ที่มา Thai E-News
น.ส.วีณศรณ์ เย็นยอดวิชัย ผู้สื่อข่าวสถานีข่าวสปริงนิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ย. อ้างถึง "หนึ่งในตัวแทนชาวดอนเมืองได้โทรศัพท์ไปเล่าเบื้องหลัง ก่อนการเกิดทลายกระสอบทรายบิ๊กแบ๊กว่า มีทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ทำข่าวในเขตดอนเมือง และพูดจาที่มีแนวโน้มให้ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่แล้ว เริ่มประท้วงเกิดขึ้น ซึ่งนี่เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านแจ้งมายังสปริงนิวส์" ทำให้TPBSออกมาชี้แจงข่าว
"ไทยพีบีเอส" แจงไม่เกี่ยวยุชาวดอนเมืองรื้อบิ๊กแบ๊กตามที่ "สปริงนิวส์" รายงาน
เว็บไซต์ประชาไท รายงานว่า ผู้บริหาร-ทีมข่าวไทยพีบีเอสปฏิเสธรายงานข่าวสปริงนิวส์ที่ระบุว่ามีผู้สื่อ ข่าวไทยพีบีเอสให้ข้อมูลชาวบ้านจนเกิดการรื้อบิ๊กแบ็กดอนเมือง ย้ำทำหน้าที่สื่อสาธารณะในการรายงานและเกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนรับทราบข่าวสารข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน
(15 พ.ย.54) เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเผย แพร่คลิปวิดีโอชี้แจงกรณีสถานีข่าวสปริงนิวส์นำเสนอข่าวรายงานพิเศษปัญหาผล กระทบกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือบิ๊กแบ๊ก ที่อ้างอิงข้อมูลจากชาวบ้านย่านดอนเมืองว่า ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสมีส่วนในการให้ข้อมูลต่อกลุ่มชาวบ้าน จนนำไปสู่การตัดสินใจทำลายแนวกระสอบทรายขนาดใหญ่ (บิ๊กแบ๊ก) ย่านดอนเมือง โดยผู้บริหารและทีมข่าวไทยพีบีเอสปฏิเสธรายงานข่าวของสปริงนิวส์ดังกล่าว และยืนยันว่าตรวจสอบแล้ว ไม่พบการกระทำของผู้สื่อข่าวตามรายงานดังกล่าว
ไทยพีบีเอส ระบุว่า จากรายงานพิเศษผลกระทบจากกระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กแบ๊ก ที่ถูกรายงานผ่าน น.ส.วีณศรณ์ เย็นยอดวิชัย ผู้สื่อข่าวสถานีข่าวสปริงนิวส์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. อ้างถึง "หนึ่งในตัวแทนชาวดอนเมืองได้โทรศัพท์ไปเล่าเบื้องหลัง ก่อนการเกิดทลายกระสอบทรายบิ๊กแบ๊กว่า มีทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ทำข่าวในเขตดอนเมือง และพูดจาที่มีแนวโน้มให้ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่แล้ว เริ่มประท้วงเกิดขึ้น ซึ่งนี่เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านแจ้งมายังสปริงนิวส์" นั้น ผู้บริหารไทยพีบีเอสได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทีมข่าวทั้งหมดแล้วยืนยันว่า ไม่พบการกระทำของผู้สื่อข่าวตามเนื้อหาที่ปรากฎข่าวรายงานของสปริงนิวส์ ข้อมูลที่ถูกอ้างถึงในรายงานจึงไม่เป็นความจริง แต่กลับสร้างความเสียหายอีกทั้งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือให้กับไทยพีบี เอสเมื่อถูกรายงานผ่านสื่อสู่สังคมอย่างกว้างขวาง
นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ด้านข่าวและรายการ กล่าวว่า รายงานข่าวชิ้นนี้อ้างแหล่งข่าวคือตัวแทนชาวบ้านย่านดอนเมืองคนหนึ่งที่ให้ ข้อมูลทางโทรศัพท์ แต่กลับไม่ระบุตัวตนที่ชัดเจน หรือมีเสียงสัมภาษณ์ที่สามารถยืนยันตัวตนได้ ปรากฏในเนื้อหาข่าวเลย อีกทั้งไม่เคยมีการติดต่อกลับมายังไทยพีบีเอส เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการกล่าวหา ทำให้รายงานชิ้นนี้ขาดความน่าเชื่อถือ
"ไทยพีบีเอสได้ทำหน้าที่สื่อสาธารณะในการรายงานและเกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนรับทราบข่าวสารข้อมูลได้อย่างครบถ้วนรอบด้านโดยยกผังรายการ ปกติออกทั้งหมดเพื่อปรับเป็นฝ่าวิกฤตน้ำท่วมมานานนับเดือน อีกทั้งเป็นสื่อโทรทัศน์ในกลุ่มแรกๆ ที่เกาะติดเรื่องบิ๊กแบ็ค เราทำงานบนพื้นฐานวิชาชีพข่าว ซึ่งไทยพีบีเอสต้องปฏิบัติตามข้อบังคับจริยธรรมของสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด สามารถตรวจสอบแหล่งข่าวได้ทั้งหมด เพราะให้ความสำคัญกับผลกระทบของข้อมูลที่จะนำเสนอผ่านสื่อไปสู่สาธารณะ ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังและนำเสนออย่างรอบคอบรอบด้าน เพื่อไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งในสังคม" นายวันชัย ระบุ
รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. กล่าวด้วยว่า หากสปริงนิวส์มีหลักฐานว่าผู้สื่อข่าวหรือทีมงานคนใดของไทยพีบีเอส เป็นผู้ชักนำโน้มน้าวให้ชาวบ้านประท้วง ขอให้ส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้ผู้บริหารสถานีได้ตรวจสอบและดำเนินการเพื่อความ ถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้มีการเผยแพร่คำชี้แจงดังกล่าวด้วย
ด้านนายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (สสท.) โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @thepchaiyong เมื่อเวลาประมาณ 16.00น. ว่า "#thaipbs จะทำหนังสือถึง Spring News ให้แสดงความรับผิดชอบที่ออกข่าวเท็จสร้างความเสียหาย" (อ้างอิง)
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้รายงานข่าวหัวข้อ "เกมการเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระหว่าง ศปภ.-กทม."
ประชาไทรายงานว่า โดยตอนหนึ่งของรายงานได้อ้างความเห็นของนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุคว่า "ตอนสายๆ รัฐบาลปล่อยให้มีการรื้อบิ๊กแบ๊กที่ดอนเมืองโดยมี ส.ส. และม็อบเกี่ยวข้องแล้วโยนบาปมาให้ กทม. รับผิดชอบตอนสี่ทุ่มครึ่ง ถ้าจะบริหารแบบนี้รัฐบาลยุบ ศปภ. แล้วให้ กทม. ทำทั้งหมดดีกว่าไหมครับหรือให้ทหารเขามาควบคุมก็ได้ อย่างนี้ประชาชนมีแต่แย่กับแย่"
โดยในรายงานข่าวดังกล่าวไม่ได้มีการสัมภาษณ์หรือเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่ถูกนายกรณ์พาดพิงชี้แจง