนึ่งโคจรกลับมาเป็นความจริงที่น่าดีใจ เพราะเมื่อปี 2550 โยชิกิ หัวหน้าวงเอ็กซ์ เจแปนได้ประกาศว่าวงจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
ผลที่ตามมาก็คือ แผนการจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั่นก็คือเมืองไทยด้วย...
การประกาศทัวร์คอนเสิร์ตของเอ็กซ์ เจแปนในครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยประเทศที่เอ็กซ์ เจแปนหมายมั่นปั้นมือที่จะไปก่อนเพื่อน 6 ประเทศแรกก็คือ ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ไต้หวัน, ฮ่องกง, เกาหลี และที่น่าดีใจก็คือรวมถึงเมืองไทยด้วย
แต่น่าเสียดายที่คอนเสิร์ตครั้งนั้นต้องเลื่อน เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศของเรา...
แม้จะเจอโรคเลื่อน แต่เอ็กซ์ เจแปน มุ่งมั่นที่จะมาเมืองไทยให้ได้ จนสุดท้ายเมืองไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศ ปิดท้ายในการจัดแสดงคอนเสิร์ต เวิร์ลทัวร์ของพวกเขาในรอบนี้
ยิ่งใกล้วันที่พวกเขาจะมาที่กรุงเทพฯ น้ำเหนือก็กำลังไหลเข้ามาที่เมืองหลวงพร้อม ๆ กัน ทำให้ผู้จัดและแฟนเพลงเริ่มหวั่นใจว่าคอนเสิร์ตอาจจะไม่ได้จัดอีก
การไม่ได้จัดครั้งนี้มันไม่ใช่หมายถึงการ "เลื่อน" แต่เป็น "การยกเลิก" ซึ่งทำให้ชวนคิดว่า อาจจะยากที่จะได้เห็นพวกเขาในเมืองไทย เนื่องจากว่าอายุ อานามของศิลปินในวงก็ปาเข้าไปเลขสี่เลขห้านำกันแล้ว
ยิ่งก่อนหน้านี้ บริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผู้จัดคอนเสิร์ต ได้ยกเลิกคอนเสิร์ตหัวนอกอย่างคอนเสิร์ตของโปรดิวเซอร์มือทอง "เดวิด ฟอสเตอร์" และคอนเสิร์ต "เจสัน มราซ อะคูสติก อีฟนิ่ง วิธ โทก้า ริเวอร่า" ไปก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งทำให้แฟน ๆ เจร็อกแทบจะ ทวีตเช็กข่าวกันเป็นนาทีต่อนาทีกันเลย
แต่ในที่สุดโยชิกิก็ประกาศว่ามาเมืองไทยแน่นอน เพราะเขายืนยันมานานแล้วว่าจะต้องมาในดินแดนที่เขาประทับใจ ที่เคยมาเยือนเมื่อสิบกว่าปี ที่แล้วอย่างประเทศไทยแน่นอน
เรื่องน่าประทับใจก็คือ ก่อนการแสดงหนึ่งวัน ตัวโยชิกิเองถึงกับเดินทางไปที่อาคารมาลีนนท์ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมให้กับครอบครัวข่าวสามถึง 5 แสนบาทกันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุผลง่าย ๆ แต่กินใจ นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่น คนไทยก็ไม่ทิ้งคนญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นเรา ทั้งสองประเทศต้อง ช่วยเหลือกันและก้าวไป ด้วยกัน
ในที่สุดวันแสดงจริงก็มาถึง ต้องบอกว่าพวกเขา นำโดย โยชิกิ มือกลองและมือเปียโน มี โทชิ เป็นนักร้องนำ พาตะ เล่นกีตาร์ ฮีธ เล่นเบส และ สึกิโซะ เล่นกีตาร์กับไวโอลิน
ดนตรีของพวกเขาตรึงอารมณ์ให้ คนดู "อิน" ไปทีเดียวถึงเกือบ 2 ชั่วโมง โดยเพลงดัง ๆ ที่พกออกมาจากแดนปลาดิบถูกบรรเลงอย่างเกรี้ยวกราดสลับกับหวานซึ้ง
อย่างเช่นเพลง Jade, Rusty Nail, Silent Jealously, Drain, Kurenai, Born to be Free, I.V., Endless Rain, Art of Love, Forever Love และ Tear เป็นต้น
เซอร์ไพรส์สำหรับผู้ชมอยู่ตรงที่ในช่วงที่อังกอร์เรียกวงกลับมาเล่นใหม่ โยชิกิสวมสไบเดินออกมา เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้แฟนเพลงสนั่นฮอล์ โดยเจ้าตัวปล่อยมุกไปว่า ตอนที่ฝ่ายคอสตูมให้เลือกเสื้อประจำชาติไทย ตนเลือกชุดนี้โดยที่ไม่รู้ตัวว่า
เป็นชุดของผู้หญิง !
แต่ที่กินใจที่สุด คงจะเป็นประโยคที่โยชิกิบอกกับแฟนเพลงว่า เขารอคอยที่จะพบกับทุกคนมาหลายปีแล้ว ในที่สุดในวันนี้ก็ได้มาเจอกันเสียที แล้วเราจะกล่าวต่อไปพร้อมกันกับเอ็กซ์ เจแปน...
พร้อมกันนั้น สมาชิกในวงก็ร้องขอให้ทุกคนยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองไทยครั้งนี้
หากความเงียบ คือเสียงเพลงอีก รูปแบบหนึ่ง
ความเงียบในช่วงเวลานั้นของคอนเสิร์ต คือบทเพลงที่น่าประทับใจอีกบทเพลงหนึ่ง
เพราะบทเพลงของความเงียบเป็นบทเพลงที่ได้ยินแต่เสียงหัวใจของเอ็กซ์ เจแปน และแฟนเพลงชาวไทย ส่งต่อกำลังใจถึงกันและกัน
ทั้งเอ็กซ์ เจแปนในฐานะตัวแทนคนญี่ปุ่นและคนไทย ต่างก็เคยมีช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ลำบากด้วยกันทั้งนั้น
เราทั้งสองประเทศจะยืนอยู่เคียงข้างกันเสมอ...
ณัฐกร เวียงอินทร์ : เรื่อง ประชาชาติธุรกิจ | |
|
| |