ยักไหล่ ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี โดยภาษาทางกายที่ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงท่าทางประกอบการตอบคำถามกรณีที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แถลงข่าวใหญ่ถอนตัวออกจากรัฐบาล ไม่ได้มีผลกระทบการปรับ ครม. ตีบทให้เห็นเลยว่า ไม่ยี่หระ ก็แน่นอนล่ะ โดยสถานการณ์ที่ปรากฏตามข่าว ภายหลังนายสุวิทย์แถลงถอนตัวไม่ถึง 5 นาที ก็มีเสียงโวยวายจากลูกพรรคในก๊วนของนายสุชาติ ตันเจริญ สวนควันทันที ไม่เคยรู้เรื่องด้วยเลย โบ้ยเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของนายสุวิทย์เพียงลำพังคนเดียว ไม่ใช่มติของคณะกรรมการบริหารพรรคแต่อย่างใด แต่ช็อตที่ “ลุงหมัก” มั่นใจถือไพ่เหนือกว่า โดยอาการชิงสวามิภักดิ์ ลูกทีมก๊วนนายสุชาติและเครือข่ายสายบ้านสวนหลวงของนายวัฒนา อัศวเหม ได้ล่ารายชื่อส่งแฟกซ์ถึงทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 29 กรกฎาคม “เพื่อแผ่นดิน” แตกค่าย แสดงตนเป็นเมืองขึ้น และรุ่งขึ้นอีกวัน ก็เป็นนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ จากการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 20 กว่าคน ยืนยันสนับสนุนรัฐบาลต่อไป โดยได้แจ้งให้นายกฯสมัครทราบ พร้อมกับได้ส่งรายชื่อปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินให้นายกฯเรียบร้อย รวบรัดตัดความ รีบปิดเกมเลย และผลของการหักดิบกันเอง เสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีสิทธิยกมือโหวตในสภายังพร้อมร่วมรัฐบาลต่อไป โดยโควตา 4 คน 5 ตำแหน่งรัฐมนตรีก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ สลับหน้าเล่น นายมั่นยังอยู่ในเก้าอี้ รมว.ไอซีที พร้อมควบรองนายกฯอีกตำแหน่ง ขณะที่หน้าใหม่ เป็นคิวของนายทุนใหญ่ที่ให้การสนับสนุนพรรคมาตั้งแต่ต้น โดยนายประสงค์ โฆษิตานนท์ อดีต ส.ว.เพชรบูรณ์ เจ้าของอาณาจักรสุโขทัยหินอ่อน จะเข้ามาเสียบตำแหน่ง รมช. มหาดไทย แทนนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นักธุรกิจเหมืองแร่และพลอยในปักษ์ใต้ จะมานั่งเก้าอี้ รมช.คลัง แทน ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี และ กลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ส่งนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ พี่ชายของนายสุชาติ นั่งเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ คืนโควตา รมว.อุตสาหกรรมกลับไปให้พรรคพลังประชาชน เปิดทางให้โยกนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ เข้าเสียบแทน ขยับไปขยับมาจนลงล็อก เกลี่ยโควตากันลงตัว ยังดีที่ได้ลูกเก๋าคุมเกมไม่ให้มั่ว ในยามที่กระบี่มือหนึ่งอย่าง นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ฯลฯ ทำได้แค่นั่งลุ้นอยู่ข้างสนาม ตีประคองเกมไป รักษาเส้นทางพรรคเพื่อแผ่นดินให้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล คนที่หลุดวงโคจรไปก็คือ “สุวิทย์” กับสถานะใหม่ “โดดเดี่ยวผู้น่าสงสาร” แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้ใจ โดยปมที่ถูกเขี่ยพ้น ครม. ข้อหาหมั่นไส้ฐานทำตัวเป็นผู้นำฝ่ายค้านในคณะรัฐมนตรี ขวางทางปืนมันซะทุกเรื่อง แถมยังมีพฤติกรรมฝักใฝ่ม็อบพันธมิตรฯ โดนระแวงแฝงตัวจ้องเสียบเก้าอี้นายกฯรักษาการหลัง ครม.โดนถอดถอนยกชุดจากปมปราสาทพระวิหาร “สุวิทย์” ก็ได้คะแนนจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเหมือนกัน ทั้งหมดทั้งปวง ประเมินจากคิวหักดิบ “สุวิทย์” เสมือนการเผาหัวเกมรบขั้นแตกหัก อ่านหมากปรับ ครม.ที่ “ลุงหมัก” เน้นปรับทัพภายในพรรคพลังประชาชน ทิ้งทวนเข้าสู่โหมดการต่อสู้เต็มรูปแบบ ประกอบกับล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี กรณีเห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้พม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า ไม่นับคดีที่ดินรัชดา คดีหวยบนดิน คดีเลี่ยงภาษี ฯลฯ โดยสถานการณ์ ต้องนับถอยหลังกันตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เกมบีบให้สู้ยิบตา ก่อนลี้ภัย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน