WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 18, 2008

เย้ยปชป.กลัว‘ทักษิณ’จนออกอาการ

“สมัคร” ยันไม่ยุบสภา ขอทำงานต่อไป มั่นใจจัดการเรื่องในพรรคได้ ออกปากชม “ความจริงวันนี้”เป็นรายการที่ดี แต่เข้าข่าย “ทำดีอัปรีย์กินหัว” ขณะที่ ASTV กลับไม่มีใครตรวจสอบ “กุเทพ” ชี้บ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้า อัด สตช.-ปชป.ขอให้เคารพสิทธิมนุษยชน เย้ยอย่ากลัว “ทักษิณ” จนออกอาการ “สุรชาติ” ชี้ให้นึกถึงความดีที่อดีตนายกฯ ทำให้ประเทศชาติบ้าง

จากการที่สมาชิกพรรคพลังประชาชน จ.พิจิตร ขึ้นชื่อป้ายสาขาพรรคเพื่อไทย
แทนป้ายพรรคพลังประชาชน และมีการเลือกตั้งกรรมการบริหารสาขาพรรค ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการเตรียมพรรคไว้รองรับ หากมีการยุบพรรคนั้น
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครว่า จะไม่มีการยุบสภาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชาชน ตนสามารถจัดการได้ ยืนยัน หากรัฐบาลไม่มีปัญหาและอุปสรรคคดีความต่างๆ ก็จะอยู่ครบ 4 ปี และไม่ทราบถึงกรณีที่มีสาขาพรรคพลังประชาชนในต่างจังหวัดปลดป้ายสาขาพรรคออก และเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ตนเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำ แต่จะรักษาบ้านเมืองไว้ให้เป็นอย่างเดิมให้ได้

ยังเชื่อมั่นเสียงสนับสนุนของ ปชช.
"สำหรับบ้านเมือง พรรคพลังประชาชนเป็นคนดูแลให้รัฐบาลนี้อยู่ร่วมอีก 5 พรรคการเมือง ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น การเมืองจะดำเนินการต่อไปครับ ถ้าดำเนินการต่อไปได้จนครบกระบวนการ ผมก็จะอยู่ครบทั้งกระบวนการ ส่วนจะมีเหตุเภทภัยที่จะทำให้ผมต้องหัวทิ่มล้มลุกลงไป ก็สุดแท้แต่ว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น สั่งว่าอย่างนี้ผิด ผมก็ต้องผิด สั่งว่าอย่างนี้ต้องออก ผมก็ต้องออก ผมบอกแล้วว่า ผมเป็นสายการบินโลว์คอสต์ต้นทุนต่ำ เวลาเลิกไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นการบินไทย หากเลิกจะเป็นเรื่องใหญ่"นายสมัคร กล่าวและย้ำว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุข ให้คนไทยได้กลับมาสมัครสมานสามัคคี ซึ่งเป็นไปได้ และมั่นใจว่าคนทั้งประเทศเห็นด้วย ส่วนคนอีกหยิบมือหนึ่งจะทำอะไร อย่างไร สื่อมวลชนจะถือหางอย่างไรก็ทำไป จะดูหมิ่นรัฐบาลหรือยกย่องคนพวกนี้ต่อไป ก็ทำไป แล้ววันหนึ่งจะได้รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการสอบอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่อนุญาตให้ บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ เข้ามาดำเนินรายการความจริงวันนี้ โดยกล่าวว่า ในทรรศนะของตนรายการความจริงวันนี้ ป็นรายการที่ดี แต่ผลที่ได้รับออกมาในลักษณะ ทำดีอัปรีย์กินหัว ตรงกันข้าม สถานีโทรทัศน์ ASTV กลับไม่มีใครไปดำเนินการตรวจสอบ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวโดยเชื่อว่า มีประชาชนส่วนใหญ่ที่เห็นด้วยกับรัฐบาล และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นการพยายามล้มล้างรัฐบาล

ควรเคารพสิทธิมนุษยชนอดีตนายกฯ
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางออกนอกประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว จน สตง. ออกหมายจับว่า ถึงขณะนี้พรรคขอเรียกร้องทุกฝ่ายเคารพสิทธิมนุษยชนของอดีตนายกฯและครอบครัว เพราะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจออกจากประเทศ เพราะใช้สิทธิความเป็นมนุษย์ และต้องการให้การเมืองสงบและดีขึ้น ใครจะมองอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเป็นเช่นนี้การเมืองไทยจะมีบรรยากาศที่ดี เพราะการเมืองจะเดินหน้า หากอดีตนายกฯ ยังอยู่ในประเทศการเมืองจะติดหล่ม เพราะบางคนโยงอดีตนายกฯ ให้เข้ามายุ่งกับการเมือง จนการเมืองเดินไม่ได้
และฝากถามว่า ผู้ที่เอาการทำงาน ในการนำของอดีตนายกฯ มาประจาน ไม่ทราบว่ามีจุดหมายเช่นใด เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แสดงตัวเสมือนเจ้าหน้าที่รัฐ และเปิดเผยท่าทีชัดเจนว่าจะนำหมายจับไปเผยแพร่และประจาน ตอนนี้อดีตนายกฯ อยู่ที่อังกฤษ และควรปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยศาลจะมีมาตรการนำตัวอดีตนายกฯมาดำเนินคดีเอง เพราะอดีตนายกฯ ไม่ได้ล่องหนไปไหน

ติง ปชป.อย่ากลัวเงา “ทักษิณ”
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน เพราะกำลังเล่นการเมืองแบบสร้างกรงขังตัวเอง แทนที่จะทำให้การเมืองทะลุทางตันเดินหน้าไปได้ แต่กลับสร้างกรงขังตัวเอง ตนรู้ว่าพรรคนั้นกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่ต้น พ.ต.ท.ทักษิณ ผจญวิบากกรรมแบบนี้แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังกลัวแบบนี้โดยเฉพาะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ใช้ทฤษฎีเดิมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวโยงกับการเมืองและใช้ทุนรอนมาสนับสนุนการเมือง
โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวอีกว่า ขอถามว่านายสุเทพที่กังวลกับอดีตนายกฯ นั้น กลัวคนที่จะโดนยึดทรัพย์ว่าจะมาข้องเกี่ยวการเมืองแบบนี้ ขอถามถึงความวิตกของนายสุเทพว่า มีมากและในทางจิตวิทยาเรียกว่า กลัวแม้แต่ชื่อและเงาของอดีตนายกฯ ภาษาอังกฤษเรียกว่าพารานอยด์และโฟเบีย พรรคประชาธิปัตย์อย่าสร้างกรงขังตัวเอง เพราะสิ่งที่นายสุเทพพูดนั้นคือข้อมูลเก่า แต่สภาพการณ์วันนี้อดีตนายกฯ อยู่ในสภาพเอาตัวแทบไม่รอด ทำไมต้องซ้ำเติม

สตช. มีหูมีตารู้ว่า “ทักษิณ” อยู่ไหน
ขอถามว่านายสุเทพมีปัญญาเพียงเท่านี้หรือ หากยังสู้กับอดีตนายกฯ ในสภาพแบบนี้ และยังหวาดกลัวเช่นนี้ นายสุเทพจะมีภาพผู้นำทางการเมืองได้อย่างไร
“ขอเรียกร้องไปยังหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่ามาดูความเคลื่อนไหวในพรรคเสียหน่อย คนที่ดูแคลนคนอื่นเรื่อยๆ เช่น ดูแคลน นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแบบนี้ หากพรรคนั้นไม่มีคนสร้างสรรค์ทางการเมือง ผมเสียดายแทนว่าสถาบันอย่างประชาธิปัตย์ขาดแคลนบุคลากรการทำแบบนี้ สร้างสรรค์เป็นประโยชน์กับการเมืองหรือไม่”
เมื่อถามว่าทำไมไม่เสนอให้เรียกตัวอดีตนายกฯ กลับมาสู้คดีในไทย ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แบบปัจเจกชน การตัดสินใจเรื่องชีวิตส่วนบุคคลนั้นขอให้เคารพตามหลักสิทธิมนุษยชน และขอให้ย้อนไปดูว่ากรณีเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะก็เคยเกิดขึ้น แต่ไม่มีเคยเหยียบย่ำซ้ำเติม และประณามกันขนาดนี้ หลักปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็เกิดขึ้นอยู่ ขอถามว่ากรณีของอดีตนายกฯ นั้น สตช. มีตามองเห็นมีหูรับฟัง มีสมองรับรู้หรือไม่ว่าอดีตนายกฯ อยู่ที่ไหน หากรับรู้ได้จะรู้ว่าเป้าอยู่ตรงไหนก็จะส่งไปที่นั่นได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บรรทัดฐานที่ทำกับคนอื่นที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน

เชื่อ “สมัคร” จัดการปัญหาพรรคได้
“หากไม่มีสติปัญญารู้ว่าทักษิณอยู่ตรงไหนขณะนี้ ก็ไปถามตาสีตาสาบ้านนอกก็ได้เพราะพวกเขาดูข่าวทีวีและรู้ว่าท่านอยู่อังกฤษ แล้วทำไมต้องเที่ยวติดตาม แล้วนายสนธิใช้สิทธิอะไรในการนำเรื่องเหล่านี้เข้าเว็บไซต์เผยแพร่ทุกจุดของประเทศ หากไม่ใช่เพียงต้องการประจาน ขอถามว่ามันได้ประโยชน์อะไร เราเคารพสิทธิมนุษยชน วันนี้ท่านล้มก็อย่าข้าม ท่านเป็นมนุษย์ เรามาเรียกร้องอะไรเพราะขั้นตอนยุติธรรมที่มีหน้าที่ก็ทำไป และข้อตกลงระหว่างประเทศก็ว่ากันไป คนอื่นที่ไม่เกี่ยวก็หันมาดูการเมืองในประเทศว่าเอาการเมืองให้เดินหน้าดีกว่า” ร.ท.กุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรคมองว่านายสมัครแสดงท่าทีปกป้องอดีตนายกฯ เพียงใด ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้นายสมัครมาปกป้องอดีตนายกฯ ไม่ได้พอใจหรือไม่พอใจการทำงาน เพราะให้นายสมัครไปทำงานให้ประชาชนและประเทศ และต้องชมนายสมัครที่พูดได้ดีในรายการวันนี้ว่า มีเวลาเท่าใดก็ทำงานให้ประชาชนเต็มที่ สนับสนุนตรงนี้ ฉะนั้นเมื่อทำงานเต็มที่ก็ไม่ประสงค์ให้นายสมัครมาปกป้องใคร เพียงแต่เมื่อมีคนนำเรื่องนี้ไปประจานที่มองว่าเกินกว่าเหตุ
แต่คนที่ผูกพันกับอดีตนายกฯ ก็จะเชิญนายสมัครมาชี้แจงสักหน่อยและเชื่อว่านายสมัครจะจัดการกลไกภายในพรรคได้และไม่มีปัญหากับสังคม

ยุบพรรคแค่เรื่องเก่าเอามาพูดใหม่
ส่วนปัญหาข้างนอกนั้นนายสมัครต้องจัดการด้วยความยากลำบาก เพราะอยู่นอกเหนือสิ่งที่นายสมัครไปเกี่ยวข้อง ตนเชื่อ เพราะอยู่กับนายสมัครมาระยะหนึ่ง เมื่อนายสมัครอธิบายความในพรรคทุกอย่างก็เรียบร้อย และ ส.ส. ไม่มีอคติและยังสนับสนุนนายสมัครทำงานด้วยดังนั้นเรื่องต่างๆ ขอให้เป็นเรื่องภายในพรรคและนายสมัครจะมาจัดการ และเรื่องในพรรคหากชี้แจงแล้วก็ยิ่งกว่าตอบกระทู้ในสภาเสียอีก และหากจะมีการยื่นกระทู้ขึ้นอีกนั้นก็ทำได้เช่นกัน แต่หากยังมีกระทู้ถามอีกโดยเฉพาะมาจากพรรคพลังประชาชนมันจะยิ่งเป็นการประจานอดีตนายกฯ เพิ่มขึ้นไปอีก
ส่วนการยุบพรรคพลังประชาชนนั้น ได้แสดงท่าทีชัดเจนอีกครั้งว่าข่าวนี้คือข่าวเก่าที่นำมาเล่าใหม่ให้ตื่นเต้น เพราะทราบกันตั้งแต่คดีใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคว่าพรรคคงจะโดนยุบ และวันนี้เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นใหม่ การนำข่าวเก่ามาชงประเด็นใหม่แบบนี้จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกการเมืองแบบไม่จำเป็น ตนเชื่อว่า กกต. จะมีความเห็นไม่แตกต่างกับการเสนอยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยโดยไม่มีทางแตกต่างเป็นอื่นตรงนี้คือกระบวนการยุติธรรมของบ้านเราที่ไม่สามารถคาดเป็นอื่นได้ และ กกต. มีมติรวมทั้งส่งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดก็คาดได้อีกว่าท่าทีของอัยการสูงสุดจะไม่แตกต่างกับกรณีพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย คดีของพรรคก็จะเดินไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าไม่มีใครกล้าสร้างบรรทัดฐานอื่นๆ แน่นอน กกต. และอัยการสูงสุดไม่กล้าหักลำเป็นอื่นแน่ เพราะทุกคนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญคือคำตอบสุดท้าย

เชื่อนายกฯไม่เลือกหนีปัญหา
“หากถามว่าพรรคเตรียมตัวอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะในชั้นอนุกรรมการสอบสวน กกต. พรรคก็ชี้แจงเต็มที่และไม่แน่ใจว่าจะมีการเรียกพรรคไปชี้แจงอีกหรือไม่ และตอนนี้เตรียมทีมทนายความไปสู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และไม่หวังอะไร ถามว่าพรรคคาดหวังอะไรหรือไม่ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าไม่หวัง แต่พรรคจะทำไปแบบนี้ แม้จะมีความเห็นบางฝ่ายในพรรคบอกว่า ขอให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ยุบสภาก่อนยุบพรรค ผมขอบอกว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล วันนี้นายสมัครกล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครนั้น นายสมัครไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เพราะนายกฯ เชื่อว่ามีเวลาเท่าใดก็ทำงานให้เต็มที่ไม่วิตกทุกข์ร้อนเรื่องยุบหรือไม่ยุบพรรค และไม่วิตกคดีของตัวเองด้วย หากมีเวลานายกฯ ก็บอกว่าจะทำงาน หากไม่ให้ทำก็ไม่ทำ และเหมือนว่านายกฯ จะไม่ใช้วิธีการอื่นๆ ที่ชิ่งหนีปัญหาที่ต้องเผชิญ”
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การยุบสภาก่อนยุบพรรคนั้น อาจเป็นวิธีทางหนึ่งแต่หากยุบสภาแล้วคดียุบพรรคยังคาราคาซังและไม่สะเด็ดน้ำนั้นก็มีปัญหา ฉะนั้นความเห็นของอีกฝ่ายจะบอกว่าหากมีการยุบพรรคแต่สภายังอยู่ ก็ไม่ต้องวิตก ส.ส. ก็รวมกลุ่มไปอยู่พรรคใหม่คนที่โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็หาคนมาลงสมัครให้ประชาชนพิสูจน์ พรรคร่วมรัฐบาลที่โดนยุบก็จับมือเกี่ยวแขนเป็นรัฐบาลต่อไปได้เพราะดุลและที่นั่งในสภายังไม่เปลี่ยนแปลง วิธีแบบนี้มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ติง สตช.ไม่ให้เกียรติอดีตนายกฯ
ทางด้าน นายสุรชาติ ชำนาญศิลป์ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น่าจะมีการนั่งคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนออกหมายจับไปทั่วประเทศและเป็นข่าวไปทั่วโลก เพราะหมายจับนั้นน่าจะส่งไปที่บ้านพักที่ประเทศอังกฤษโดยตรงเลย และน่าจะให้เกียรติอดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะทำความดีกับประเทศชาติมามาก
นอกจากนี้ นายสุรชาติ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีบ้านเลขที่ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี น่าจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกานิรโทษกรรมให้บุคคลเหล่านี้ จะได้เป็นคนดีของสังคม และทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป