การประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในช่วงการปรับครม. โดยอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกรณีเขาพระวิหารและความขัดแย้งของคนในชาติ พร้อมกับทิ้งระเบิดว่ามีการจ่ายเงินให้ลูกพรรคแยกตัวออกไปนั้น
ลูกพรรคยันไม่เดินตาม “สุวิทย์”
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และประธาน ส.ส. พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดต่อนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินไม่ได้ สิ่งที่นายสุวิทย์แถลงต่อสื่อมวลชนไปนั้นยืนยันว่า ไม่ใช่มติของพรรค เพราะตามรัฐธรรมนูญ 2550 ระบุว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ นอกจากนี้ตนคิดว่าเหตุผลที่นายสุวิทย์ยกมาอ้างไม่มีน้ำหนักพอ เนื่องจากกรณีการแก้รัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่มีข้อยุติ แต่พรรคเพื่อแผ่นดินก็ร่วมเสนอที่จะแก้รัฐธรรมนูญด้วย ส่วนกรณีปราสาทพระวิหารขณะนี้ก็มีรมว.ต่างประเทศคนใหม่มาทำงานแล้ว
นายสุรเดชกล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่มีการซื้อตัว ส.ส.ในพรรค นั้น สำหรับตนไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด แต่เห็นว่าไม่น่ามีประโยชน์หากมีการซื้อตัวจริง เนื่องจากพรรคเพื่อแผ่นดินมี ส.ส. 24 คน หากจะซื้อตัวไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก รัฐบาลก็ยังทำงานได้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะมีการซื้อตัวไป
รับที่ผ่านมาทำงานกับหัวหน้าลำบาก
“นายสุวิทย์ไม่น่าน้อยใจ หากถูกปรับออกจาก ครม. เนื่องจากก็เคยเป็น รมต. มาหลายครั้งแล้ว จึงไม่น่าจะยึดติด อย่างหัวหน้าพรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี การปรับคณะรัฐมนตรีควรปรับตามความสามารถ ซึ่งพรรคเพื่อแผ่นดินก็มีผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน” นายสุรเดชกล่าว
เมื่อถามว่าจากการที่นายสุวิทย์กล่าวว่า หวังว่าในพรรคคงจะไม่มีงูเห่าเหมือนในอดีต ชี้ให้เห็นว่าหัวไปทาง หางไปทางหรือไม่ นายสุรเดช กล่าวว่า ขณะนี้ต่างสมัย ต่างวาระ ต่างรัฐธรรมนูญ อย่างนั้นคงต้องบอกว่ารัฐธรรมนูญนี้เขียนให้งูเห่าเกิด อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าปัญหาขณะนี้เกิดจาก ส.ส.ในพรรคห่างเหินกับหัวหน้าพรรค เนื่องจากนายสุวิทย์ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่มีตำแหน่งเป็น รองนายกฯ และ รมต.อุตสาหกรรม จึงมีภาระมาก การทำงานร่วมกันในพรรคจึงค่อนข้างลำบาก
“หมอแว” ขอเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล
ทางด้าน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า หลังการแถลงลาออกจากรัฐบาลของนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ได้โทรศัพท์มาขอโทษ และยังอ้างสิทธิ์ความเป็นหัวหน้าพรรคที่ได้รับมอบอำนาจการตัดสินใจจากคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งตนได้ตำหนิไปว่าถึงทำได้ก็ไม่ควรทำโดยพลการ เพราะทำให้สมาชิกตกใจ
“ผมและนายมานพ ปันตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล โดยจะขอทำหน้าที่ตรวจสอบหรือที่เรียกว่าฝ่ายค้านในรัฐบาล เพราะผมยังสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่” นพ.แวมาฮาดีกล่าวและว่า เหตุผลของการถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล เพราะจากการร่วมงานมา 6 เดือนตนยังไม่เห็นความชัดเจนของการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ทำหน้าที่ท้วงติงในการประชุมสภาหลายครั้ง แต่กลับถูกตำหนิจากพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่ควรจะมาค้านนโยบายของรัฐบาล
ตำหนิหัวหน้าทำโดยพลการ
นพ.แวมาฮาดีกล่าวว่า ในการประชุมพรรควันที่5 สิงหาคม ตนจะเข้าร่วมประชุมด้วย แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้เข้าร่วมนานแล้ว เพราะเห็นว่าพรรคไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตนเสนอ โดยเฉพาะแนวทางการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตอนเชิญเข้าร่วมทำงานพรรคบอกตนว่าจะดำเนินการตามนโยบายที่ตนเสนอ แต่สุดท้ายไม่ได้ตอบสนองแนวคิดตนเลย อย่างไรก็ตามตนอาจเข้าไปประชุมด้วย เพราะอยากไปฟังเหตุผลของแต่ละกลุ่มที่เคลื่อนไหวในวันนี้
ซึ่งจะตำหนิกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่าไม่ควรทำโดยพลการเช่นกัน ควรให้พรรคเรียกประชุมและกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกัน ส่วนผลการประชุมวันที่ 5 สิงหาคม ถ้าพรรคมีมติร่วมรัฐบาลต่อไป แม้รัฐธรรมนูญจะให้เอกสิทธิ์ส.ส.ไม่ต้องปฏิบัติตามมติพรรคได้ แต่ตนจะไม่ย้ายพรรค และหากมองว่าวันนี้พรรคเพื่อแผ่นดินเกิดความแตกแยก หรือแบ่งเป็นกลุ่มคงไม่ใช่ เพราะเป็นธรรมชาติของทุกพรรคการเมืองที่แยกกันเป็นกลุ่มเล็กๆ
เมื่อถามว่าการถอนตัวจากรัฐบาลถูกมองว่าน้อยใจที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี นพ.แวมาฮาดีรีบปฏิเสธทันทีว่า ไม่ได้น้อยใจ แม้ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ทำได้เฉพาะปัญหาของกระทรวงที่ดูแล แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ภาพรวม ซึ่งการมาเป็นฝ่ายบริหารตอนนี้ไม่ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่ปัญหาต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
ส.ส.1ใน4เรียกประชุมพรรคได้
ด้านนายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที จากพรรคเพื่อแผ่นดิน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว หรือไม่ ซึ่งคงจะต้องติดตามผลการประชุมของพรรคเพื่อแผ่นดินอีกครั้ง ส่วนโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน เชื่อว่ายังเป็น 4 ตำแหน่งเช่นเดิม แต่อาจมีการปรับ เปลี่ยนกระทรวงตามความเหมาะสม เพื่อให้ภาพของคณะรัฐมนตรีดีขึ้น ส่วนเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่จะมาแทนนายสุวิทย์ คุณกิตตินั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะนายสุวิทย์ประกาศ ลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นายมั่น พัธโนทัย กล่าวอีกว่า จะมีการประชุมกรรมการบริหารของพรรค หลังจากที่มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยจะให้โอกาสหัวหน้าพรรค เป็นผู้เรียกประชุมตามข้อบังคับก่อน แต่หากหัวหน้าพรรคไม่เรียกประชุม ก็จะใช้กรรมการบริหารพรรค 1 ใน 4 ของทั้งหมด หรือ 6 คนในการเรียกประชุมแทน เนื่องจาก ส.ส.ของพรรคทั้ง 24 คน มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือการอยู่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ยืนยันว่าพรรคเพื่อแผ่นดินไม่ใช่กลุ่มงูเห่า 2 อย่างที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ แต่เนื่องจากพรรคมีแกนนำหลายคน และอาจมีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็จะหาข้อสรุปได้ชัดเจน และเชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค
ยันครม.ใหม่เพื่อแผ่นดินลงตัว
ส่วนการส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี ตามโควตาของพรรค ขณะนี้ได้มีการส่งให้บุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีความใกล้เคียงกับข่าวที่ออกมา และพรรคต่างมีความพอใจกับการปรับตำแหน่งในครั้งนี้
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวหลังจากเดินทางกลับมาจากจังหวัดขอนแก่น กรณีสมาชิกบางส่วนไม่ยอมรับการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องคุยหรือชี้แจงกับสมาชิกพรรค โดยมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย ที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ทางด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังส.ส. พรรคพลังประชาชนกลุ่มอีสานพัฒนาเข้าพบนายกรัฐมนตรีภายหลังในพรรคมีกระแสคลื่นใต้น้ำ โดยสนับสนุนให้นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ เป็นรัฐมนตรี ว่า ตนก็ไม่เคยรู้มาก่อน อย่างที่เคยบอกว่าใครรักใครชอบใครเขาก็อยากสนับสนุนแต่คนที่ตัดสินใจคือ นายกรัฐมนตรี ถือเป็นเสรีภาพ ความเห็น เชื่อว่านายกฯ จะปรับให้ดีขึ้น
ถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะดูดีขึ้นในสายตาประชาชนแต่ภาพลักษณ์ภายในพรรคจะเกิดความสั่นคลอน นายสมชายกล่าวว่า ภายในพรรคไม่มีปัญหา เมื่อปรับเสร็จก็ทำงานกันตามปกติ ก่อนปรับใครแสดงความคิดเห็นอะไรก็ปกติ ต่อข้อถามว่า ครม.ใหม่จะออกมาดูดีใช่ไหม นายสมชายกล่าวว่า ก็ดูดี ส่วนอื่นตนไม่ทราบ ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยส่วนตัวก็คุยกันเรื่องตำแหน่งต้องคุยกับนายกฯ ทั้งนี้แล้วแต่พรรคร่วมจะส่งใครมา
“สมชาย” ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา
สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้จะประคองอายุรัฐบาลให้อยู่ได้นานมากน้อยแค่ไหน นายสมชาย กล่าวว่า ทุกคนอยากประคองให้อยู่ได้นาน ตามกติกาอยู่ได้ 4 ปี เว้นแต่มีการยุบสภา ลาออก เมื่อถามว่าเท่าที่เห็นคิดว่าจะมีอะไรเป็นปัจจัยสอดแทรกเข้ามาทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น นายสมชาย กล่าวว่า ปัจจัยสอดแทรกก็มีทุกวัน พูดตรงไปตรงมาตน ไม่ค่อยกังวล เพราะคิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันปรับครม. เป็นไปตามกฎหมาย เมื่อมีตำแหน่งว่างก็ต้องปรับเข้ามา แล้วการเข้ามาก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หน้าที่เมื่อเข้ามาแล้วก็ทำงานเพื่อประชาชน ทำงานดี ประชาชนก็ชอบ ทำไม่ดีประชาชนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะมีปัญหาอะไรต้องไม่มองข้ามประโยชน์ประชาชน
“หลักการเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำมั่นสัญญากับประชาน ใครจะไปใครจะมา คิดว่าอยู่ในหลักนี้ทั้งสิ้น ตามกติกา การออกจากรัฐมนตรีถ้านายกฯพ้นหน้าที่ก็ออกไป ตั้งนายกฯใหม่ ครม.ใหม่ แต่ถ้านายกฯอยู่ก็มีสิทธิ์จะปรับใครเข้าออก เป็นกติกานอกจากนั้นก็ทำอะไรไม่ได้” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ที่มีการตั้งข้อสังเกตในครม.ว่านายสุวิทย์ทำตัวแตกต่างในรัฐบาล และเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจนนำไปสู่การปรับออก และถอนตัว จริงหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะคิดว่าเป็นความคิดของนายสุวิทย์ที่คิดถอนตัว มาจากอะไรไม่รู้ตอบแทนไม่ได้ เมื่อถามว่า ได้คุยกันหรือไม่ นายสมชายปฏิเสธว่า ไม่ได้คุย เนื่องจากตนไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ส่วนท่าทีของนายสุวิทย์ ก็เป็นไปเหมือนกับครม.คนอื่นที่มีสิทธิ์แสดงความเห็น
ซัดเหตุผล “สุวิทย์” ฟังไม่ขึ้น
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เหตุผลในการถอนตัวของนายสุวิทย์เป็นเหตุผลที่ยกขึ้นมาลอยๆไม่มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเรื่องเขาพระวิหาร และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเรื่องเก่าแต่เอามาพูดใหม่ ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงนั้นคิดว่าตัวเองคงถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีเลยต้องหาเรื่องถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
“การแก้ตัวเป็นธรรมดา พูดแต่เรื่องดีๆ แต่ผมเข้าใจว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวของนายสุวิทย์ ที่จะถูกปรับลดบทบาทลงในครม. เลยถอนตัว ซึ่งเท่าที่ฟังก็ถอนตัวไปคนเดียว เพราะคนอื่นยังยินดีที่จะร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ไม่แน่ใจที่นายสุวิทย์มาแถลงเป็นมติพรรค ที่ถูกต้องตามข้อบังคับหรือตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะหลายคนในกรรมการบริหารเพื่อแผ่นดินบอกว่าไม่ใช่มติของกรรมการบริหาร แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของหัวหน้าพรรค อันนี้เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อแผ่นดินต้องไปตรวจสอบเอาเอง”นายสุขุมพงศ์กล่าว
ไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล
เมื่อถามว่าตัวแทนวิปรัฐบาลจากพรรคเพื่อแผ่นดินได้ประสานมายังวิปรัฐบาลในกรณีนี้หรือไม่ นายสุขุมพงศ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ประชุมวิป แต่หากตัวแทนของพรรคเพื่อแผ่นดินเข้าร่วมประชุมแสดงว่ายังอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคที่เหลือคงจะต้องมีการหารือกรณีที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินดำเนินการเช่นนี้ถือเป็นการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ส่วนพรรคชาติไทยนั้นเท่าที่ทราบจากรองหัวหน้าพรรคชาติไทยก็ยืนยันว่าจะร่วมรัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้พรรคเพื่อแผ่นดินจะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจริง ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเมื่อหักจำนวนส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินจำนวน 24 เสียง รัฐบาลจะมีเสียงส.ส.จำนวน 280 เสียง ซึ่งเกินครึ่งไป 50 เสียงก็ถือว่ายังมั่นคงอยู่
24 ส.ส.จ่อย้ายเข้าพลังประชาชน
อย่างไรก็ดีมีข่าวว่ากลุ่มส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน อาจจะมีการประชุมกันเพื่อเฟ้นหาตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ เนื่องจากส.ส.ทั้งหฟมดเห็นพ้องต้องกันว่าจะร่วมรัฐบาลต่อไป หรือหากติดขัดในข้อกฎหมายหรือปัญหาใดๆ ก็ตามอาจตัดสินใจเข้าร่วมพรรคพลังประชาชน
ในส่วนของความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม.นั้น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม เนื่องจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ไม่ได้บอกว่าให้ไห้ไปอยู่กระทรวงไหน ส่วนตัวเองนั้นไม่ได้สนใจว่าจะไปอยู่กระทรวงไหนเป็นพิเศษ และไม่ได้ยึดติดกับเรื่องผลประโยชน์ เพียงแต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการผลักดันนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข มาเป็นรองประธานสภาฯ แทนนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา ขอให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่จะเป็นผู้พิจารณา ที่ผ่านมาตนไม่ได้วิ่งเต้นขอตำแหน่ง ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มาแทนตนนั้นยังไม่มีการหารือและเคงไม่มีเรื่องโควตามาเกี่ยวข้อง
เสธ.หนั่นเชื่อปรัครม.ปัญหายุติ
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งนี้ ภาพของรัฐบาลน่าจะดีขึ้น เพราะการปรับครม.ต้องทำในสิ่งที่ดี ๆ ให้กับประชาชน ส่วนปัญหาพรรคเพื่อแผ่นดินกรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล คิดว่าคงไม่ส่งผลกระทบกับรัฐบาล โดยในส่วนของพรรคชาติไทย จะต้องหารือกับพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน มีปัญหาหรือข้อข้องใจในการร่วมรัฐบาลอย่างไร จนถึงขณะนี้ ยังเห็นว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดิน ส่วนหนึ่งก็ยังอยู่กับรัฐบาล ดังนั้น จึงเชื่อว่าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่มีปัญหา ถ้า ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ถอนตัวทุกคน ก็คงต้องมาดูเงื่อนไข 5 ข้อ ที่พรรคชาติไทยทำไว้กับพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ถ้ายังมีส่วนหนึ่งร่วมรัฐบาลอยู่ คิดว่าขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขอะไรที่พรรคชาติไทยต้องถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ถ้าพรรคถอนตัวแบบทันทีทันใด คงเป็นการมารยาท
รุบุ “สุวิทย์”มีปัญหาภาวะผู้นำ
มีรายงานข่าวแจ้งว่า กรณีการเกิดปรากฏการณ์งูเห่าในตอนนี้ ได้มีการจับตามองการทำงานของนายสุวิทย์ คุณกิตติมาระยะหนึ่งแล้ว และมีการประเมินกันว่า นายสุวิทย์คงไม่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกับรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชได้ เพราะมีปัญหาภายในพรรค จากภาวะความเป็นผู้นำของหัวหน้าพรรค และการเอาตัวรอดจากการที่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทำการตรวจสอบและถอดถอนคณะรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินส่วนใหญ่มีความประสงค์จะอยู่ร่วมกับรัฐบาล เพื่อให้มีผลงานทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป จนมีการพูดกันว่า เป็นการเอาคืนของนายสมัคร สุนทรเวช ที่เคยประสบกับปัญหาเรื่องชาวนากับงูเห่ากับตัวเองมาแล้ว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยรายชื่อในโผคณะรัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ โดยคาดว่าจะมีการปรับใหญ่ราว 10 เก้าอี้ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.จะได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย แทน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่จะถูกปรับออกจาก ครม. โดยวานนี้ พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางเข้าไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม ที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว
มิ่งขวัญสลับนั่งอุตสาหกรรม
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะถูกโยกไปดูแลงานกระทรวงอุตสาหกรรม แทนนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ประกาศถอนตัวออกไป โดยนายมิ่งขวัญ จะรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ขณะที่นายไชยา สะสมทรัพย์ ซึ่งต้องพ้นสภาพจากความเป็นรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้จะกลับเข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล จาก รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะโยกมานั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในโควตาของพรรคพลังประชาชน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ มาเป็น รมว.วัฒนธรรม ขณะที่นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ โยกไปเป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนอีกกระแสคาดหมายว่านายสมศักดิ์จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมฯ
กลุ่มบ้านริมน้ำคว้าก.พาณิชย์
ด้านโควตาของพรรคเพื่อแผ่นดิน นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำจะได้เข้ามาเป็น รมช.พาณิชย์ แทนนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่จะถูกปรับออก และมาในโควตาเก้าอี้ของนายสุวิทย์ ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ มาเป็น รมช.คลัง แทน ว่าที่ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี และ นายประสงค์ โฆษิตานนท์ นายทุนของพรรคจะเข้ามาเป็น รมช.มหาดไทย แทนนายสิทธิชัย โควสุรัตน์
ส่วนนายมั่น พัธโนทัย จะได้รับมอบหมายให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบเก้าอี้ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
รายงานข่าว เปิดเผยว่า กระแสข่าวอีกด้านหนึ่งยังปรากฏชื่อ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ที่จะถูกผลักดันจากฝั่งพรรคพลังประชาชนเข้ามารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ รวมทั้งด้านพรรคชาติไทย แม้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จะออกมายืนยันว่าไม่มีการปรับ ครม.ในโควตาพรรคชาติไทย แต่ก็มีกระแสข่าวว่ามีการผลักดันให้นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร หัวหน้าพรรค เข้ามาเป็น รมช.พัฒนาสังคม